นักดาราศาสตร์ได้มองย้อนเวลากลับไปเมื่อ 9 พันล้านปีก่อนจนพบหลักฐานว่าการควบรวมของกาแลคซีในเอกภพยุคต้นสามารถปิดการก่อตัวดาวฤกษ์และส่งผลต่อการเจริญของกาแลคซีได้
งานวิจัยใหม่ที่นำโดยมหาวิทยาลัยเดอร์แรม
สหราชอาณาจักร และ CEA(Alternative Energies and Atomic Energy
Commission)-Saclay ในฝรั่งเศส และมหาวิทยาลัยปารีส-ซาเคลย์ ได้แสดงว่าก๊าซที่กำลังก่อตัวดาวจำนวนมากมายถูกผลักออกสู่ห้วงอวกาศโดยการเข้าใกล้กันของกาแลคซีสองแห่ง
นักวิจัยบอกว่าเหตุการณ์นี้
พร้อมทั้งการก่อตัวดาวด้วยอัตราสูงในพื้นที่ใจกลางของกาแลคซี
สุดท้ายน่าจะทำให้กาแลคซีที่ควบรวมได้ IC2299 ใช้ก๊าซวัตถุดิบในการก่อตัวดาวฤกษ์ใหม่จนหมด นี่น่าจะหยุดการก่อตัวของดาวไปหลายร้อยล้านปี
และหยุดยั้งการพัฒนาของกาแลคซีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นักดาราศาสตร์ได้สำรวจกาแลคซีขนาดใหญ่ที่ตายแล้วหลายแห่ง
ซึ่งมีดาวที่เก่าแก่มากๆ ในเอกภพใกล้ๆ และไม่ทราบแน่ชัดว่ากาแลคซีเหล่านี้ก่อตัวขึ้นได้อย่างไร
แบบจำลองเสมือนจริงบอกว่าลมที่เกิดจากหลุมดำกิจกรรมสูง(active black holes)
เมื่อมันได้รับอาหาร
หรือลมที่เกิดจากการก่อตัวดาวอย่างคึกคัก
เป็นตัวการการตายลักษณะนี้โดยการผลักก๊าซออกจากกาแลคซีไป ขณะนี้
การศึกษาที่นำโดยเดอร์แรมได้เสนอว่าการควบรวมของกาแลคซี
ก็เป็นอีกทางที่ปิดการก่อตัวดาวและส่งผลต่อการเจริญของกาแลคซี
รายละเอียดของลมและ “หางแรงบีบฉีก(tidal
tail)” ที่สำรวจพบ
เกิดขึ้นจากปฏิสัมพันธ์แรงโน้มถ่วงระหว่างกาแลคซีในการควบรวมนั้น
มีความคล้ายคลึงกันอย่างมากจนนักวิจัยบอกว่าผลสรุปในอดีตบางส่วนที่คิดว่าเป็นลมจากกาแลคซีที่หยุดการก่อตัวดาวลง
อาจจะต้องมาประเมินกันใหม่ การค้นพบนี้เผยแพร่ใน Nature Astronomy
Annagrazia
Puglisi ผู้เขียนนำจากศูนย์ดาราศาสตร์นอกกาแลคซี
เดอร์แรม กล่าวว่า เรายังคงไม่ทราบถึงกระบวนการที่แน่ชัดเบื้องหลังการปิดสวิตช์การก่อตัวดาวในกาแลคซีขนาดใหญ่
ลมจากการก่อตัวดาวหรือจากหลุมดำกิจกรรมสูง
เป็นกลไกย้อนกลับที่เป็นตัวการผลักก๊าซและปิดการเจริญของกาแลคซีขนาดใหญ่
งานวิจัยของเราให้หลักฐานเพิ่มเติมว่าก๊าซที่ถูกสาดออกจาก ID2299 น่าจะเป็นการผลักโดยแรงโน้มถ่วงเนื่องจากการควบรวมของกาแลคซีกังหันที่อุดมด้วยก๊าซ
2 แห่ง
ปฏิสัมพันธ์แรงโน้มถ่วงระหว่างกาแลคซีทั้งสองสามารถให้โมเมนตัมเชิงมุมมากพอที่จะผลักก๊าซส่วนหนึ่งออกสู่รอบๆ
กาแลคซีได้
นี่บอกว่าการควบรวมก็สามารถส่งผลต่อวิวัฒนาการในอนาคตของกาแลคซีได้
โดยการจำกัดความสามารถในการก่อตัวดาวในช่วงหลายล้านปี
และควรค่าแก่การสำรวจเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัจจัยที่จำกัดการเจริญของกาแลคซีไป
เนื่องจากเวลาที่แสงจาก ID2299 ที่ใช้เดินทางมาถึงโลก
นักวิจัยจึงสามารถเห็นกาแลคซีอย่างที่มันเป็นเมื่อ 9 พันล้านปีก่อน เมื่อมันยังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการควบรวม
นั้นเป็นช่วงเวลาที่เอกภพมีอายุเพียง 4.5 พันล้านปี
และกำลังอยู่ในช่วง “ผู้ใหญ่ตอนต้น” ซึ่งเปี่ยมด้วยพลังที่สุด
เมื่อเทียบกับชีวิตมนุษย์
ด้วยการใช้ ALMA(Atacama Large
Millimeter/submillimeter Array) ในชิลีเหนือ
