ภาพ NGC
1052-DF2 จากกล้องฮับเบิล
เมื่อนักดาราศาสตร์ใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลได้พบกาแลคซีตัวประหลาดแห่งหนึ่งซึ่งดูเหมือนมันไม่ได้มีสสารมืดอยู่มากนัก
บางคนก็คิดว่ายากที่จะเชื่อการค้นพบนี้ได้และมองหาคำอธิบายที่ง่ายดายกว่า
สสารมืดนั้นเป็นเหมือนกาวที่มองไม่เห็นที่เป็นองค์ประกอบส่วนใหญ่ของสสารในเอกภพ
กาแลคซีทุกแห่งดูจะเต็มไปด้วยสสารมืด
ในความเป็นจริงแล้วคิดกันว่ากาแลคซีก่อตัวขึ้นภายในกลด(halo) ขนาดใหญ่ที่เป็นสสารมืด ดังนั้น
การพบกาแลคซีที่ขาดแคลนสสารที่มองไม่เห็นจึงเป็นการกล่าวอ้างที่ค้านกับแนวคิดข้างต้นอย่างสุดโต่ง
มันยังอาจจะต่อผลกระทบต่อทฤษฎีการก่อตัวและวิวัฒนาการกาแลคซีด้วย
เพื่อตรวจสอบการค้นพบเดิมซึ่งรายงานในปี 2018(Dark
Matter Goes Missing in Oddball Galaxy) ทีมนักวิทยาศาสตร์ที่นำโดย
Pieter van Dokkum จากมหาวิทยาลัยเยล
ในนิวเฮเวน คอนเนคติกัต ได้ติดตามผลการศึกษาเดิมของพวกเขา
ด้วยการใช้กล้องฮับเบิลตรวจสอบกาแลคซีแห่งนี้ซึ่งมีชื่อว่า NGC 1052-DF2(นักวิทยาศาสตร์เรียกสั้นๆ ว่า DF2) ให้ใกล้ชิดมากขึ้น
เราโดนตั้งคำถามกับการสำรวจกาแลคซีนนี้ด้วยฮับเบิลในปี 2018 van
Dokkum กล่าว
ผมก็คิดว่าก็ถูกแล้วที่มีคำถามกับมัน เพราะว่ามันเป็นผลสรุปที่ไม่ปกติเอาซะเลย
น่าจะดีขึ้นถ้ามีคำอธิบายแบบง่ายๆ อย่างตรวจสอบระยะทางผิด
แต่ผมคิดว่ามันคงสนุกกว่าและน่าสนใจมากกว่าถ้ามันเป็นกาแลคซีตัวประหลาดจริงๆ
การตรวจสอบปริมาณของสสารมืดในกาแลคซีนี้ขึ้นอยู่กับการตรวจสอบระยะทางที่เที่ยงตรงว่ากาแลคซีนี้อยู่ห่างจากโลกแค่ไหน
ถ้า DF2 อยู่ห่างจากโลกเท่ากับที่ทีมของ
van Dokkum ประเมินไว้
องค์ประกอบสสารมืดในกาแลคซีก็จะมีเพียงไม่กี่เปอร์เซนต์เท่านั้น
ข้อสรุปของทีมมีพื้นฐานมาจากการเคลื่อนที่ของดาวภายในกาแลคซีนี้
ความเร็วของดาวได้รับผลจากอิทธิพลแรงโน้มถ่วง นักวิจัยพบว่าจำนวนดาวที่สำรวจพบเป็นมวลทั้งหมดของกาแลคซี
และไม่ได้มีมวลเหลือให้สสารมืดมากนัก
อย่างไรก็ตาม ถ้า DF2 อยู่ใกล้โลกมากขึ้นอย่างที่นักดาราศาสตร์บางคนกล่าวอ้าง
มันก็น่าจะสลัวและมีมวลต่ำอย่างแท้จริง
กาแลคซีนี้น่าจะต้องมีสสารมืดอยู่ในสัดส่วนที่สูงขึ้นเพื่อให้ผลตามที่สำรวจพบจากมวลรวม
สมาชิกทีมวัดระยะทาง Zili Chen จากมหาวิทยาลัยเยลบอกว่าการสำรวจของฮับเบิลครั้งใหม่ช่วยพวกเขายืนยันว่า
DF2 ไม่เพียงแต่อยู่ไกลจากโลกมากกว่าที่นักดาราศาสตร์บางคนบอก
แต่ยังไกลกว่าที่ทีมได้เคยประเมินไว้ด้วย ค่าระยะทางใหม่บอกว่า DF2 อยู่ห่างออกไป 72 ล้านปีแสง แทนที่จะเป็น 42 ล้านปีแสงตามที่รายงานโดยทีมวิจัยอื่น
นี่ทำให้กาแลคซีอยู่ไกลกว่าการประเมินของฮับเบิลในปี 2018 ที่ 65 ล้านปีแสง
ภาพจากกล้องฮับเบิลให้ตัวอย่างดาวฤกษ์แดงอายุมากในกาแลคซีที่ฝ้าจางมาก(ultra-diffuse
