ภาพถ่าย ซิริอุส(Sirius) ซึ่งเป็นดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดบนท้องฟ้า จะเห็น ดาวข้างเคียง Sirius B ซึ่งเป็นดาวแคระขาวเป็นจุดแสงเล็ก
เราคิดว่าเรารู้ทั้งหมดแล้ว
เมื่อดาวที่มีมวลระดับหนึ่งจบปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่นลง,
จะตายและกลายเป็นดาวแคระขาว
สิ่งที่เหลืออยู่ที่ทำให้ซากดาวยังสว่างอยู่ได้ก็คือความร้อนที่เหลืออยู่
และสุดท้ายมันจะเย็นตัวและมืดลง เหลือทิ้งไว้แค่ผลึกเย็นที่มอดดับแล้วที่เรียกว่า
ดาวแคระดำ
เราไม่คิดว่าเอกภพจะเก่าแก่มากพอที่จะสร้างดาวแคระดำได้
ดังนั้นเราจึงไม่สามารถยืนยันการมีอยู่ของมันได้ ขณะนี้
ดูเหมือนว่าเราอาจจะผิดพลาดในบางประเด็น
นักดาราศาสตร์ได้พบหลักฐานว่าดาวแคระขาวที่ยังคงเผาไหม้ไฮโดรเจนได้อย่างมีเสถียรภาพแม้ว่าจะที่พื้นผิว
ไม่ใช่ที่แกนกลาง นี่บอกว่า ซากแกนกลางของดาวเหล่านี้อาจจะแก่เฒ่าและตายลงช้ากว่าที่เราเคยคิดไว้
ชะลอการดับโดยการเผาไหม้ชั้นบรรยากาศส่วนนอกที่อุดมด้วยไฮโดรเจน
Jianxing Chen นักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโบโลญญา
และสถาบันเพื่อดาราศาสตร์ฟิสิกส์แห่งชาติอิตาลี ซึ่งนำการวิจัยอธิบายว่า
เป็นครั้งแรกที่เราได้พบหลักฐานจากการสำรวจว่าดาวแคระขาวยังคงสามารถมีกิจกรรมเทอร์โมนิวเคลียร์ที่เสถียรได้
นี่เป็นเรื่องที่ค่อนข้างสร้างความประหลาดใจ เมื่อมันแตกต่างจากสิ่งที่เชื่อกัน
ดาวแคระขาวเป็นสถานะวิวัฒนาการขั้นสุดท้ายของดาวฤกษ์มวลต่ำ
ซึ่งรวมถึงที่มีมวลประมาณ 8 เท่าดวงอาทิตย์
เมื่อดาวเหล่านี้จบการใช้ชีวิตในช่วงวิถีหลัก(main-sequence) และไม่สามารถหลอมไฮโดรเจนในแกนกลางได้อีกต่อไป
ก็จะผลักวัสดุสารชั้นนอกทิ้งออกมา
แกนกลางที่เหลือเมื่อไม่มีแรงดันออกจากการหลอมไฮโดรเจนก็จะยุบตัวกลายเป็นวัตถุที่มีความหนาแน่นสูง
นั้นก็คือดาวแคระขาว และมันจะมีมวลสูงสุดที่ราว 1.4 เท่าดวงอาทิตย์
ดาวแคระขาวเหล่านี้จะร้อนจัดมาก ตามแบบจำลอง
เอกภพซึ่งมีอายุราว 13.8 พันล้านปีนั้นยังสั้นเกินกว่าที่ดาวแคระขาวจะเย็นตัวลงอย่างสมบูรณ์
แต่เราก็สนใจในกระบวนการเย็นตัวลงนี้
นักดาราศาสตร์ได้ทำนายว่ามีดาวฤกษ์ทั้งหมดในเอกภพราว 97% ซึ่งรวมถึงดวงอาทิตย์ของเรา
ที่จะจบชีวิตในหนทางนี้
การทราบว่าดาวแคระขาวพัฒนาไปอย่างไรสามารถช่วยทำนายจุดจบของเอกภพได้
นักดาราศาสตร์ได้ทำนายว่าดาวแคระขาวควรจะเย็นตัวลงเร็วแค่ไหน
ซึ่งหมายความว่าถ้าเราทราบมวลและอุณหภูมิของดาวแคระขาวสักดวง
เราก็น่าจะบอกได้ว่ามันเก่าแก่แค่ไหน
นี่สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการประเมินอายุของกระจุกดาวที่พบประชากรดาวแคระขาวอยู่
เรายังสามารถสำรวจกระจุกหลายๆ แห่งโดยมองหาดาวแคระขาวที่อยู่ในสถานะวิวัฒนาการที่แตกต่างกัน
และเปรียบเทียบ นี่เป็นสิ่งที่ Chen และทีมกำลังทำอยู่
โดยใช้กล้องมุมกว้าง 3(WFC3) ของกล้องฮับเบิลเพื่อศึกษาดาวแคระขาวในกระจุกดาวทรงกลม(globular
clusters) สองแห่งคือ M3
และ M13
กระจุกดาวทั้งสองนี้น่าสนใจเนื่องจากดาวในกระจุกเหล่านั้นมีอายุและความเป็นโลหะ(metallicity;
ปริมาณของธาตุอื่นที่หนักกว่าฮีเลียม)
