นับตั้งแต่ที่ถูกพบเมื่อไม่กี่ปีก่อน ดาวฤกษ์ KIC
8462852 หรือที่เรียกอีกชื่อว่า
ดาวของโบยาเจียน ก็ยังคงเป็นปริศนาลี้ลับ ดาวมีการมืดลงอย่างรุนแรงที่นักดาราศาสตร์ไม่สามารถอธิบายได้
กระทั่งมีสมมุติฐานว่าเกิดขึ้นจากเอเลี่ยน นำไปสู่พาดหัวข่าวดังว่ามันเป็นดาวที่มีโครงสร้างเอเลี่ยน(alien
megastructure)
ยิ่งกว่านั้น เมื่อดาวของโบยาเจียนหรี่แสงลง
ในบางช่วงความยาวคลื่นก็มืดกว่าในช่วงความยาวคลื่นอื่นด้วย
นี่ช่วยกำจัดสมมุติฐานวัตถุแข็ง(อย่างเมกะสตรัคเจอร์ของเอเลี่ยน)
ซึ่งน่าจะกันแสงในทุกย่านความยาวคลื่นอย่างเท่าเทียมกันหมด โดยรวมแล้ว
คำอธิบายที่เป็นไปได้มากที่สุดก็ดูจะเป็น ฝุ่นและเศษซากบางๆ
ที่มองเห็นได้ซึ่งน่าจะมาจากวัตถุดิบก่อตัวดาวเคราะห์ที่แตกออกหรือดาวหางในวงโคจรรี
รวมกับการแปรแสงที่เกิดขึ้นเป็นปกติของดาวเอง
น่าเสียดายที่ไม่พบเอเลี่ยนใดๆ รอบดาวฤกษ์นี้
แต่นักดาราศาสตร์ได้พบหลักฐานของสิ่งอื่นแทน ดาวของโบยาเจียน(Boyajian’s
star) ซึ่งถูกพบโดย Tabetha
Boyajian(ก่อนหน้านี้จึงถูกเรียกว่า
Tabby’s Star) ดูเหมือนจะมีดาวข้างเคียง
KIC 8462852B ตามที่ให้รายละเอียดในรายงานที่เผยแพร่ใน
Astrophysical Journal ดาวข้างเคียงดวงนี้ถูกพบมาตั้งแต่การสำรวจช่วงแรกๆ
แล้วแต่ขณะนี้นักวิจัยรวบรวมข้อมูลได้มากพอที่จะบอกว่ามันเป็นระบบดาวคู่(binary
system) ซึ่งเป็นระบบที่มีวัตถุทางดาราศาสตร์
2 ดวงอยู่ใกล้กันมากจนแรงโน้มถ่วงของพวกมันเป็นสาเหตุให้พวกมันโคจรรอบกันและกัน
ข้อมูลที่นักวิจัยรวบรวมได้แสดงว่าดาวทั้งสองกำลังเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกัน
และด้วยระดับที่เท่าๆ กัน ความเป็นไปได้ที่พวกมันจะเป็นแค่ดาว 2 ดวงที่บังเอิญมีคุณสมบัติใกล้เคียงกันนั้นก็ต่ำมากๆ
แม้ว่าทีมจะบอกว่าพวกเขายังไม่ได้พิสูจน์ว่าพวกมันไม่มีความเกี่ยวเนื่องด้านความโน้มถ่วงกัน
ถ้าเป็นเช่นนั้น ดาวข้างเคียงซึ่งอยู่ห่างจากดาวของโบยาเจียนออกไป 1.32 แสนล้านกิโลเมตร หรือ 880 เท่าระยะทางจากโลกถึงดวงอาทิตย์
โดยดาวของโบยาเจียนหรือ KIC 8462852A เป็นดาวดวงใหญ่กว่าที่มวล
1.36 เท่า และขนาด 1.5
เท่าของดวงอาทิตย์
ดาวข้างเคียงเป็นดาวฤกษ์แคระแดงที่มีมวลเพียง 0.44 เท่าและรัศมี 0.45 เท่าดวงอาทิตย์
ที่ระยะทางไกลมากดังกล่าว
นักวิจัยไม่คาดคิดว่าดาวข้างเคียงจะมีอิทธิพลโดยตรงต่อความสว่างของดาวนี้
แต่มันก็อาจรบกวนวงโคจรของวัตถุที่อยู่ใกล้มากกว่า
และส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์ประหลาดที่อธิบายที่มาไม่ได้แทน
แม้จะไม่คิดว่า(การมีอยู่ของดาวข้างเคียง)
จะเป็นคำอธิบายที่เป็นไปได้สำหรับกราฟแสงของดาวของโบยาเจียนที่ได้พบ
