ภาพจากศิลปินแสดงฟองแม่เหล็กรอบระบบสุริยะของเราที่เรียกว่า เฮลิโอสเฟียร์(heliosphere) เป็นสีน้ำตาล พร้อมทั้งองค์ประกอบหลักๆ เฮลิโอสเฟียร์ถากไปในตัวกลางในห้วงอวกาศ(interstellar medium; ISM สีฟ้า) ขณะนี้ นักดาราศาสตร์ได้ทำแผนที่รูปร่างเฮลิโอสเฟียร์ในแบบสามมิติ
เป็นครั้งแรกที่เรามีแผนที่ขอบเขตจุดสิ้นสุดอิทธิพลสนามแม่เหล็กดวงอาทิตย์แบบสามมิติ
ซึ่งจะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ได้เข้าใจสภาพแวดล้อมของระบบสุริยะ และบอกได้ว่าลมสุริยะและลมในห้วงอวกาศมีปฏิสัมพันธ์กันอย่างไร
Dan Reisenfeld นักวิทยาศาสตร์ที่ห้องทดลองแห่งชาติ ลอส อลามอส
และผู้เขียนนำรายงานซึ่งเผยแพร่ใน Astrophysical Journal กล่าวว่า
แบบจำลองฟิสิกส์ได้ตั้งทฤษฎีสำหรับขอบเขตนี้มาหลายปี แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เราสามารถตรวจสอบมันได้อย่างแท้จริง
และทำแผนที่สามมิติได้
เฮลิโอสเฟียร์(heliosphere) เป็นฟองที่สร้างขึ้นจากลมสุริยะ(solar
wind) ซึ่งเป็นกระแสของอนุภาคที่เป็นโปรตอน,
อิเลคตรอน และอนุภาคอัลฟา แผ่ออกจากดวงอาทิตย์ออกสู่ห้วงอวกาศระหว่างดวงดาว
และปกป้องโลกจากรังสีในห้วงอวกาศที่เป็นอันตราย Reisenfeld และทีมใช้ข้อมูลจากดาวเทียม IBEX(Interstellar
Boundary Explorer) ซึ่งโคจรรอบโลก
ตรวจจับอนุภาคที่มาจากเฮลิโอชีธ(heliosheath) ชั้นรอยต่อระหว่างระบบสุริยะกับห้วงอวกาศ
ทีมสามารถทำแผนที่ขอบของชั้นนี้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เรียกว่า เฮลิโอพอส(heliopause)
ที่นี่
ลมสุริยะซึ่งผลักออกสู่ห้วงอวกาศ จะชนกับลมในห้วงอวกาศเอง
จริงๆ แล้วเราเคยเฉียดกับเฮลิโอพอสมาแล้ว
ยานวอยยาจเจอร์(Voyager) ทั้งสองลำซึ่งส่งออกสู่อวกาศเมื่อ
40 กว่าปีก่อน
ได้ผ่านมันไปและเข้าสู่ห้วงอวกาศระหว่างดวงดาว ห้วงอวกาศระหว่างดวงดาวไม่ได้มีสสารอยู่มากนัก
แต่ก็มีมากพอที่จะอะตอมที่กระจายด้วยความหนาแน่นต่ำ และลมที่พัดผ่านระหว่างดวงดาว
เป็นที่ถกเถียงกันว่าเฮลิโอพอสจะมีรูปร่างอย่างไร มันจะเป็นฟองกลม? หรือเป็นโครงสร้างคล้ายดาวหาง
โดยมีหางซึ่งเป็นกระแสอนุภาคอยู่เบื้องหลังระบบสุริยะเมื่อระบบสุริยะเคลื่อนที่ไปรอบๆ
ทางช้างเผือก หรือแปลกประหลาดคล้ายกับครัวซองค์?
