ไมมาส(Mimas) ดวงจันทร์วงในสุดของดาวเสาร์ เมื่อมองเผินๆ ดูคล้ายกับ เดธสตาร์(Death Star) ในภาพยนตร์สตาร์วอร์ส ด้วยพื้นผิวที่ปุปะไปด้วยหลุมอุกกาบาตมากมาย ไม่แสดงถึงกิจกรรมทางธรณีวิทยาเช่น การสร้างพื้นผิวใหม่(resurfacing) นักวิทยาศาสตร์จึงคิดว่าไมมาสเป็นดวงจันทร์ที่แข็งตัวแล้ว
นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันวิจัยเซาธ์เวสต์ได้พิสูจน์แล้วว่าดวงจันทร์จิ๋วที่อยู่วงในสุดของดาวเสาร์
และเป็นวัตถุที่มีขนาดเล็กที่สุดในระบบสุริยะที่มีรูปร่างกลม
ไม่ได้เป็นวัตถุเฉื่อยเยือกแข็ง
แต่กลับได้พบหลักฐานว่า ไมมาส(Mimas)
มีมหาสมุทรภายในที่เป็นของเหลว
ในช่วงปลายของปฏิบัติการคาสสินี ยานได้พบการหมุนรอบตัวส่าย(libration) ของดวงจันทร์ ซึ่งมักจะชี้ไปถึงวัตถุที่ยังมีกิจกรรมทางธรณีวิทยาที่สามารถค้ำจุนมหาสมุทรภายในได้
ถ้าไมมาสมีมหาสมุทร
มันก็จะเป็นตัวแทนของพิภพมหาสมุทรล่องหนขนาดเล็กกลุ่มใหม่
ที่มีพื้นผิวที่ไม่ได้บ่งบอกถึงการมีอยู่ของมหาสมุทรเลย Alyssa Rhoden จากสถาบันวิจัยเซาธ์เวสต์(SwRI) ผู้เชี่ยวชาญธรณีฟิสิกส์ดวงจันทร์น้ำแข็ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งดวงจันทร์ที่มีมหาสมุทร
และวิวัฒนาการของระบบดวงจันทร์รอบดาวเคราะห์ยักษ์
หนึ่งในการค้นพบที่น่าตื่นเต้นที่สุดในวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์ในช่วง
25 ปีทีผ่านมาก็คือ
พิภพที่มีมหาสมุทรอยู่ใต้ชั้นหินและน้ำแข็งนั้น พบได้ทั่วไปในระบบสุริยะของเรา
พิภพลักษณะดังกล่าวรวมถึงดวงจันทร์น้ำแข็งของดาวเคราะห์ยักษ์ เช่น ยูโรปา(Europa),
ไททัน(Titan) และเอนเซลาดัส(Enceladus) เช่นเดียวกับดาวเคราะห์(แคระ)
ที่ห่างไกลอย่างพลูโต
พิภพอย่างโลกที่มีมหาสมุทรบนพื้นผิวจะต้องอาศัยอยู่ในช่วงระยะทางแคบๆ
จากดาวฤกษ์แม่ เพื่อรักษาอุณหภูมิให้ค้ำจุนมหาสมุทรของเหลวได้ อย่างไรก็ตาม
พิภพมหาสมุทรของเหลวภายใน(interior water ocean worlds; IWOWs) จะพบได้ในช่วงระยะทางที่กว้างกว่า
ยิ่งเพิ่มจำนวนพิภพที่เอื้ออาศัยได้ทั่วกาแลคซีขึ้นอีกมากมาย
เนื่องจากพื้นผิวของไมมาสนั้นปุปะด้วยหลุมอุกกาบาต
เราจึงคิดว่ามันคงเป็นแค่ก้อนน้ำแข็งเท่านั้น Rhoden กล่าว แต่พิภพมหาสมุทรของเหลวภายใน อย่างเช่น
เอนเซลาดัสและยูโรปา ดูจะมีรอยเลื่อนและแสดงสัญญาณกิจกรรมทางธรณีวิทยาอื่นๆ อีก
กลับกลายเป็นว่า พื้นผิวไมมาสกำลังหลอกเรา
และความเข้าใจใหม่นี้ก็ได้ขยายนิยามพิภพที่มีศักยภาพเอื้ออาศัยได้(potentially
habitable world) ในระบบสุริยะของเราและข้างนอก
ออกไปอีกมากมาย
บนโลก
ชีวิตมักจะพึ่งพาแสงอาทิตย์เพื่ออยู่รอด
แต่ก็มีสถานที่สองสามแห่งที่สิ่งมีชีวิตจะอาศัยอยู่ในสภาพมืดมิดได้
ที่ก้นมหาสมุทรก็เป็นที่หนึ่ง โดยกระจุกอยู่รอบๆ ปล่องระบายความร้อนที่ก้นทะเล(hydrothermal
vents) ซึ่งปล่อยความร้อนและสารอาหารจากภายในโลก
ที่นั่น ชีวิตไม่ได้พึ่งพากระบวนการสังเคราะห์แสง(photosynthesis) แต่เป็นการสังเคราะห์ด้วยเคมี(chemosynthesis)
ซึ่งใช้พลังงานจากปฏิกิริยาเคมีเพื่อสังเคราะห์อาหารขึ้น
นี่จึงมีความจำเป็นต่อการสำรวจหาสิ่งมีชีวิตนอกโลก
เมื่อพบว่าดวงจันทร์ยูโรปาของดาวพฤหัสฯ และเอนเซลาดัสของดาวเสาร์มีมหาสมุทรของเหลวอยู่ใต้เปลือกน้ำแข็งของพวกมัน
