นักวิทยาศาสตร์พบว่า เวกา หนึ่งในดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดบนท้องฟ้ายามค่ำคืนมีการส่ายเล็กน้อย ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง ถ้าเป็นจริงตามนั้น มันก็น่าจะเป็นดาวเคราะห์ที่ร้อนที่สุดเป็นอันดับที่สองเท่าที่เคยพบมา นอกเหนือจากจะเพิ่มเติมให้กับบัญชีรายชื่อพิภพที่สุดขั้วแล้ว เรายังมีโอกาสที่หาได้ยากในการศึกษาสภาวะที่สุดขั้วเช่นนั้นด้วย
วิธีการในการค้นหาดาวเคราะห์ทำให้ง่ายที่จะตรวจจับพิภพที่มีขนาดใหญ่และอยู่ใกล้ดาวฤกษ์แม่มากกว่า
ด้วยเหตุนี้ ดาวเคราะห์ดวงแรกๆ ที่พบเกือบทั้งหมดจึงเป็นสิ่งที่เราเรียกว่า
ดาวพฤหัสร้อน(hot Jupiters) ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ก๊าซยักษ์ที่โคจรอยู่ใกล้กับดาวฤกษ์แม่อย่างมาก
จนทำให้อุณหภูมิระดับเตาอบในบ้านฟังดูเย็นสบายไปเลย แต่อย่างไรก็ตาม
เราอาจจะพลาดหนึ่งในดาวเคราะห์ที่ร้อนที่สุดในบรรดาพฤหัสร้อน
ที่เกือบอยู่ใต้จมูกของเราไป
เวกา(Vega) เป็นดาวฤกษ์ดวงแรกๆ
นอกเหนือจากดวงอาทิตย์ที่ถูกถ่ายภาพไว้ได้
จากความมีชื่อเสียงและระยะทางที่ค่อนข้างใกล้เพียง 25 ปีแสง เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มดาวพิณ(Lyra) ด้วยมวลราว 2 เท่าดวงอาทิตย์
มันจึงเป็นเป้าหมายในการสำรวจหาดาวเคราะห์ได้ไม่ยาก Carl Sagan ยังแม้แต่เขียนให้เวกาเป็นแหล่งสัญญาณจากต่างด้าวในนิยายไซไฟ
Contact ของเขา
อย่างไรก็ตาม ความพยายามเพื่อหาสิ่งอื่นๆ ที่อยู่ที่นั้นก็มีอุปสรรคใหญ่ที่
เวกาเป็นดาวที่หมุนรอบตัวเร็ว ทุกๆ 16 ชั่วโมง
และอาจจะแปรแสง(variable star) ซึ่งรบกวนความพยายามในการตามรอยการเคลื่อนที่ของมัน
การส่าย(wobble) อันเกิดจากแรงโน้มถ่วงของดาวเคราะห์จึงตรวจจับได้ยากเป็นพิเศษ
ท่ามกลางสัญญาณรบกวน(noise) แม้ว่าเราจะพบสัญญาณดิสก์เศษซากห่างจากดาวฤกษ์ออกมา
แต่กระนั้นก็ยังมีคนที่พยายาม
หนึ่งในนั้นคือ Spencer Hurt นักศึกษาปริญญาตรีในแผนกวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์และดาราศาสตร์ฟิสิกส์
มหาวิทยาลัยโคโลราโด โบลเดอร์
เขาและเพื่อนร่วมงานได้ประกาศสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นสัญญาณของพิภพดวงหนึ่งรอบเวกา
ใน Astronomical Journal
ในข้อมูลจาก TESS(Transiting Exoplanet
Survey Satellite) ของนาซา