galaxy) NGC 1052-DF2 หรือ DF2
กาแลคซีแห่งนี้ยังคงสร้างความมึนงงให้กับนักดาราศาสตร์อย่างต่อเนื่อง
เนื่องจากมันขาดแคลนสสารมืด
การหาระยะทางจากโลกถึงกาแลคซีนี้ที่แม่นยำมากจึงเป็นย่างก้าวสำคัญในการไขปริศนานี้
ภาพระยะประชิดทางขวาเผยให้เห็นดาวยักษ์แดงอายุมากหลายดวงที่ชายขอบของกาแลคซีซึ่งถูกใช้เป็นเป้าในการวัดระยะทางข้ามกาแลคซี
นักวิจัยคำนวณระยะทางถึง DF2 โดยใช้ฮับเบิลสำรวจดาวยักษ์แดงประมาณ
5400 ดวง
ได้ระยะทางที่ 72 ล้านปีแสง
การตรวจสอบระยะทางที่ได้ยิ่งตอกย้ำว่า DF2 ขาดแคลนสสารมืด โดยมีสสารมืดมากที่สุดเพียง 1/400
ของปริมาณสสารมืดที่คาดไว้
ทีมวิจัยได้ค่าระยะทางใหม่โดยมีพื้นฐานจากการถ่ายภาพด้วยกล้องเพื่อการสำรวจชั้นสูง(ACS)
เปิดหน้ากล้องนาน
ซึ่งจะให้ภาพกาแลคซีที่ลึกมากขึ้นเพื่อการค้นหาเทียนมาตรฐานที่น่าเชื่อถือเพื่อระบุระยะทางได้แน่ชัด
พวกเขาตั้งเป้าไปที่กาวิเคราะห์ดาวฤกษ์ยักษ์แดงอายุมาก(tip of the red
giant branch; TRGB) ที่ชายขอบของกาแลคซีแห่งนี้
ซึ่งจะมีความสว่างสูงสุดใกล้เคียงกันในสถานะวิวัฒนาการ
นักดาราศาสตร์สามารถใช้ความสว่างที่แท้จริงของดาวเหล่านี้เพื่อคำนวณระยะทางข้ามกาแลคซีได้
การศึกษาดาวยักษ์แดงที่สว่างเป็นตัวบ่งชี้ระยะทางที่รู้จักกันดีในกาแลคซีใกล้เคียง
Shen อธิบาย ซึ่งวิธีการนี้ช่วยขยายการศึกษาในปี
2018 ซึ่งพึ่งพาการวัดระยะทางด้วยวิธีการ
ความปั่นป่วนของความสว่างพื้นผิว(surface brightness fluctuation)
การตรวจสอบของฮับเบิลที่เที่ยงตรงมากขึ้นยังย้ำข้อสรุปเบื้องต้นของทีมที่ว่ากาแลคซีแห่งนี้ขาดแคลนสสารมืด
สมาชิกทีมกล่าว ดังนั้นปริศนาว่าเพราะเหตุใด DF2 จึงขาดแคลนสสารมืดจึงยังคงอยู่
สำหรับกาแลคซีเกือบทุกแห่งที่เราตรวจสอบ
เราบอกได้ว่าเรามองไม่เห็นมวลส่วนใหญ่ก็เพราะว่ามันเป็นสสารมืด van Dokkum อธิบาย
สิ่งที่คุณได้เห็นด้วยฮับเบิลเป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็ง แต่ในกรณีนี้
สิ่งที่ได้เห็นก็คือทั้งหมดที่เป็น ฮับเบิลได้แสดงมันแบบหมดเปลือกจริงๆ
ไม่ใช่แค่ยอดของภูเขาน้ำแข็ง แต่เป็นภูเขาน้ำแข็งทั้งก้อน
รายงานวิทยาศาสตร์เผยแพร่ใน Astrophysical Journal Letters วันที่ 9 มิถุนายน
กาแลคซี DF2 ที่แทบจะล่องหนได้เป็นก้อนนุ่นขนาดยักษ์ในอวกาศที่
van Dokkum เรียกว่าเป็นกาแลคซีซีทรู(see-through
galaxy) ซึ่งดาวของมันอยู่อย่างกระจัดกระจาย
กาแลคซีตัวประหลาดแห่งนี้มีความกว้างพอๆ กับทางช้างเผือก แต่มีดาวฤกษ์เพียง 1/200
ของจำนวนดาวในทางช้างเผือก
กาแลคซีที่เกือบล่องหนนี้(เรียกอย่างเป็นทางการว่า ultra-diffuse galaxy; UDG) ไม่ปรากฏว่ามีพื้นที่ใจกลาง, แขนกังหัน
หรือแม้แต่ดิสก์ ทีมประเมินว่า DF2 มีสสารมืดมากที่สุดที่
1/400 ส่วนของที่นักดาราศาสตร์เคยคาดไว้
