แบบจำลองเอกภพวิทยา แสดงเส้นใยเอกภพ(cosmic web) ซึ่งเป็นกระแสธารก๊าซที่เชื่อมโยงระหว่างกาแลคซีและกระจุกกาแลคซี สสารปกติเหล่านี้มารวมกลุ่มกันและก่อตัวเป็นดาวฤกษ์, กาแลคซีและกระจุกกาแลคซี ได้โดยแรงโน้มถ่วงของสสารมืดที่อยู่โดยรอบได้ยุบตัวลงก่อน นำพาให้สสารปกติต้องยุบตัวตามด้วย
กระแสก๊าซบางเบาแต่มีขนาดใหญ่โตที่เชื่อมระหว่างกาแลคซี
เป็นทางด่วนให้กาแลคซีทั้งหลายกำลังมุ่งหน้าเข้าชนกับเป้าหมายจำเพาะ
ในงานศึกษาใหม่ ภาพรายละเอียดสูงแสดงกระจุกกาแลคซี
นักดาราศาสตร์ได้จำแนกพบว่ากระจุกกาแลคซีขนาดใหญ่แห่งนี้กำลังเคลื่อนที่ไปตามเส้นด้ายก๊าซขนาดมหึมา
รั้งไว้โดยแรงโน้มถ่วงให้พุ่งเข้าหากระจุกกาแลคซีอีก 2 แห่ง
นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นกำหนดจะพุ่งชนในอวกาศ
แต่มันก็ดูจะยืนยันทฤษฎีที่ว่าเส้นใยก๊าซเหล่านี้เป็นเหมือน “ถนนสสาร”
ที่นำทางกระจุกกาแลคซีเข้ามาควบรวมกัน งานวิจัยใหม่ที่เสนอใน Astronomy
& Astrophysics และเผยแพรออนไลน์ใน
arXiv
ตัวเส้นใยก๊าซนี้ซึ่งยาวอย่างน้อย 50 ล้านปีแสง และเรืองสลัวๆ ในช่วงรังสีเอกซ์
ถูกพบและจำแนกแจกแจงเมื่อปีที่แล้ว เส้นใยลักษณะนี้เป็นเส้นด้ายที่ถักทอใยเอกภพ(cosmic
web) พวกมันกระจุกอยู่ด้วยกันภายใต้แรงโน้มถ่วงในช่วงต้นๆ
ของเอกภพ และแผ่ข้ามระยะทางระหว่างกาแลคซีที่ไกลโพ้นและกระจุกกาแลคซี เส้นใยลักษณะอย่างนี้สามารถบอกเราเกี่ยวกับเอกภพได้ไม่น้อย
เช่น มันก่อตัวและพัฒนาตัวต่อไปได้อย่างไร, สสารมืดกระจุกตัวอยู่ที่ไหน
และเราจะสามารถหาสสารปกติได้ที่ไหนด้วยเช่นกัน
แต่เส้นด้ายก๊าซเบาบางนี้ก็สลัวอย่างมาก
เมื่อเทียบกับสสารที่สว่างมากเช่น ดาวและกาแลคซี ที่อยู่ทั่วไป
เราเพิ่งจะเริ่มพบพวกมัน ดังนั้นนักดาราศาสตร์จึงสนใจเส้นใยยาวนี้อย่างมาก
และอยากจะตรวจสอบให้ใกล้ชิดมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
สิ่งหนึ่งที่พวกเขากำลังมองหาก็คือรายละเอียดที่เรียกกันว่า Northern Clump
ซึ่งเป็นกระจุกกาแลคซีที่พบในเส้นใย
ด้วยการรวมข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์รังสีเอกซ์และคลื่นวิทยุหลายตัวรวมทั้งกล้องโทรทรรศน์วิทยุ
ASKAP ของ CSIRO,
SRG/e ROSITA, XMM-Newton และจันทรา
และข้อมูลช่วงตาเห็นจาก DECam
นักวิจัยก็สามารถจำแนกกาแลคซีแห่งหนึ่งที่ใจกลาง Northern Clump ซึ่งมีหลุมดำมวลมหาศาล(supermassive black
hole) ที่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวา
ที่ใจกลางกาแลคซี
หลุมดำแห่งนี้มีกิจกรรมสูงกลืนกินวัสดุสารที่โคจรรอบมันในดิสก์หนา เป็นกุญแจสำคัญ
เมื่อวัสดุสารจากดิสก์นี้ตกลงสู่หลุมดำ วัสดุสารบางส่วนจะถูกหมุนเวียนไปรอบๆ
ตามเส้นแรงสนามแม่เหล็ก ซึ่งจากนั้นจะยิงออกจากขั้วหลุมดำด้วยความเร็วเกือบเท่าแสง
