ภาพจากศิลปินแสดงมุมมองจากมหาสมุทรของดาวเคราะห์ชนิดไฮเชียนที่น่าจะเอื้ออาศัยได้
ในการสำรวจหาพิภพที่มีศักยภาพในการเอื้ออาศัยต่อชีวิตนั้น
นักดาราศาสตร์มุ่งเป้าไปที่ดาวเคราะห์ที่คล้ายโลกในวงโคจรรอบดาวฤกษ์ที่คล้ายดวงอาทิตย์
พิภพหินเหล่านี้มีรัศมีและมวลใกล้เคียงกับโลก และจะต้องอบอุ่นมากพอที่จะมีน้ำของเหลวบนพื้นผิวของพวกมันได้
แต่แม้ว่านักดาราศาสตร์จะได้พบว่าที่พิภพเหล่านั้นจำนวนหนึ่ง
ยกตัวอย่างเช่น TRAPPIST-1d หรือ Proxima
Centauri b ซึ่งโคจรรอบดาวฤกษ์ที่อยู่ใกล้ๆ
แต่ก็ยังต้องมีสภาวะที่ไม่เอื้อ และสิ่งนี้เองที่จำกัดจำนวนพิภพที่เอื้ออาศัยได้
ขณะนี้ Nikku Madhusudhan และเพื่อนร่วมงานที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์
ในสหราชอาณาจักร ได้จำแนกดาวเคราะห์ที่เอื้ออาศัยได้ชนิดใหม่เอี่ยมโดยสิ้นเชิง
ซึ่งน่าจะพบได้มากกว่าดาวเคราะห์ที่คล้ายโลก และศึกษาได้ง่ายกว่ามากด้วย
พิภพชนิดใหม่เอี่ยมเหล่านี้เป็นพิภพที่ปกคลุมด้วยมหาสมุทร
มีขนาดใหญ่กว่าโลกพอสมควรแต่ก็ยังเล็กกว่าเนปจูน
และมีชั้นบรรยากาศที่อุดมด้วยไฮโดรเจนห่อหุ้มไว้ ที่สำคัญคือ
พวกมันจะต้องมีอุณหภูมิที่พื้นผิวที่ยอมให้มีน้ำของเหลวไหลได้ ก็เหมือนกับโลก Madhusudhan เรียกพิภพชนิดใหม่นี้ว่า ไฮเชียน(Hycean)
ซึ่งเป็นคำสมาสจาก Hydrogen และ ocean พวกเขาบอกว่าพิภพเหล่านี้มีรัศมีได้ถึง 2.6
เท่ารัศมีโลก และอาจมีมวลได้ถึง 10
เท่าโลก ซึ่งใหญ่กว่าดาวเคราะห์ใดๆ
ที่เคยจำแนกว่าเอื้ออาศัยได้ก่อนหน้านี้
ดาวเคราะห์ชนิดใหม่นี้น่าจะพบได้มากจนไม่น่าเชื่อทั่วทางช้างเผือก
และพวกมันก็อาจจะมีจุลชีพที่คล้ายกับที่พบอาศัยในสภาพแวดล้อมที่สุดขั้วที่สุดบนโลก(เรียกว่า extremophiles) Madhusudhan กล่าวว่า
ไฮเชียนได้เปิดหนทางเส้นใหม่เอี่ยมสู่การสำรวจหาชีวิตในแห่งหนอื่นในเอกภพ
พิภพแบบไฮเชียนนั้นมีขนาดพอๆ
กับซุปเปอร์เอิร์ธ(super-Earths) ที่เป็นหินและ
มินิเนปจูน(mini-Neptunes) ซึ่งเป็นก๊าซ
ซึ่งเป็นดาวเคราะห์นอกระบบสองชนิดที่พบได้มากที่สุดในกาแลคซี
แต่ไฮเชียนนั้นแตกต่าง โดยมีความหนาแน่นอยู่ระหว่างซุปเปอร์เอิร์ธกับมินิเนปจูน
นักวิจัยยังได้ศึกษาเขตเอื้ออาศัยได้(habitable
zone) ซึ่งเป็นช่วงระยะทางจากดาวฤกษ์แม่ที่จะยอมให้มีน้ำของเหลวบนพื้นผิวได้
และกลับกลายว่าเขตเอื้ออาศัยได้ของไฮเชียนนั้นกว้างใหญ่กว่าของดาวเคราะห์หินอย่างมาก
ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะอุณหภูมิสมดุลบนดาวเคราะห์เหล่านั้นอาจจะสูงได้ถึง 227
องศาเซลเซียส สูงกว่าบนดาวเคราะห์หิน
ภายใต้สภาวะเหล่านี้ น้ำของเหลวก็มีอยู่ได้ถ้าดาวเคราะห์ถูกล๊อคด้วยแรงบีบฉีก(tidal
lock) โดยมีด้านเดียวด้านเดิมหันเข้าหาดวงอาทิตย์ของมัน
ในกรณีนั้น ครึ่งหนึ่งของดาวเคราะห์น่าจะร้อนเกินกว่าจะค้ำจุนชีวิตได้ ในขณะที่อีกด้านก็น่าจะมีอุณหภูมิพอเหมาะสำหรับชีวิต(อาจจัดกลุ่มเป็นไฮเชียนมืด;
