กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลกำลังให้มุมมองการเปลี่ยนแปลงในชั้นบรรยากาศขนาดมหึมาอันปั่นป่วนของดาวเสาร์
เมื่อฤดูร้อนบนซีกโลกเหนือของดาวเคราะห์กำลังจะผ่านเลยไป
ตามที่เห็นในภาพชุดที่ถ่ายในปี 2018, 2019 และ 2020
Amy Simon นักวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์ที่ศูนย์การบินอวกาศกอดดาร์ดของนาซา
กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงในแถบสีเล็กๆ น้อยๆ จากปีสู่ปีนั้นเป็นสิ่งที่น่ามหัศจรรย์
เมื่อดาวเสาร์คืบคลานเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงในซีกโลกเหนือ
เราได้เห็นพื้นที่ขั้วดาวเสาร์และศูนย์สูตรกำลังเปลี่ยนแปลงไป
แต่เราก็ยังได้เห็นว่าชั้นบรรยากาศมีความแปรผันในคาบเวลาที่สั้นกว่ามากด้วย Simon
เป็นผู้เขียนนำรายงานการสำรวจเหล่านี้เผยแพร่ใน
Planetary Science Journal วันที่
11 มีนาคม
สิ่งที่เราพบก็คือการเปลี่ยนแปลงสีที่เกิดขึ้นทีละน้อยจากปีสู่ปีบางทีอาจจะเป็นความสูงของเมฆ
และลม ซึ่งก็ไม่ได้น่าประหลาดใจที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างไม่ได้หักโหม
อย่างที่เราแค่ได้เห็นในช่วงเวลาสั้นๆ ที่สำรวจดาวเสาร์ Simon กล่าว
เราคาดถึงการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ในแต่ละฤดูกาล
ดังนั้นนี่จึงกำลังแสดงความคืบหน้าที่ค่อยๆ เข้าใกล้ฤดูกาลใหม่
ช่วงครีษมายัน(summer solstice) ซีกโลกเหนือของดาวเสาร์เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม
ซึ่งหมายความว่าการสำรวจฮับเบิลตั้งแต่ 2018 ถึง 2020 จะเป็นช่วงกลางฤดูร้อนซีกโลกเหนือดาวเสาร์
ข้อมูลจากฮับเบิลแสดงว่าตั้งแต่ปี 2018 ถึง 2020
ศูนย์สูตรมีความสว่างเพิ่มขึ้น 5
ถึง 10% และลมก็เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย ในปี 2018 ลมที่ใกล้ศูนย์สูตรมีความเร็วราว 1600 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
สูงกว่าที่ยานคาสสินีของนาซาได้ตรวจสอบระหว่างปี 2004 ถึง 2009 เมื่อพบว่ามีความเร็วราว
1300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ในปี 2019 และ 2020
ลมก็มีความเร็วลดลงจนกลับไปอยู่ในช่วงตามที่คาสสินีพบ
ลมของดาวเสาร์ยังเปลี่ยนแปลงตามระดับความสูงด้วย ดังนั้น
การเปลี่ยนแปลงความเร็วที่ตรวจพบน่าจะหมายความว่าเมฆในปี 2018 นั้นมีความลึกมากกว่าที่คาสสินีได้ตรวจสอบราว 60
กิโลเมตร
ยังคงต้องการการสำรวจต่อไปเพื่อบอกว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น
ดาวเสาร์เป็นดาวเคราะห์ดวงที่หกจากดวงอาทิตย์ และโคจรที่ระยะทางประมาณ 1.4
พันล้านกิโลเมตรจากดวงอาทิตย์
มันใช้เวลา 29 ปีโลกเพื่อโคจรครบรอบดวงอาทิตย์
ทำให้แต่ละฤดูกาลบนดาวเสาร์ยาวมากกว่า 7 ปีโลก
