ภาพจากศิลปินแสดงกาแลคซียักษ์แห่งหนึ่งที่มีไอพ่นพลังงานสูง
นักดาราศาสตร์ได้พบวัตถุปริศนาขนาดใหญ่ 2 อย่างที่พุ่งออกจากหลุมดำที่สว่างที่สุดในเอกภพเท่าที่เคยรู้จักมา
หลุมดำมวลมหาศาล(supermassive black hole) ของ 3C
273 ถูกพบในการสำรวจแหล่งคลื่นวิทยุเมื่อปี
1959 มันเป็นเควซาร์(quasar)
ย่อมาจาก quasi-stellar
object เนื่องจากแสงที่เปล่งออกจากหลุมดำยักษ์เหล่านี้สว่างมากพอที่จะเข้าใจผิดว่าเป็นแสงดาวฤกษ์ได้
ในขณะที่ โดยตัวหลุมดำเองไม่เปล่งแสงใดๆ
แต่หลุมดำขนาดมโหฬารก็จะมีกลุ่มก๊าซก้อนมหึมาหมุนวนรอบๆ ซึ่งเรียกว่า
ดิสก์สะสมมวลสาร(accretion disk) เมื่อก๊าซตกลงสู่หลุมดำด้วยความเร็วเกือบเท่าแสง
ความร้อนจากแรงเสียดทานจะทำให้วัสดุสารในดิสก์ร้อนขึ้นและเปล่งรังสี
ซึ่งโดยปกติจะตรวจจับได้เป็นคลื่นวิทยุ
เควซาร์ 3C 273 เป็นเควซาร์แห่งแรกที่เคยพบมา
และมันยังเป็นเควซาร์ที่สว่างที่สุด โดยเจิดจ้ามากกว่า 4 ล้านล้านเท่าดวงอาทิตย์ และยังเป็นเควซาร์ที่อยู่ใกล้ทางช้างเผือกมากที่สุดอยู่ห่างออกไปมากกว่า
2.4 พันล้านปีแสง
ตลอดหลายทศวรรษ นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษานิวเคลียสหลุมดำที่เจิดจ้านี้อย่างเข้มข้น
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเควซาร์นี้สว่างมาก
การศึกษากาแลคซีรอบข้างที่เป็นต้นสังกัดของมันจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้ ความสว่างเช่นนี้จึงทำให้นักวิทยาศาสตร์พบกับความมืดมนว่าเควซาร์ส่งผลกระทบต่อกาแลคซีต้นสังกัดของพวกมันอย่างไรบ้าง
แต่การศึกษาใหม่ที่เผยแพร่ใน Astrophysical Journal วันที่ 28 เมษายน ก็อาจจะจบความมืดมนนั้นในที่สุด
ในการศึกษา
ทีมนักวิจัยได้ใช้กล้องโทรทรรศน์วิทยุ ALMA ในชิลี เพื่อแยกแสงเรืองรองจากเควซาร์ 3C
273 ออกจากแสงที่กาแลคซีต้นสังกัดเปล่งออกมา
โดนใช้เทคนิคใหม่ที่เรียกว่า self-calibration โดยการลดแสงจ้าจากเควซาร์โดยใช้ตัวเควซาร์เองเพื่อปรับความปั่นป่วนจากชั้นบรรยากาศของโลกซึ่งอาจส่งผลต่อการตรวจจับคลื่นวิทยุของ
ALMA ซึ่งจะทำให้ความเปรียบต่าง(contrast)
เพิ่มสูงขึ้น เมื่อเหลือเพียงแต่แหล่งวิทยุที่กาแลคซีเปล่งออกมา
ก็เผยให้เห็นโครงสร้างวิทยุปริศนาขนาดใหญ่ 2 แหล่งที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน
โครงสร้างหนึ่งดูจะเป็นก้อนแสงวิทยุขุ่นมัวขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบกาแลคซีทั้งหมดไว้
จากนั้นก็แผ่ยืดออกไปหลายหมื่นปีแสงในทิศทางตะวันตกเฉียงใต้
กลุ่มหมอกวิทยุนี้ซ้อนทับกับโครงสร้างที่สอง ซึ่งเป็นไอพ่นพลังงานลำเขื่อง ที่เรียกว่า
ไอพ่นดาราศาสตร์ฟิสิกส์(astrophysical jets) ซึ่งก็พาดยาวหลายหมื่นปีแสงด้วยเช่นกัน
