เอกภพของเรานั้นเป็นทะเลของระลอกในกาลอวกาศที่เรียกว่า คลื่นความโน้มถ่วง
นักดาราศาสตร์คิดว่าคลื่นที่มาจากคู่หลุมดำมวลมหาศาลที่โคจรรอบกันและกันในกาแลคซีที่อยู่ห่างไกล
น่าจะมีความยาวหลักปีแสง และพยายามสำรวจหาพวกมันมาหลายสิบปี
และขณะนี้พวกเขาก็ก้าวหน้าไปอีกขั้นต้องขอบคุณกล้องโทรทรรศน์อวกาศเฟอร์มี
เฟอร์มีตรวจจับรังสีแกมมา
ซึ่งเป็นแสงในรูปแบบที่มีพลังงานสูงสุด
ทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติได้ตรวจสอบข้อมูลเฟอร์มีสิบกว่าปีที่สำรวจพัลซาร์(pulsar)
ซึ่งเป็นซากแกนกลางหมุนรอบตัวเร็วมากของดาวที่ระเบิดเป็นซุปเปอร์โนวา
พวกเขามองหาความแปรผันเล็กน้อยที่เกิดกับเวลาที่สัญญาณรังสีแกมมาจากพัลซาร์มาถึงโลก
การเปลี่ยนแปลงซึ่งอาจมีสาเหตุจากแสงที่ผ่านคลื่นความโน้มถ่วงในเส้นทางมายังโลก
แต่พวกเขาก็ไม่พบอะไรเลย
แต่การไม่พบอะไรเลยก็คือการค้นพบ
การวิเคราะห์แสดงว่าด้วยการสำรวจที่มากขึ้น
คลื่นเหล่านี้น่าจะอยู่ในวิสัยการสำรวจของเฟอร์มีได้
เราค่อนข้างประหลาดใจเมื่อเราพบว่าเฟอร์มีน่าจะช่วยเราตามล่าคลื่นความโน้มถ่วงแบบยาวได้
Matthew Kerr นักฟิสิกส์วิจัยที่ห้องทดลองวิจัยกองทัพเรือสหรัฐฯ
ในวอชิงตัน กล่าว มันเป็นเรื่องเหล้าเก่าในขวดใหม่
เมื่อมีการสำรวจหาคลื่นความโน้มถ่วงในช่วงวิทยุมาหลายปีแล้ว
แต่เฟอร์มีและรังสีแกมมาก็มีคุณลักษณะพิเศษบางอย่างที่ทำให้มันเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังอย่างมากในการสำรวจหานี้
ผลสรุปจากการศึกษาซึ่งมี Kerr นำทีมร่วมกับ Aditya Parthasarathy นักวิจัยที่สถาบันมักซ์พลังค์เพื่อดาราศาสตร์วิทยุ(MPIfR)
ในบอนน์ เจอรมนี
เผยแพร่ออนไลน์โดยวารสาร Science วันที่
7 เมษายน
เมื่อวัตถุมวลสูงมีความเร่ง(ความเร็วเพิ่มขึ้น)
พวกมันจะสร้างคลื่นความโน้มถ่วงที่เดินทางด้วยความเร็วแสง LIGO(Laser
Interferometer Gravitational-wave Observatory) ได้พบคลื่นความโน้มถ่วงเป็นครั้งแรกในปี
2015 จะสามารถรับรู้ระลอกที่มีความยาวหลายสิบหรือหลายร้อยกิโลเมตรจากยอดถึงยอดได้
ซึ่งจะม้วนผ่านโลกในเวลาเพียงเสี้ยววินาที ส่วนหอสังเกตการณ์ในอวกาศ LISA(Laser
Interferometer Space Antenna) น่าจะพบคลื่นที่ยาวหลายล้านจนถึงหลายพันล้านกิโลเมตรได้
แต่ที่ Kerr และทีมกำลังค้นหา
เป็นคลื่นที่ยาวในระดับปีแสง(หรือหลักล้านล้านกิโลเมตร)
ซึ่งยาวและใช้เวลาเป็นปีเพื่อเคลื่อนที่ผ่านโลก
ระลอกที่เนิบยาวเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของคลื่นความโน้มถ่วงพื้นหลัง
ซึ่งเป็นทะเลของคลื่นที่เกิดขึ้นจากคู่หลุมดำมวลมหาศาล(supermassive black
holes) ในใจกลางกาแลคซีที่ควบรวมกัน
เมื่อกาแลคซีถูกดึงเข้าหากันและกันด้วยแรงโน้มถ่วงมหาศาล
และเมื่อพวกมันควบรวมกันหลุมดำของพวกมันก็จะจมลงสู่ใจกลางกาแลคซีใหม่ เมื่อหลุมดำหมุนวนเข้าหากันและกันและชนกัน
เมื่อเอกภพเต็มไปด้วยกาแลคซี(และหลุมดำ) ที่ควบรวมกันเช่นนี้
เอกภพจึงเต็มไปด้วยระลอกในกาลอวกาศความถี่ต่ำ
ภาพแสดงคลื่นความโน้มถ่วงทีเปล่งออกจากหลุมดำสองแห่งที่มีมวลเท่ากัน เมื่อพวกมันหมุนวนไปรอบกันและกัน ระลอกสีส้มเป็นการรบกวนผืนกาลอวกาศ ซึ่งเกิดจากมวลที่หมุนรอบตัวเร็ว การรบกวนเหล่านี้แผ่กระจายออกและอ่อนแรงลง กลายเป็นคลื่นความโน้มถ่วง(สีม่วง) แบบจำลองเสมือนจริงนี้แสดงจากซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ไพลอาดีส ที่ศูนย์วิจัยเอมส์ของนาซา