โลกยังเอียงเมื่อเทียบกับดวงอาทิตย์ที่ 23.5 องศา ซึ่งส่งผลต่อปริมาณแสงอาทิตย์ที่แต่ละซีกโลกได้รับเมื่อดาวเคราะห์ของมันเคลื่อนที่ไปตามวงโคจร
ระดับพลังงานสุริยะที่แปรผันนี้เองที่เป็นตัวขับดันการเปลี่ยนแปลงฤดูกาลของเรา
ดาวเสาร์เองก็เอียงเช่นกัน(27 องศา)
ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงฤดูกาลบนพิภพวงแหวนที่ห่างไกล
ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงปริมาณแสงอาทิตย์ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้มีการเปลี่ยนแปลงในชั้นบรรยากาศที่สำรวจพบได้
เช่นเดียวกับดาวพฤหัสฯ
ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะ
ดาวเสาร์เองก็เป็นดาวเคราะห์ก๊าซยักษ์(gas giant) ประกอบด้วยไฮโดรเจนและฮีเลียมเกือบทั้งหมด
แม้ว่าจะมีแกนกลางหินขนาดเล็กอยู่ภายในก็ตาม มีพายุลูกมหึมาซึ่งบางลูกก็ใหญ่พอๆ
กับโลก ซึ่งมักจะอุบัติขึ้นจากเบื้องลึกภายในชั้นบรรยากาศ
เนื่องจากดาวเคราะห์ที่พบรอบดาวฤกษ์อื่นหลายดวงก็เป็นก๊าซยักษ์ด้วยเช่นกัน
นักดาราศาสตร์จึงกระหายที่จะได้เรียนรู้ให้มากขึ้นว่าชั้นบรรยากาศของพิภพก๊าซยักษ์ทำงานอย่างไร
ดาวเสาร์ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองในระบบสุริยะ
โดยกว้างกว่าโลก 9 เท่า
และมีดวงจันทร์ 82 ดวงแล้ว
กับระบบวงแหวนที่ตระการตาซึ่งประกอบด้วยน้ำแข็งเป็นหลัก ดวงจันทร์เหล่านี้มี 2
ดวงคือ ไททัน(Titan) และเอนเซลาดัส(Enceladus) ที่ดูเหมือนจะมีมหาสมุทรอยู่ใต้เปลือกน้ำแข็ง
ซึ่งอาจจะค้ำจุนชีวิตได้ ไททันซึ่งเป็นดวงจันทร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของดาวเสาร์
ยังเป็นดวงจันทร์เพียงดวงเดียวในระบบสุริยะที่มีชั้นบรรยากาศหนาทึบ
ซึ่งประกอบด้วยเมฆที่สร้างฝนมีเธนเหลวและไฮโดรคาร์บอนเหลวอื่นๆ ลงบนพื้นผิว
สร้างเครือข่ายแม่น้ำ, ทะเลสาบ และทะเล
คิดกันว่าส่วนผสมสารเคมีของไททันนั้นคล้ายกับที่พบบนโลกเมื่อหลายพันล้านปีก่อนเมื่อชีวิตเริ่มอุบัติขึ้นมา
ปฏิบัติการแมลงปอ(Dragonfly) ของนาซาจะบินข้ามพื้นผิวไททัน
ร่อนลงจอดที่ตำแหน่งต่างๆ เพื่อสำรวจหาวัตถุดิบสำหรับชีวิต
การสำรวจดาวเสาร์เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ OPAL(Outer
Planets Atmosphere Legacy) ของกล้องฮับเบิล
Simon ซึ่งเป็นผู้นำโครงการ
OPAL ด้วยกล่าวว่า OPAL
ช่วยให้เราได้สำรวจดาวเคราะห์วงนอกแต่ละดวงด้วยกล้องฮับเบิลทุกๆ
ปี ช่วยให้มีการค้นพบใหม่ๆ
และเฝ้าดูว่าดาวเคราะห์แต่ละดวงมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
แหล่งข่าว phys.org
: Hubble sees changing seasons on Saturn
iflscience.com : watch
the seasons change on Saturn in this amazing GIF