กิจกรรมทางธรณีวิทยาลึกลงไปภายในดวงจันทร์
ผลักดันโดยการยืดและหดด้วยปฏิสัมพันธ์แรงโน้มถ่วง กระบวนการรบกวนด้วยแรงโน้มถ่วงจะสลายพลังงานการโคจรและการหมุนรอบตัว
ให้กลายเป็นความร้อนในดวงจันทร์บริวาร เพื่อให้สอดคล้องกับโครงสร้างภายในที่บอกใบ้จากการหมุนรอบตัวส่ายของไมมาส
ความร้อนจากแรงบีบฉีก(tidal heating) ภายในดวงจันทร์จะต้องมากพอที่จะรักษาให้มหาสมุทรไม่เยือกแข็ง
แต่ก็ไม่มากพอที่จะหลอมเปลือกน้ำแข็งหนาของดวงจันทร์ ด้วยการใช้แบบจำลอง
ทีมได้หาวิธีการมากมายเพื่อสร้างคำอธิบายที่สมเหตุสมผลที่สุด โดยบอกว่า
จะต้องมีเปลือกน้ำแข็งที่ดูไร้ชีวิตชีวา หนาระหว่าง 24 ถึง 31 กิโลเมตร
เหนือมหาสมุทรของเหลว เนื่องจากไมมาสมีเส้นผ่าศูนย์กลางเพียง 396 กิโลเมตร เปลือกนี้จัดว่าค่อนข้างหนา
เมื่อเทียบกับเอนเซลาดัสซึ่งมีเปลือกน้ำแข็งหนาระหว่าง 5 ถึง 35 กิโลเมตรจากเส้นผ่าศูนย์กลาง
513 กิโลเมตร
เมื่อเราสร้างแบบจำลองเหล่านี้เวลาเกือบทั้งหมดที่ใช้ก็เพื่อค่อยๆ
ปรับแต่งแบบจำลองให้สร้างสิ่งที่เราสำรวจพบ Rhoden กล่าว
ครั้งนี้หลักฐานมหาสมุทรภายในก็โผล่ขึ้นมาในลำดับเหตุการณ์เปลือกน้ำแข็งสถิตและการส่ายของแกนการหมุนรอบตัวแทบทุกอัน
ทีมยังพบว่า การถ่ายเทความร้อนจากพื้นผิวขึ้นอยู่กับความหนาของเปลือกน้ำแข็งอย่างแยกจากกันไม่ได้
ซึ่งการใช้ยานอวกาศน่าจะบอกได้ ยกตัวอย่างเช่น ยานจูโน(Juno) ซึ่งมีกำหนดบินผ่านยูโรปาในเดือนกันยายนนี้ และจะใช้เครื่องส่งคลื่นไมโครเวฟเพื่อตรวจสอบการถ่ายเทความร้อนในดวงจันทร์นี้
ข้อมูลนี้จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ได้เข้าใจว่าการถ่ายเทความร้อนส่งผลต่อเปลือกน้ำแข็งของพิภพมหาสมุทรอย่าง
ไมมาส อย่างไร ซึ่งมีความน่าสนใจเป็นพิเศษเมื่อปฏิบัติการยูโรปา คลิปเปอร์(Europa
Clipper) ของนาซา
จะพร้อมส่งในปี 2024
และสุดท้าย แบบจำลองยังบอกว่านอกจากจะมีมหาสมุทรของเหลวแล้ว
แกนกลางของไมมาสยังมีการแบ่งชั้นหิน
(differentiated) ด้วย
นี่ค้านกับแบบจำลองก่อนหน้านี้ว่าด้วยวิวัฒนาการของไมมาส
เนื่องจากการแบ่งชั้นหินของดวงจันทร์ตั้งแต่ต้นๆ
น่าจะสร้างวงโคจรที่แตกต่างจากที่เป็นในปัจจุบันอย่างมาก นี่ทำให้ไมมาสมีความน่าสนใจอย่างมากสำหรับการศึกษาและการสำรวจต่อไป
ยูโรปา คลิปเปอร์ ตรวจสอบชั้นเปลือกน้ำแข็งของยูโรปา
แม้ว่าผลสรุปของเราจะสนับสนุนมหาสมุทรที่ไมมาสในยุคปัจจุบัน
แต่มันก็ยังท้าทายที่จะประสานคุณลักษณะการโคจรและธรณีวิทยาของดวงจันทร์
กับความเข้าใจปัจจุบันของเราเกี่ยวกับวิวัฒนาการความร้อน-การโคจรของดวงจันทร์ Rhoden กล่าว
การประเมินสถานะของไมมาสในฐานะดวงจันทร์มหาสมุทร
น่าจะส่งผลต่อแบบจำลองการก่อตัวและวิวัฒนาการของมัน
นี่น่าจะช่วยเราให้เข้าใจวงแหวนดาวเสาร์และดวงจันทร์ขนาดกลางของมันได้ดีขึ้น
เช่นเดียวกับความชุกชุมของดวงจันทร์มหาสมุทรที่มีศักยภาพเอื้ออาศัยได้ โดยเฉพาะที่ยูเรนัส
ไมมาสเป็นเป้าหมายที่น่าสนใจสำหรับการสืบสวนต่อไป รายงานการวิจัยเผยแพร่ใน Icarus
แหล่งข่าว phys.org
: uncovering evidence for an internal ocean in small Saturn moon
sciencealert.com : the
moon that resembles the death star has been hiding another epic secret
No comments:
Post a Comment