นักวิทยาศาสตร์ยังไม่แน่ใจว่าไอพ่นดาราศาสตร์ฟิสิกส์ก่อตัวได้อย่างไรหรือเพราะอะไร
อย่างไรก็ตาม พวกเขาทราบว่าไอพ่นนั้นพบได้ทั่วไปรอบๆ เควซาร์และหลุมดำมวลมหาศาลอื่นๆ
และน่าจะเกิดขึ้นจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างหลุมดำกับดิสก์สะสมมวลสารของมัน
ไอพ่นมักจะประกอบด้วยสสารที่มีประจุไฟฟ้า(หรือไอออน)
และเดินทางด้วยความเร็วเกือบเท่าแสง
คลื่นวิทยุที่ไอพ่นเหล่านี้เปล่งออกมาอาจปรากฏสว่างขึ้นหรือมืดลงได้
ขึ้นอยู่กับความถี่คลื่นวิทยุที่พวกเขาใช้ตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม
โครงสร้างวิทยุขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบ 3C 273 ได้แสดงความสว่างที่สม่ำเสมอ ไม่ว่าจะสำรวจในช่วงความถี่ใด
นักวิจัยบอกว่า
นี่บอกว่าโครงสร้างวิทยุทั้งสองถูกสร้างขึ้นโดยปรากฏการณ์ประหลาดที่ไม่เกี่ยวข้องกันและเป็นอิสระต่อกัน
หลังจากทดสอบทฤษฎีมากมาย
ทีมก็สรุปว่ากลุ่มหมอกวิทยุสลัวขนาดใหญ่รอบๆ กาแลคซีเกิดขึ้นจากก๊าซไฮโดรเจนมวลหลายหมื่นจนถึงหลายแสนล้านเท่ามวลดวงอาทิตย์ที่กำลังก่อตัวดาวฤกษ์
ได้แตกตัวเป็นไอออนจากอุลตราไวโอเลตและรังสีเอกซ์จากเควซาร์โดยตรง
นี่เป็นครั้งแรกที่พบเห็นก๊าซมีประจุแผ่ออกไปหลายหมื่นปีแสงรอบๆ
หลุมดำมวลมหาศาลแห่งหนึ่ง การค้นพบยังเกี่ยวข้องกับปริศนาอีกข้อที่มีมานานในทางดาราศาสตร์
ก็คือ เควซาร์จะทำให้ก๊าซในกาแลคซีต้นสังกัดของมัน
แตกตัวเป็นไอออนได้มากมายจนป้องกันการก่อตัวดาวใหม่ๆ หรือไม่
เพื่อตอบคำถามนี้
นักวิจัยจึงเปรียบเทียบมวลก๊าซที่ประเมินไว้ของกาแลคซีแห่งนี้ กับกาแลคซีแห่งอื่นๆ
ที่เป็นชนิดและขนาดใกล้เคียงกัน พวกเขาพบว่า
ในขณะที่เควซาร์ได้ทำให้ก๊าซจำนวนมากมหาศาลแตกตัวเป็นไอออน
ซึ่งจะทำให้ไอออนเหล่านี้ถูกใช้เพื่อสร้างดาวใหม่ๆ ไม่ได้
แต่เท่าที่เห็นก็ไม่ได้หยุดการก่อตัวดาวในกาแลคซีโดยรวม
ดูเหมือนจะยังเหลือก๊าซไฮโดรเจนที่เย็นจำนวนมาก นี่บอกว่า
กาแลคซียังคงอยู่รอดและเติบโตได้แม้จะมีเควซาร์ที่เปล่งแสงเจิดจ้าอยู่ในใจกลาง
การค้นพบนี้เป็นหนทางใหม่ในการศึกษาปัญหาที่เคยฟาดเราเมื่อทำการสำรวจในช่วงตาเห็น
Shinya Komugi ผู้เขียนนำการศึกษา
รองศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยโคกาคุอิน ในโตเกียว กล่าวในแถลงการณ์
ด้วยการปรับใช้เทคนิคเดียวกันนี้กับเควซาร์อื่น เราคาดว่าจะเข้าใจว่ากาแลคซีพัฒนาผ่านปฏิสัมพันธ์กับนิวเคลียสในใจกลางของมันอย่างไร
แหล่งข่าว sciencealert.com
: mysterious radio structures discovered around the brightest quasar ever found
space.com : strange “unknown structure,” a faint radio glow thousands of
light-years wide, found around closest quasar
No comments:
Post a Comment