เพื่อที่จะค้นหา
นักวิทยาศาสตร์ต้องการเครื่องตรวจจับระดับกาแลคซีที่เรียกว่า
เครือข่ายจับเวลาพัลซาร์(pulsar timing arrays) เครือข่ายเหล่านี้ใช้ชุดพัลซาร์เสี้ยววินาที(millisecond
pulsar) ซึ่งหมุนรอบตัวเร็วมากพอๆ
กับเครื่องบดปั่นในครัว(หลายร้อยรอบต่อวินาที)
พัลซาร์เสี้ยววินาทีจะกวาดลำแสงตั้งแต่คลื่นวิทยุจนถึงรังสีแกมมา
ผ่านแนวสายตาของเรา ปรากฏเสมือนว่าเป็นจังหวะ(pulse) ด้วยความสม่ำเสมออย่างไม่น่าเชื่อราวกับเป็นนาฬิกาเอกภพ
เมื่อคลื่นความโน้มถ่วงยาว
กวาดผ่านระหว่างหนึ่งในพัลซาร์เหล่านั้นกับโลก
พวกมันจะทำให้สัญญาณมาถึงล่าช้าหรือมาก่อนเวลา ในระดับพันล้านส่วนของวินาที
ด้วยการมองหารูปแบบการแปรผันของจังหวะที่จำเพาะจากพัลซาร์ในเครือข่าย
นักวิทยาศาสตร์คาดว่าพวกมันจะเผยให้เห็นคลื่นความโน้มถ่วงที่ม้วนผ่านได้
นักดาราศาสตร์วิทยุได้ใช้เครือข่ายจับเวลาพัลซาร์มาหลายทศวรรษแล้ว
และการสำรวจก็ไวที่สุดกับคลื่นความโน้มถ่วงเหล่านั้น
แต่ผลในอวกาศก็ทำให้การวิเคราะห์ข้อมูลวิทยุต้องซับซ้อนมากขึ้น
อวกาศนั้นมีอิเลคตรอนพเนจร(stray electron)
ซึ่งเมื่อเดินทางมาหลายปีแสง ผลโดยรวมจะบิดเบนเส้นทางคลื่นวิทยุไป
สิ่งนี้จะส่งผลต่อเวลาการมาถึงของจังหวะที่ความถี่แตกต่างกัน
แต่รังสีแกมมาไม่พบกับผลกระทบเหล่านั้น จึงเป็นการตรวจสอบที่ทั้งสมบูรณ์แบบและยืนยันผลสรุปจากวิทยุได้อีกทาง
Parthasarathy กล่าวว่า
เมื่อเทียบถึงศักยภาพในการตรวจจับคลื่นความโน้มถ่วงพื้นหลังแล้ว
ผลสรุปเฟอร์มีอยู่ในระดับ 30% ของเครือข่ายจับเวลาพัลซาร์ในช่วงวิทยุแล้ว
ถ้ามีการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลพัลซาร์ต่ออีก 5 ปี มันก็คงจะใกล้เคียงกัน
โดยมีข้อได้เปรียบพิเศษที่ไม่ต้องกังวลใดๆ เรื่องอิเลคตรอนพเนจรในอวกาศเลย
ภายในทศวรรษหน้า นักดาราศาสตร์ทั้งคลื่นวิทยุและรังสีแกมมา
คาดว่าจะเข้าถึงระดับความไวที่จะช่วยให้พวกเขาได้พบคลื่นความโน้มถ่วงจากคู่หลุมดำยักษ์ที่กำลังหมุนวนเข้าหากัน
Judith Racusin ผู้ช่วยนักวิทยาศาสตร์โครงการเฟอร์มีที่ศูนย์การบินอวกาศกอดดาร์ดของนาซา
กล่าวว่า
ความสามารถอันน่าเหลือเชื่อของเฟอร์มีในการจับเวลาการมาถึงของรังสีแกมมาได้อย่างแม่นยำ
กับพื้นที่การสำรวจที่กว้าง ทำให้การตรวจสอบนี้เป็นไปได้
นับตั้งแต่ที่มันถูกส่งออก ปฏิบัติการก็สร้างความประหลาดใจให้กับเราอย่างต่อเนื่องด้วยการค้นพบใหม่ๆ
จากท้องฟ้าในช่วงรังสีแกมมา เรากำลังเฝ้ารอการค้นพบที่น่ามหัศจรรย์ครั้งต่อไป
เครือข่ายจับเวลาพัลซาร์รังสีแกมมา
เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงก่อนการนำส่งเฟอร์มี
จะกลายเป็นหนทางใหม่ในการศึกษาดาราศาสตร์ฟิสิกส์คลื่นความโน้มถ่วง Michael
Kramer ผู้อำนวยการ MPIfR
และหัวหน้าแผนกฟิสิกส์พื้นฐานในงานวิจัยดาราศาสตร์วิทยุของสถาบัน กล่าวสรุปว่า
การตรวจจับคลื่นความโน้มถ่วงพื้นหลังด้วยพัลซาร์อยู่ในวิสัยที่เข้าถึงได้แม้จะยาก
วิธีที่แตกต่างไปซึ่งแสดงในงานวิจัยใหม่ผ่านเฟอร์มีจึงเป็นข่าวดีมาก ทั้งการยืนยันการค้นพบในอนาคต
และในการประสานกับการทดลองช่วงวิทยุ
แหล่งข่าว spaceref.com
: Fermi hunts for gravitational waves from monster black holes
phys.org : Fermi
satellite hunts for extremely long wave length gravitational wave signals
No comments:
Post a Comment