ภาพจากกล้องฮับเบิลแสดงกาแลคซี MCG+07-33-027 เป็นกาแลคซีที่กำลังก่อตัวดาวอย่างคึกคักมากหรือ starburst galaxy Image credit: International Business Times
ทีมนักดาราศาสตร์ฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกนได้บรรลุถึงข้อสรุปใหญ่เกี่ยวกับประชากรดาวฤกษ์นอกกาแลคซีทางช้างเผือกของเรา
ผลสรุปนี้อาจจะเปลี่ยนแปลงความเข้าใจของเราเกี่ยวกับปรากฏการณ์ประหลาดทางดาราศาสตร์ในขอบเขตที่หลากหลาย
ซึ่งรวมถึงการก่อตัวของหลุมดำ, ซุปเปอร์โนวา และเพราะเหตุใดกาแลคซีจึง “ตาย”
กาแลคซีอันโดรเมดา(Andromeda) เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ทางช้างเผือกมากที่สุด
ก็เป็นวัตถุที่อยู่ไกลที่สุดบนท้องฟ้าที่คุณจะสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าด้วย
เป็นเวลานานตราบเท่าที่มนุษยชาติได้ศึกษาสรวงสวรรค์ว่า ดาวในกาแลคซีที่ห่างไกลจะมีสภาพเป็นอย่างไรนั้นก็ยังเป็นปริศนา
ในการศึกษาใหม่ที่เผยแพร่ใน Astrophysical Journal ทีมนักวิจัยที่สถาบันนีล บอห์ร
มหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน
กำลังทำงานกับความเข้าใจก่อนหน้านี้เกี่ยวกับดาวนอกกาแลคซีของเรา
นับตั้งแต่ปี 1955 ก็สันนิษฐานว่าองค์ประกอบของดาวในกาแลคซีอื่นๆ
ในเอกภพ ก็คงคล้ายกับดาวนับแสนล้านดวงในทางช้างเผือกของเรา คือ
เป็นส่วนผสมของดาวมวลสูง, มวลปานกลาง และมวลต่ำ
แต่ด้วยความช่วยเหลือจากการสำรวจกาแลคซี 140,000 แห่งทั่วเอกภพ และแบบจำลองชั้นสูงอีกชุดใหญ่
ทีมได้ทดสอบว่าการกระจาย(มวล) ของดาวในทางช้างเผือกจะสามารถใช้กับที่อื่นๆ
ได้หรือไม่ คำตอบก็คือ ไม่ได้
ดาวในกาแลคซีที่ไกลโพ้นมักจะมีมวลสูงกว่าพวกที่อยู่ในละแวกท้องถิ่นของเรา
การค้นพบนี้ส่งผลอย่างใหญ่หลวงต่อสิ่งที่เราคิดว่าเรารู้จักในเอกภพนี้
มวลของดาวบอกเหล่านักดาราศาสตร์ได้มากมาย
ถ้าคุณเปลี่ยนมวล
คุณก็จะเปลี่ยนจำนวนของซุปเปอร์โนวาและหลุมดำที่เกิดขึ้นจากดาวมวลสูงด้วย
ด้วยเหตุนี้
ผลสรุปของเราจึงหมายความว่าเราจะต้องปรับปรุงหลายอย่างที่เราเคยคาดเดาไว้
เนื่องจากกาแลคซีที่ไกลโพ้นนั้นดูค่อนข้างต่างจากกาแลคซีของเรา Albert
Sneppen นักศึกษาปริญญาโทที่สถาบันนีล
บอห์ร และผู้เขียนคนแรกในการศึกษานี้ กล่าว
นักวิจัยประเมินขนาดและมวลของดาวในกาแลคซีอื่นๆ ว่าใกล้เคียงกับดาวในกาแลคซีของเรามานานกว่าห้าสิบปีแล้ว
ด้วยเหตุผลง่ายๆ ก็คือ พวกเขาไม่สามารถใช้กล้องโทรทรรศน์สำรวจพวกมันได้อย่างที่ทำได้กับดาวในกาแลคซีของเรา
กาแลคซีที่อยู่ห่างไกลนั้นอยู่ไกลออกไปหลายพันล้านปีแสง ด้วยเหตุนี้
จึงมีแต่แสงจากดาวที่ทรงพลังที่สุด, มวลสูงและสว่างที่สุดในกาแลคซีเท่านั้นที่เดินทางมาถึงเราได้
และจะต้องคาดเดาเกี่ยวกับประชากรดาวที่มีมวลเบากว่า
จึงเป็นเรื่องทีสร้างความปวดหัวให้กับนักวิจัยทั่วโลกมาหลายปี