แล้วกาแลคซีแห่งนี้ก่อตัวขึ้นได้อย่างไรนั้นก็ยิ่งเป็นปริศนาที่มืดมิด
DF2 ไม่ได้เป็นกาแลคซีแห่งเดียวที่ปราศจากสสารมืด
Shany Danieli จากสถาบันเพื่อการศึกษาชั้นสูง
ในพรินซตัน นิวเจอร์ซีย์ ใช้กล้องฮับเบิลในปี 2020 เพื่อหาระยะทางที่เที่ยงตรงสู่กาแลคซีเกือบล่องหนอีกแห่งที่เรียกว่า
NGC 1052-DF4(เรียกสั้นๆ
ว่า DF4)
ซึ่งก็ดูเหมือนจะขาดแคลนสสารมืดด้วยเช่นกัน
นักวิจัยคิดว่าทั้ง DF2 และ DF4 เป็นสมาชิกในกลุ่มกาแลคซี
อย่างไรก็ตาม
การสำรวจครั้งใหม่โดยฮับเบิลได้แสดงว่ากาแลคซีทั้งสองอยู่ห่างจากกันและกัน 6.5
ล้านปีแสง
ไกลจากกันและกันมากกว่าที่เคยคิดไว้ ยังปรากฏว่า DF2 กำลังวิ่งหนีออกจากกลุ่ม
และกำลังโดดเดี่ยวอยู่ในอวกาศ และกาแลคซีที่ฝ้าจางมากเหล่านี้ยังมีกระจุกดาวทรงกลม(globular
cluster) ที่สว่างเป็นพิเศษจำนวนมากด้วย
กาแลคซีทั้งสองถูกพบโดยเครือข่ายเลนส์เทเลโฟโตแมลงปอ(Dragonfly
Telephoto Array) ที่หอสังเกตการณ์ท้องฟ้านิวเมกซิโก
กาแลคซีทั้งสองอยู่ในกลุ่มเดียวกันและก่อตัวในเวลาใกล้เคียงกัน Dinieli กล่าว
ดังนั้นบางทีอาจจะมีสิ่งพิเศษในสภาพแวดล้อมที่พวกมันก่อตัวขึ้นมา
นักวิจัยกำลังตามล่าหากาแลคซีตัวประหลาดเหล่านี้เพิ่มขึ้น
ทีมนักดาราศาสตร์อื่นๆ ก็สำรวจหาด้วยเช่นกัน ในปี 2020 ทีมวิจัยทีมหนึ่งได้พบกาแลคซีแคระที่ไม่ปกติ 19
แห่งที่พวกเขาบอกว่าขาดแคลนสสารมืด(Off
the Baryonic Tully-Fisher Relation: A Population of Baryon-dominated
Ultra-diffuse Galaxies-IOPscience) อย่างไรก็ตาม
จะต้องค้นพบกาแลคซีที่ขาดแคลนสสารมืดให้มากกว่านี้เพื่อจะไขปริศนานี้ได้
ไม่ว่าอย่างไร van Dokkum คิดว่าการพบกาแลคซีที่ขาดแคลนสสารมืดบอกนักดาราศาสตร์ถึงบางสิ่งที่เกี่ยวกับสสารที่มองไม่เห็นนี้
ในรายงานปี 2018 ของเรา
เราบอกว่าถ้าคุณมีกาแลคซีที่ปราศจากสสารมืดสักแห่ง และกาแลคซีอื่นๆ
ที่ดูคล้ายกันกลับดูเหมือนจะมีสสารมืดอยู่ นั้นก็หมายความว่าสสารมืดนี้มีอยู่อย่างแท้จริง
van Dokkum กล่าว
มันไม่ใช่ภาพมิราจ(mirage) แม้จะเป็นองค์ประกอบที่จำเป็นในกาแลคซี
แต่การมีอยู่ของมันก็อาจไม่ใช่เรื่องจำเป็นอย่างวิกฤต
นักวิจัยจะยังคงตามล่าหากาแลคซีประหลาดเหล่านี้ต่อไป
ในขณะที่ก็มีคำถามจำนวนมากเช่น แล้วกาแลคซีฝ้าจางมากเหล่านี้ก่อตัวอย่างไร
พวกมันจะบอกอะไรเราเกี่ยวกับแบบจำลองเอกภพวิทยามาตรฐานได้หรือไม่
กาแลคซีเหล่านี้มีอยู่มากแค่ไหนและคุณสมบัติอันเป็นอัตลักษณ์ที่พวกมันมีคืออะไร
จะต้องใช้กาแลคซีที่ขาดแคลนสสารมืดเหล่านี้อีกมากมายเพื่อไขปริศนาเหล่านี้
และสู่คำถามสำคัญที่สุดว่า จริงๆ แล้วสสารมืดคืออะไร
แหล่งข่าว
hubblesite.org : mystery of galaxy’s missing dark matter deepens
phys.org : Hubble
data confirms galaxies lacking dark matter
No comments:
Post a Comment