ไอพ่นวัสดุสารเหล่านี้สามารถเดินทางข้ามห้วงอวกาศได้กว้างไกล
ซึ่งช่วยให้นักดาราศาสตร์ได้ทำการสำรจสภาพแวดล้อมรอบกาแลคซี
และนี่ก็เป็นวิธีที่ตรวจสอบกาแลคซีที่อยู่ในใจกลาง Northern Clump แห่งนี้ ไอพ่นของมันตามที่ Angie Veronica
นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์ที่มหาวิทยาลัยบอนน์
ในเจอรมนี บอกว่ากำลังพุ่งออกมาเมื่อ Northern Clump วิ่งผ่านห้วงอวกาศ เหมือนกับเป็น
“ผมเปียของนักวิ่งสาว”
ผู้นำโครงการ EMU ซึ่งส่งข้อมูลจาก ASKAP ให้กับการศึกษานี้คือ ศาสตราจารย์ Andrew
Hopkins จากมหาวิทยาลัยแมกควอรี
กล่าวว่า ความไวที่สุดยอดของ ASKAP กับการเปล่งคลื่นวิทยุแผ่วๆ
เป็นกุญแจที่ช่วยให้ตรวจจับไอพ่นที่เปล่งวิทยุเหล่านี้จากสิ่งนี้ นักวิจัยเชื่อว่า
Northern Clump กำลังเดินทางด้วยความเร็วสูงตามเส้นใยนี้
มุ่งหน้าเข้าหากระจุกกาแลคซีอีก 2 แห่งที่ก็เรียงตัวอยู่ในเส้นใยเดียวกัน
คือ Abell 3391 และ Abell
3395
แน่นอนว่า เรามองไม่เห็นการเคลื่อนที่นี้
มันก็แค่ว่าการเคลื่อนที่เกิดขึ้นที่ระยะทางไกลเกินไป
แต่เราก็ได้เห็นผลกระทบของมัน Thomas Reiprich นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยบอนน์ เช่นกัน
อธิบายว่า ขณะนี้เราแปลผลการสำรวจนี้ว่า Northern Clump กำลังสูญเสียวัสดุสารเมื่อมันเดินทาง
อย่างไรก็ตาม นี่ก็อาจจะเป็นกระจุกวัสดุสารขนาดเล็กกว่าในเส้นใยที่กำลังตกลงสู่ Northern
Clump ก็ได้
ในที่สุด
กระจุกทั้งหลายก็จะพบกันและควบรวมกัน
ก่อตัวเป็นกระจุกกาแลคซีที่มีขนาดใหญ่ขึ้นไปอีก
ลำดับเหตุการณ์นี้สอดคล้องกับแบบจำลองเสมือนจริงที่ทำโดยทีมนักดาราศาสตร์ทีมอื่น
เป็นที่ทราบกันว่าเส้นใยเอกภพเป็นตัวการที่ส่งวัสดุสารที่ใช้ก่อตัวดาวฤกษ์เข้าสู่จุดตัด(nodes)
ซึ่งจะสามารถก่อตัวกาแลคซีและกระจุกกาแลคซีขึ้นมา
ณ จุดตัด ถ้าปราศจากเส้นใยเอกภพ เอกภพที่เรารู้จักก็อาจจะไม่มี ดังนั้น
การเข้าใจว่าเส้นใยเอกภพทำงานอย่างไรและเพราะเหตุใดจึงเป็นพื้นฐานสำหรับเอกภพวิทยา
การค้นพบใหม่ยังสอดคล้องกับทฤษฎีปัจจุบันเกี่ยวกับเส้นใยเอกภพ
ซึ่งรวมถึงแนวคิดที่ว่าสสารมืดมัดเส้นใยเหล่านี้ไว้ด้วยแรงโน้มถ่วง
และพวกมันก็นำเราให้เข้าใกล้การเข้าใจว่าสรรพสิ่งในเอกภพเกี่ยวโยงกันอย่างไร ทฤษฎีเอกภพวิทยาบอกว่า
สสารส่วนใหญ่เป็นสสารที่มองไม่เห็น กล่าวคือเชื่อว่าเอกภพมีสสารมืด 85% มันแสดงบทบาทสำคัญโดยเป็นกลุ่มก้อนที่เริ่มยุบตัวลง
และเป็นสาเหตุให้สสารปกติที่อยู่ภายในยุบตัวตามกลายเป็นกาแลคซี
แหล่งข่าว sciencealert.com
: galaxies are headed for an epic collision on a cosmic matter highway
phys.org : clearest
images emerge of galaxies headed for collision on intergalactic “highway”
No comments:
Post a Comment