เมื่อพวกเขาไม่เคยจะแน่ใจว่าดาวในกาแลคซีแห่งอื่นๆ มีการกระจาย(มวล) อย่างไร
เป็นความคลาดเคลื่อนที่บังคับให้พวกเขาต้องเชื่อว่าพวกมันมีการกระจายเหมือนกับดาวในกาแลคซีของเรา
เราทำได้เพียงมองยอดของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น
และรู้มานานแล้วว่าการคาดหวังว่ากาแลคซีแห่งอื่นๆ
จะเหมือนกับกาแลคซีของเรานั้นไม่ใช่ข้อสันนิษฐานที่ดีเลย อย่างไรก็ตาม
ไม่มีใครที่สามารถพิสูจน์ได้ว่ากาแลคซีแห่งอื่นๆ จะมี(สัดส่วน)
ประชากรดาวที่แตกต่างออกไป การศึกษานี้ช่วยให้เราทำแบบนั้นได้ ซึ่งอาจจะเปิดประตูสู่ความเข้าใจที่ลึกซึ้งมากขึ้นเกี่ยวกับการก่อตัวและวิวัฒนาการของกาแลคซี
Charles Steinhardt รองศาสตราจารย์
ผู้เขียนร่วมการศึกษานี้ กล่าว
ในการศึกษา
นักวิจัยได้วิเคราะห์แสงจากกาแลคซี 140,000 แห่งในบัญชีรายชื่อ COSMOS ซึ่งเป็นฐานข้อมูลการสำรวจแสงมากกว่าหนึ่งล้านงานจากกาแลคซีอื่นๆ
ในระดับนานาชาติ กาแลคซีเหล่านั้นกระจายอยู่ตั้งแต่ใกล้ที่สุดจนถึงห่างไกลที่สุดในเอกภพซึ่งแสงใช้เวลาเดินทาง
12 พันล้านปีก่อนที่จะสำรวจได้บนโลก
ทีมได้พบว่าโดยเฉลี่ยแล้ว
ดาวในกาแลคซีที่ไกลโพ้นมักจะมีมวลสูงกว่าพวกที่อยู่ในละแวกท้องถิ่นของเรา
การค้นพบนี้ส่งผลอย่างใหญ่หลวงต่อสิ่งที่เราคิดว่าเรารู้จักในเอกภพนี้
นักวิจัยบอกว่า
การค้นพบใหม่จะส่งนัยอย่างกว้างขวาง ยกตัวอย่างเช่น
ยังคงเป็นปัญหาที่ไม่มีคำตอบว่าเพราะเหตุใดกาแลคซีจึงตายและหยุดก่อตัวดาวฤกษ์ใหม่ๆ
ผลสรุปใหม่บอกว่านี่อาจอธิบายได้ด้วยแนวโน้มธรรมดา Sneppen กล่าวว่า
ขณะนี้เมื่อเราสามารถถอดรหัสมวลของดาวได้ดีขึ้น เราก็จะเห็นรูปแบบใหม่คือ
กาแลคซีที่มีมวลต่ำสุดยังคงก่อตัวดาวฤกษ์ ในขณะที่กาแลคซีที่มีมวลสูงขึ้นมาหยุดสร้างดาวใหม่
นี่บอกถึงแนวโน้มอันเป็นสากลในการตายของกาแลคซี
งานวิจัยทำที่ศูนย์อรุณรุ่งแห่งเอกภพ(Cosmic
Dawn Center) ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยดาราศาสตร์พื้นฐานในระดับนานาชาติที่ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิวิจัยแห่งชาติเดนมาร์ก
DAWN เป็นความร่วมมือระหว่างสถาบันนีล
บอห์ร มหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน กับ DTU Space ที่มหาวิทยาลัยเทคนิคแห่งเดนมาร์ก
ศูนยนี้อุทิศให้กับความเข้าใจว่ากาแลคซีแห่งแรกๆ ก่อตัวอย่างไรและเมื่อใด,
ดาวและหลุมดำก่อตัวและพัฒนาอย่างไรในเอกภพยุคต้น
ผ่านการสำรวจที่ทำโดยกล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่ที่สุดพร้อมกับงานทางทฤษฎีและแบบจำลองเสมือนจริง
แหล่งข่าว spaceref.com
: stars are heavier than we thought
sciencealert.com : census
of 140,000 galaxies reveals a surprising fact about their stars
universetoday.com : the
stars in other galaxies are generally heavier than the Milky Way’s stars
No comments:
Post a Comment