ไม่พบดาวเคราะห์ที่โคจรผ่านหน้า(transiting planet) แต่เมื่อตรวจสอบข้อมูลสเปคตรัม 10 ปีที่ได้จากหอสังเกตการณ์ เฟรด ลอว์เรนซ์ วิพเพิล
ในอริโซนา Hurt ก็พบว่าเวกาขยับด้วยคาบ
2.4 วัน
แม้แต่รอบดาวฤกษ์แคระแดงที่เย็นที่สุด
ดาวเคราะห์ที่มีวงโคจรสั้นขนาดนี้ก็ยังน่าจะร้อนระอุ
แต่เวกาซึ่งมีความสว่างมากกว่าดวงอาทิตย์ 40 เท่า ดาวเคราะห์ก็น่าจะมีอุณหภูมิสูงถึง 2980
องศาเซลเซียส
ซึ่งอาจจะบวกลบได้พอสมควรถ้ามีผลกระทบจากชั้นบรรยากาศร่วมด้วย เขากล่าวเสริมว่า
ด้วยระยะทางที่ใกล้เวกาขนาดนี้ ว่าที่ดาวเคราะห์ก็น่าจะพองฟูเหมือนกับบอลลูน
และแม้แต่เหล็กก็น่าจะหลอมเหลวกลายเป็นก๊าซในชั้นบรรยากาศ ในความเป็นจริง
อุณหภูมิระดับนี้ยังร้อนกว่าดาวฤกษ์ที่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุด พรอกซิมา
เซนทอไร(Proxima Centauri) ด้วยซ้ำ
ดาวเคราะห์น่าจะมีมวลอย่างน้อยพอๆ กับเนปจูน
และอาจจะสูงกว่าดาวพฤหัสฯ ได้
ขึ้นอยู่กับการเรียงตัวของวงโคจรของมันเมื่อเทียบกับแนวสายตาของเรา อย่างไรก็ตาม
แม้ว่าจะยังไม่ยืนยัน
แต่ผู้เขียนคิดว่าเรื่องราวของดาวเคราะห์รอบเวกายังคงไม่จบแค่นี้ มันเป็นระบบที่มีขนาดใหญ่
ใหญ่กว่าระบบสุริยะของเราอย่างมาก Hurt กล่าวในแถลงการณ์
อาจจะมีดาวเคราะห์อื่นๆ กระจายอยู่ทั่วระบบ
ก็แค่ว่าเราจะตรวจพวกมันพบได้อย่างไรเท่านั้น
เวกาเป็นดาวที่สว่างมากพอจนคุณสามารถสำรวจมันได้ตอนอาทิตย์อัสดงเมื่อดาวอื่นๆ
ยังคงถูกแสงอาทิตย์อาบจนมองไม่เห็น Samuel Quinn ผู้เขียนร่วมการศึกษา
นักดาราศาสตร์ที่ศูนย์ฮาร์วาร์ดสมิธโซเนียนเพื่อดาราศาสตร์ฟิสิกส์ กล่าว
มันน่าตื่นเต้นมากที่ได้พบดาวเคราะห์รอบเวกา
เนื่องจากมันจะให้ความเป็นไปได้ในการตรวจสอบในอนาคตในแบบที่ดาวเคราะห์รอบดาวฤกษ์สลัวให้ไม่ได้
ตามที่ Sagan บอกไว้ สิ่งมีชีวิตที่พัฒนาแล้วใดๆ
รอบเวกาก็น่าจะเป็นผู้มาเยือนจากที่อื่น มันเป็นระบบที่อายุน้อยจนชีวิตใดๆ
ที่อาจจะพัฒนาที่นั้นก็น่าจะเพิ่งเริ่มต้นขึ้นมา
และชีวิตของเวกาที่น่าจะอายุสั้นก็จะทำให้สิ่งมีชีวิตพัฒนาไปได้ไม่ไกลนัก
ในทางตรงกันข้าม ความใกล้ของดาวเคราะห์รอบเวกาน่าจะให้ประโยชน์ในการศึกษาพวกมัน
และสิ่งใดๆ ก็ตามที่เรียนรู้ได้จากระบบที่สุดขั้วก็น่าจะมีความสำคัญ
แหล่งข่าว iflscience.com
: a giant, blistering planet hotter than many stars may be orbiting Vega
phys.org : a giant,
sizzling planet may be orbiting the star Vega
No comments:
Post a Comment