ที่ใกล้เคียงกัน
ธาตุเหล่านั้นไม่ได้มีอยู่มากในเอกภพก่อนที่ดาวไม่กี่รุ่นจะเกิดและดับ
หลอมธาตุเหล่านั้นขึ้นในแกนกลางของพวกมันและปล่อยออกมาสู่เอกภพเมื่อดาวตายลง
นี่หมายความว่า ปริมาณของธาตุหนักเหล่านั้นสามารถใช้เพื่อตรวจสอบได้อย่างคร่าวๆ
ว่าดาวมีอายุเก่าแก่แค่ไหน
ดาวใน M3 และ M13 อยู่ในวิวัฒนาการสถานะหนึ่งที่เรียกว่า
กิ่งแนวนอน(Horizontal Branch) นั้นเป็นช่วงเวลาหลังจากที่ดาวมวลพอๆ
กับดวงอาทิตย์เพิ่งหมดเชื้อเพลิงไฮโดรเจนที่ใช้หลอมในแกนกลาง มันเพิ่งพ้นสถานะยักษ์แดง(red
giant) ไปซึ่งได้สาดเปลือกก๊าซชั้นนอกออกไป
และกำลังหลอมฮีเลียมในแกนกลางในขณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
สีโดยรวมของดาวในสถานะกิ่งแนวนอนนี้ใน M13 มีสีที่ฟ้ากว่าซึ่งบ่งชี้ถึงประชากรดาวที่ร้อนกว่าซึ่งก็บอกว่าพวกมันอาจจะเย็นตัวลงแตกต่างกัน
ความเป็นโลหะของดาวในกระจุกทั้งสองที่ใกล้เคียงกัน หมายความว่า ดาวน่าจะมีอายุใกล้เคียงกัน
จากการสำรวจในช่วงอุลตราไวโอเลตใกล้ของ WFC3 ได้ช่วยให้นักวิจัยพิจารณาดาวแคระขาวกว่า 700
ดวงที่กระจายในกระจุกทั้งสองอย่างใกล้ชิดมากขึ้น
เพื่อดูว่าอาจมีความแตกต่างหรือไม่ ดาวแคระขาวทั้งหมดใน M3 ดูจะเป็นไปตามกระบวนการ
ตามสิ่งที่เราคาดไว้จากแกนกลางหนาแน่นสูงที่กำลังเย็นตัวลง อย่างไรก็ตาม
ดาวแคระขาวใน M13 แบ่งได้เป็น 2
กลุ่ม คือ กลุ่มปกติ
และพวกที่ยังรักษาชั้นบรรยากาศอุดมด้วยไฮโดรเจนของพวกมันไว้ได้
แบบจำลองเสมือนจริงคอมพิวเตอร์แสดงวิวัฒนาการดาวฤกษ์ได้บอกว่า ดาวแคระขาวใน
M13 มีราว 70%
ที่กำลังเผาไหม้ไฮโดรเจนในชั้นบรรยากาศ
ซึ่งทำให้พวกมันร้อนได้นานกว่า
ซึ่งสุดท้ายก็จะหมายความว่าพวกมันแก่ชราด้วยอัตราที่แตกต่างจากดาวแคระขาวที่สว่างจากเพียงความร้อนที่เหลืออยู่เท่านั้น
นี่เป็นเรื่องใหญ่เนื่องจากมันหมายความว่า
การประเมินอายุดาวแคระขาวของเราก็น่าจะผิดเพี้ยนไปได้ถึง 1 พันล้านปี ถ้าพวกมันเป็นแบบที่เผาไหม้ไฮโดรเจนนี้
และที่ยิ่งสร้างข้อโต้แย้งเพิ่มเติมเมื่อนักดาราศาสตร์ในปี 2019 ได้พบดาวแคระขาวชนิดที่แตกต่างออกไป
ซึ่งเผาไหม้อย่างร้อนแรงมาก เพียงพอที่จะชะลอการเย็นตัวลงได้ถึง 8 พันล้านปี
นี่ก็ยังไม่ได้คำอธิบายแต่เมื่อรวมกับการค้นพบใหม่
มันได้บอกว่าบางทีเราอาจจะยังเข้าใจชีวิตของดาวในสถานะนี้ได้ครบถ้วนสมบูรณ์ดีอย่างที่เราคิดไว้
Francesco Ferraro นักดาราศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยโบโลญญา
ซึ่งเป็นคนประสานงานการศึกษานี้ กล่าวว่า
การค้นพบของเราท้าทายคำจำกัดความของดาวแคระขาวในแบบที่เราต้องหามุมมองใหม่เพื่ออธิบายว่าดาวแบบไหนที่มีอายุเก่าแก่
ขณะนี้เรากำลังสำรวจกระจุกแห่งอื่นที่คล้ายกับ M13 เพื่อระบุให้แน่ชัดมากขึ้นถึงสภาวะที่ผลักดันให้ดาว(แคระขาว)
ยังสามารถรักษาเปลือกไฮโดรเจนของพวกมันไว้ได้ ซึ่งช่วยให้พวกมันแก่ช้าลง
แหล่งข่าว esa.int
: Hubble discovers hydrogen-burning white dwarfs enjoying slow aging
hubblesite.org :
Hubble discovers hydrogen-burning white dwarfs enjoying slow aging
No comments:
Post a Comment