นักวิจัยได้เห็นว่ามันกำลังผลักแหล่งก๊าซด้วยอัตราเทียบเท่า 1 หมื่นเท่ามวลดวงอาทิตย์ต่อปี และกำจัดก๊าซเย็นประมาณครึ่งหนึ่งของที่มีออกสู่พื้นที่รอบข้างกาแลคซี
นักวิจัยสามารถกำจัดการก่อตัวดาวและหลุมดำกิจกรรมสูงของกาแลคซีว่าเป็นตัวการการผลักก๊าซ
โดยการเปรียบเทียบการตรวจสอบกับงานศึกษาก่อนหน้านี้และจำลองและตรวจสอบคุณสมบัติทางกายภาพของก๊าซที่หนีออกมา
อัตราที่ ID2299 ผลักก๊าซออกมานั้นสูงเกินกว่าจะเกิดจากพลังงานที่หลุมดำหรือการก่อตัวดาวอย่างบ้าคลั่งจะสร้างได้
ในขณะที่แบบจำลองเสมือนจริงบอกว่าไม่มีหลุมดำใดที่สามารถผลักก๊าซเย็นออกมาได้มากมายจากกาแลคซีขนาดนี้
สภาพถูกกระตุ้น(excited) ของก๊าซที่หนีออกมา
ยังไม่สอดคล้องกับลมที่เกิดจากหลุมดำหรือจากการก่อตัวดาวใหม่ๆ ด้วย
Emanuele Daddi ผู้เขียนร่วม จาก CEA-Saclay กล่าวว่า
กำลังได้เห็นกาแลคซีแห่งนี้เกิดเหตุการณ์ที่สุดขั้ว เราอาจจะพบมันในสถานะทางกายภาพที่สำคัญในวิวัฒนาการกาแลคซี
ที่เกิดขึ้นในเวลาที่ค่อนข้างสั้น เราต้องตรวจสอบกาแลคซีมากกว่าร้อยแห่งด้วย ALMA
เพื่อหามัน
Jeremy Fensch ผู้เขียนร่วม
จากศูนย์เพื่อการวิจัยดาราศาสตร์ฟิสิกส์แห่งลียง กล่าวเสริมว่า
การศึกษากรณีนี้กรณีเดียวก็เผยให้เห็นความเป็นไปได้ที่เหตุการณ์ชนิดนี้อาจจะไม่ได้สิ่งที่ผิดปกติอย่างใดเลย
และกาแลคซีหลายๆ แห่งก็ต้องพบเจอกับการปล่อยก๊าซด้วย(ปฏิสัมพันธ์)
แรงโน้มถ่วงแบบนี้ เราน่าจะต้องแปลผลการสำรวจในอดีตซะใหม่
นี่อาจจะส่งผลอย่างใหญ่หลวงต่อความเขาใจสิ่งที่ส่งผลอย่างแท้จริงต่อวิวัฒนาการกาแลคซี
การค้นพบที่น่าประหลาดใจเกิดขึ้นโดยบังเอิญ
ในขณะที่ทีมกำลังตรวจสอบโครงการสำรวจกาแลคซีงานหนึ่งที่ทำโดย ALMA ซึ่งออกแบบมาให้ศึกษาคุณสมบัติของก๊าซเย็นในกาแลคซีนับร้อยแห่ง
ID2299 ถูกสำรวจโดย ALMA
เป็นเวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น
แต่หอสังเกตการณ์ที่ทรงพลังแห่งนี้ก็ได้ช่วยให้ทีมได้รวบรวมข้อมูลที่เพียงพอที่จะตรวจจับกาแลคซีและหางก๊าซที่มันผลักออกมาได้
ALMA ได้เปิดช่องทางใหม่สู่กลไกที่สามารถหยุดการก่อตัวดาวในกาแลคซีอันห่างไกล
การได้เฝ้าดูเหตุการณ์การยับยั้งครั้งใหญ่เช่นนี้ได้เพิ่มชิ้นส่วนสำคัญให้กับปริศนาที่ซับซ้อนในวิวัฒนาการกาแลคซี
Chiara Circosta นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยคอลเลจ
ลอนดอน สหราชอาณาจักร สมาชิกทีมวิจัย ในอนาคต ทีมน่าจะใช้ ALMA เพื่อทำการสำรวจกาแลคซีแห่งนี้ด้วยความละเอียดสูงขึ้นและลึกขึ้น
ช่วยให้พวกเขาได้เข้าใจพลวัตของก๊าซที่ถูกผลักออกมามากขึ้น การสำรวจด้วย ELT(Extremely
Large Telescope) ในอนาคตน่าจะช่วยให้ทีมได้สำรวจความเชื่อมโยงระหว่างดาวและก๊าซใน
ID2299 เปิดช่องทางใหม่ว่ากาแลคซีพัฒนาอย่างไร
ภาพจากศิลปินแสดง
ID2299 กาแลคซีซึ่งเป็นผลิตผลจากการควบรวมของกาแลคซีสองแห่ง
และก๊าซบางส่วนของมันก็ถูกผลักออกมาเป็นหางแรงบีบฉีก(tidal tail) การสำรวจใหม่โดย ALMA ได้จับช่วงแรกเริ่มที่สุดของกระบวนการผลักก๊าซนี้ก่อนที่ก๊าซจะมีโครงสร้างที่ใหญ่มากอย่างที่ศิลปินถอดภาพไว้
แผนที่โมเลกุลก๊าซเย็นจากกาแลคซี
ID2299 โดย ALMA
eso.org : ALMA captures distant colliding galaxy dying out as it loses the ability to form stars
No comments:
Post a Comment