dark Hycean)
อีกเหตุผลที่มีแถบเอื้ออาศัยได้ที่กว้างกว่าก็เพราะไฮเชียนที่เย็น
ก็น่าจะเอื้อต่อการมีน้ำของเหลวได้จากความร้อนภายใน โมเลกุลไฮโดรเจนในชั้นบรรยากาศยังเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก
ดาวเคราะห์เหล่านั้นน่าจะต้องการความร้อนจากดาวฤกษ์แม่เพียงเล็กน้อยหรือไม่ต้องการเลย
และโคจรในระยะทางที่ไกลมาก(จัดเป็นกลุ่มไฮเชียนเย็น)
ผลสรุปของเราบอกว่า(เขตเอื้ออาศัยได้)
สำหรับไฮเชียนนั้นกว้างกว่า(เขตเอื้ออาศัยได้) ของดาวเคราะห์หินพอสมควร
พวกเขากล่าว
Anjali Piette ผู้เขียนร่วมการศึกษา จากเคมบริดจ์ เช่นกัน
กล่าวว่า มันน่าตื่นเต้นที่สภาวะที่เอื้ออาศัยได้อาจปรากฏอยู่บนดาวเคราะห์ที่แตกต่างจากโลกอย่างมากได้
แล้วดาวเคราะห์เหล่านี้จะค้ำจุนชีวิตได้หรือไม่
คำถามสำคัญก็คือพวกมันจะมีชีวสัญญาณ(biosignature) ให้ตรวจสอบได้หรือไม่ Madhusudhan และเพื่อนร่วมงานได้สืบสวนคำถามนี้ในรายละเอียดและบอกว่าชีวสัญญาณหลักที่พบบนโลก
เช่น ออกซิเจน, โอโซนและมีเธน
ก็น่าจะถูกสร้างบนไฮเชียนได้โดยกระบวนการที่ไม่เกี่ยวข้องกับชีวิต ดังนั้น
จึงใช้สารประกอบเหล่านั้นเป็นชีวสัญญาณสำหรับพิภพเหล่านี้ไม่ได้ อย่างไรก็ตาม
กระบวนการเมตาบอลิซึมบนโลกได้สร้างสารประกอบทุติยภูมิจำนวนหนึ่งที่น่าจะตรวจจับได้ง่ายกว่าในชั้นบรรยากาศที่อุดมด้วยไฮโดรเจน
ซึ่งรวมถึง ไดเมธิลซัลไฟด์(Dimethylsulfide; DMS), ไดเมธิลไดซัลไฟด์(Dimethyldisulfide;
DMDS), มีเธนไธออล
(methanethiol; CH3SH) และคาร์บอนิลซัลไฟด์(carbonylsulfide;
OCS)
ยิ่งกว่านั้น
เนื่องจากพิภพไฮเชียนมีขนาดใหญ่กว่าดาวเคราะห์หิน พวกมันก็น่าจะศึกษาได้ง่ายกว่า
นักดาราศาสตร์ได้พบว่าที่ไฮเชียนจำนวนหนึ่งแล้ว เช่น K2-18b ซึ่งเป็นพิภพนอกระบบที่มีมวลประมาณ 8 เท่าโลก
โคจรรอบดาวแคระแดงดวงหนึ่งซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 124 ปีแสง ดาวเคราะห์ดวงนี้กลายเป็นเป้าหมายในการสำรวจของกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์เวบบ์ที่มีกำหนดส่งในปลายปีนี้
เรียบร้อยแล้ว
Madhusudhan และทีมบอกว่าการสำรวจนี้น่าติดตามชม
เราทำนายว่าการสำรวจของกล้องเวบบ์ไซเคิล 1 กับ KK2-18b
ที่ได้รับการอนุมัติ
น่าจะสามารถตรวจจับตัวระบุทางชีวภาพเหล่านั้นได้ถ้าปรากฏในปริมาณตามที่บอกไว้ในงานนี้
ดังนั้นถ้า K2-18b และไฮเชียนอื่นๆ
แสดงชีวสัญญาณ
เราก็อาจจะได้เห็นสัญญาณของชีวิตในแห่งหนอื่นในเอกภพเป็นครั้งแรกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
แหล่งข่าว astronomy.com
: astronomers identify a new class of habitable planet
space.com : alien life
could thrive on big “Hycean” exoplanets
sciencealert.com : we could discover alien life on this new class of “Hycean” exoplanets, study says
No comments:
Post a Comment