แต่มันก็น่าจะเป็นแหล่งของความไม่เสถียรในวิวัฒนาการระยะยาวของระบบนี้
และอาจจะกระตุ้นให้วัตถุอื่นในระบบมีวงโคจรที่ปั่นป่วนวุ่นวาย ทีมนักวิจัยที่นำโดย
Logan Pearce จากมหาวิทยาลัยอริโซนา
เขียนไว้ในรายงาน ความพยายามเพื่ออธิบายเหตุการณ์มืดลงของ KIC 8462852 น่าจะบอกได้ว่าเป็นการมีอยู่ของดาวข้างเคียงในระบบคู่ซึ่งอยู่ห่าง
ดาวฤกษ์ที่มีดาวเคราะห์โคจรรอบ
อาจจะมีความสว่างลดลงได้มากที่สุด 1% และด้วยช่วงห่างที่สม่ำเสมอ เราได้พบดาวเคราะห์หลายดวงด้วยวิธีการนี้เมื่อแสงจากดาวฤกษ์หรี่ลงเมื่อมีดาวเคราะห์ดวงหนึ่งโคจรผ่านหน้ามัน
แต่นั้นก็เพียงแค่สิวๆ สำหรับสิ่งที่ดาวของโบยาเจียนได้พบมา
ดาวฤกษ์ชนิดเหลืองขาวที่อยู่ห่างออกไปราว 1470 ปีแสง มืดลงอย่างรุนแรง 2 ครั้ง ซึ่งครั้งหนึ่งนั้นแสงของมันหายไป 15%
และอีกครั้งก็หรี่ลง 22% ยังพบว่าดาวมีการหรี่แสงอื่นๆ อีก บางครั้งก็ถึง 11%
แต่หลายๆ
ครั้งเกิดเพียงไม่กี่เปอร์เซนต์เท่านั้น
แต่ไม่มีครั้งใดเลยที่น่าตกใจเท่าสองครั้งใหญ่นั้น เหนืออื่นใด
ความสว่างโดยรวมของดาวกำลังลดลงเมื่อเวลาผ่านไป
ซึ่งอาจจะไม่เกี่ยวข้องโดยสิ้นเชิงกับการหรี่แสงที่สำรวจพบ การหรี่แสงลงคล้ายๆ
กันนี้ยังพบได้ในดาวฤกษ์อื่นที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงด้วย
ทีมนักดาราศาสตร์ได้เริ่มสำรวจความเชื่อมโยงของดาวสลัวดวงนี้กับดาวของโบยาเจียนมาตั้งแต่ปี
2016 ความยากในการตรวจสอบอวกาศในสามมิติเป็นสิ่งที่ทำให้งานนี้ค่อนข้างหิน
ดาวที่ดูเหมือนอยู่ใกล้กันแท้จริงแล้วอาจจะมีระยะทางที่ไกลจากผู้สังเกตการณ์ที่แตกต่างกันมาก
ในงานนี้ เราใช้ข้อมูลการตรวจวัดตำแหน่งดาว(astrometry) ที่ได้จาก Keck/NIRC2 สามช่วงเวลาที่กินเวลารวม 5 ปี เพื่อตรวจสอบสถานะของดาวดวงนี้ และแสดงว่าพวกมันมีการเคลื่อนที่เฉพาะ(proper
motion) คู่ร่วม
และเป็นระบบคู่ที่ยึดเกาะกันด้วยแรงโน้มถ่วง พวกเขาเขียนไว้รายงาน นอกเหนือจากการสำรวจของเคกแล้ว
ข้อมูลการตรวจสอบตำแหน่งดาวที่เพิ่งเผยแพร่ในปี 2020 จากดาวเทียมไกอาซึ่งทำแผนที่ทางช้างเผือกในแบบสามมิติที่แม่นยำที่สุดและครบถ้วนที่สุด
ก็ยังรวมดาวข้างเคียงดวงนี้ด้วย ซึ่งค่าที่ได้สอดคล้องกับการค้นพบของทีม
ยังคงต้องการการสำรวจเพิ่มเติมเพื่อช่วยเราให้เข้าใจว่าดาวดวงที่สองนั้นเป็นดาวข้างเคียงที่แท้จริงหรือไม่
และผลกระทบอะไรที่มันจะมีต่อดาวของโบยาเจียนและการหรี่แสงอย่างรุนแรง
แหล่งข่าว iflscience.com
: the most mysterious star in the Milky Way has a companion
sciencealert.com : the
mysterious “alien
megastructure” star
is not alone, astronomers discover
No comments:
Post a Comment