เพื่อทำการตรวจสอบนี้
พวกเขาใช้เทคนิคที่คล้ายกับที่ค้างคาวใช้คลื่นโซนาร์(sounding) Reisenfeld กล่าวว่า
ก็เหมือนกับค้างคาวที่ใช้โซนาร์ในทุกทิศทางและใช้สัญญาณที่สะท้อนกลับมาเพื่อสร้างแผนที่สภาพแวดล้อมของมันในหัว
เราใช้ลมสุริยะซึ่งวิ่งออกทุกทิศทาง เพื่อสร้างแผนที่เฮลิโอสเฟียร์
โดยการใช้การตรวจสอบอะตอมเป็นกลางพลังงานสูง(energetic neutral atoms;
ENAs) ด้วย IBEX
ซึ่งเป็นผลจากการชนระหว่างอนุภาคในลมสุริยะกับอนุภาคจากลมในห้วงอวกาศที่ชีธ
เมื่ออนุภาคขโมยอิเลคตรอนและกลายเป็นอะตอมที่เป็นกลางที่มีพลังงานสูง
การขโมยนี้ทำให้ ENA ใหม่หลุดออกจากเส้นทางของมัน
ในบางกรณี ก็ย้อนกลับมาให้ IBEX
ความเข้มของสัญญาณนั้นขึ้นอยู่กับความเข้มของลมสุริยะที่ชนเฮลิโอชีธในช่วงเวลานั้น
เนื่องจากสัญญาณลมสุริยะที่ส่งออกจากดวงอาทิตย์นั้นมีความแปรผันในความแรง
ก่อตัวเป็นรูปแบบที่เป็นอัตลักษณ์ Reisenfeld อธิบาย IBEX จะมองหารูปแบบเดิมในสัญญาณ ENA ที่ส่งกลับมา ในอีก 2 ถึง 6 ปีต่อมาขึ้นอยู่กับพลังงานของ
ENA กับทิศทางที่ IBEX
กำลังมองผ่านเฮลิโอสเฟียร์
ความแตกต่างของเวลาก็คือวิธีที่เราใช้ตรวจสอบระยะทางสู่แหล่งของ ENA ในทิศทางที่จำเพาะ
จากนั้นพวกเขาก็ปรับใช้วิธีนี้เพื่อสร้างแผนที่สามมิติขึ้นมา
โดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมตลอด 1 วัฏจักรสุริยะเต็มๆ
ตั้งแต่ปี 2009 จนถึง 2019
เมื่อทำแบบนั้น
เราก็สามารถเห็นรอยต่อของเฮลิโอสเฟียร์ในวิธีเดียวกับที่ค้างคาวใช้โซนาร์เพื่อ
“เห็น” กำแพงของถ้ำได้ เขากล่าว
เหตุผลที่ต้องใช้เวลานานมากกว่าที่สัญญาณจะกลับมาถึง IBEX ก็เพราะระยะทางที่ห่างไกล
ระยะทางในระบบสุริยะวัดเป็นหน่วยดาราศาสตร์(astronomical unit; AU) ซึ่ง 1 AU เป็นระยะทางเฉลี่ยจากโลกถึงดวงอาทิตย์ แผนที่ของ Reisenfeld
ซึ่งยืนยันรูปร่างเฮลิโอสเฟียร์ดูคล้ายดาวหาง
ได้แสดงระยะทางสั้นที่สุดจากดวงอาทิตย์ถึงเฮลิโอพอสที่ประมาณ 120 AU ในทิศทางที่ระบบกำลังเดินทางไป(nose) สอดคล้องกับข้อมูลจากการข้ามเฮลิโอพอสจากยานวอยยาจเจอร์
และในทิศตรงกันข้ามมันจะแผ่ออกไปอย่างน้อย 350 AU ซึ่งเป็นขีดจำกัดระยะทางของเทคนิคการส่งสัญญาณนี้แล้ว
ในละติจูดสูง เฮลิโอพอสแผ่ออกไปถึง 150 ถึง 175
AU นี่แสดงว่ารูปร่างของมันดูเหมือนลูกกระสุน
แต่ไม่สอดคล้องกับแบบจำลองครัวซองค์แต่อย่างใดเลย
ปฏิบัติการ
IBEX ยังคงดำเนินไป
จนกระทั่งอย่างน้อยปี 2025 ในขณะที่มีกำหนดส่งยาน
IMAP(Interstellar Mapping and Acceleration Probe) ในปี 2024 ซึ่งจะสืบสานงานของ IBEX ต่อในการสำรวจที่ระดับพลังงานสูงกว่า IBEX และตรวจสอบได้ไกลกว่า
ทีมหวังว่าทั้งสองปฏิบัติการจะให้ข้อมูลมากขึ้นเพื่อช่วยปรับแต่งรูปร่างเฮลิโอพอสได้
งานวิจัยเผยแพร่ใน Astrophysical Journal Supplement Series เดือนมิถุนายน
แหล่งข่าว sciencedaily.com
: boundary of heliophere mapped
sciencealert.com :
we have the first-ever 3D map of our solar system’s heliosphere, and it’s
amazing
skyandtelescope.com :
astronomers map the solar system’s edge in 3D
iflscience.com : boundary
between the heliosphere and interstellar space has been mapped for the first
time
No comments:
Post a Comment