ในใจกลางทางช้างเผือกนั้นกำลังถักทอด้วยกลุ่มด้ายก๊าซร้อนยิ่งยวดและสนามแม่เหล็ก
ภาพใหม่ที่ได้นี้เป็นข้อมูลโมเสอิคขนาดใหญ่จากหอสังเกตการณ์รังสีเอกซ์จันทราของนาซาและกล้องโทรทรรศน์วิทยุเมียร์แคท(MeerKAT)
ในอาฟริกาใต้
ภาพพาโนรามาใจกลางกาแลคซีทำขึ้นจากการสำรวจก่อนหน้านี้โดยจันทราและกล้องอื่นๆ
ภาพล่าสุดขยายมุมมองพลังงานสูงจากจันทราออกไปเหนือและใต้ระนาบกาแลคซีมากกว่าโครงการถ่ายภาพอื่นๆ
ก่อนหน้านี้เคยทำมา ในภาพ ข้อมูลรังสีเอกซ์จากจันทราเป็นสีส้ม, เขียว, ฟ้าและม่วง
แสดงถึงระดับพลังงานในช่วงรังสีเอกซ์ที่แตกต่างกัน และข้อมูลช่วงวิทยุจากเมียร์แคทแสดงเป็นสีม่วงไลแลคและเทา
มีเส้นด้ายเส้นหนึ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษเนื่องจากมันมีการเปล่งรังสีเอกซ์และคลื่นวิทยุที่ไขว้กัน G0.17-41 ชี้ตั้งฉากกับระนาบของกาแลคซี และมีความยาวประมาณ
20 ปีแสง
แต่มีความกว้างเพียงหนึ่งในร้อยส่วนของความยาว
การศึกษาคุณสมบัติรังสีเอกซ์และคลื่นวิทยุจากเส้นด้ายนี้ครั้งใหม่โดย Q.
Daniel Wang จากมหาวิทยาลัยแมสซาชูเสตต์
ที่อัมเฮิร์ตท์ บอกว่า รายละเอียดเหล่านี้ผูกโยงเข้าหากันด้วยแถบสนามแม่เหล็กบางๆ
นี่คล้ายกับสิ่งที่สำรวจพบในเส้นด้ายที่ศึกษาก่อนหน้านี้(เส้นด้ายทั้งสองระบุไว้ในภาพ
แต่เส้นด้ายที่ศึกษาใหม่อยู่ทางล่างซ้ายและห่างจากระนาบกาแลคซีออกมา)
แถบลักษณะดังกล่าวอาจจะก่อตัวขึ้นเมื่อสนามแม่เหล็กเรียงตัวในทิศทางที่แตกต่างกัน,
ชนกันและก็บิดตัวไปรอบๆ กันและกันในกระบวนการที่เรียกว่า
การเชื่อมต่อใหม่ทางแม่เหล็ก(magnetic reconnection) สนามแม่เหล็กที่มีการเรียงตัวใหม่
จะปล่อยพลังงานแม่เหล็กออกมาซึ่งจะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานจลน์และความร้อน นี่คล้ายกับปรากฏการณ์ประหลาดที่ขับเคลื่อนอนุภาคทรงพลังออกจากดวงอาทิตย์
และเป็นตัวการที่ทำให้เกิดสภาวะอวกาศ(space weather) ซึ่งบางครั้งก็สร้างผลกระทบต่อโลก
การศึกษาเส้นด้ายแม่เหล็กเหล่านี้ในรายละเอียดช่วยสอนเราให้ทราบเกี่ยวกับสภาวะอวกาศของกาแลคซีที่นักดาราศาสตร์ได้เห็นทั่วพื้นที่นี้ได้มากขึ้น
สภาวะอวกาศนี้ถูกขับดันโดยปรากฏการณ์ที่ละเอียดอ่อนเช่น การระเบิดซุปเปอร์โนวา,
ดาวที่อยู่กันอย่างแออัดเป่าก๊าซร้อนออกมา
และการปะทุสสารจากพื้นที่ใกล้กับคนยิงธนู เอ สตาร์(Sagittarius A*) หลุมดำมวลมหาศาล(supermassive black
holes) ของกาแลคซีทางช้างเผือก
และที่ระบุไว้ในภาพหลักก็เป็นรังสีเอกซ์ที่สะท้อนออกจากฝุ่นรอบๆ
แหล่งรังสีเอกซ์สว่าง(วงกลมสีเขียว), คนยิงธนู เอ สตาร์ และในวงรี-วงกลมสีม่วง เป็น Arches and Quintiplet
clusters, DB00-58 และ DB00-6,
1E 1743.1-28.43, เมฆก๊าซเย็น(the
Cold Gas Cloud) และ คนยิงธนู
ซี(Sagittarius C)
นอกเหนือจากเส้นด้าย
ภาพพาโนรามายังเผยให้เห็นสิ่งที่น่ามหัศจรรย์อื่นๆ ในใจกลางกาแลคซีด้วย
ยกตัวอย่างเช่น ทีมของ Wang ได้รายงานพวยก๊าซร้อนขนาดใหญ่
ซึ่งอาจแผ่ออกไปประมาณ 700 ปีแสงเหนือและใต้ระนาบกาแลคซี
ซึ่งมีรายละเอียดสูงกว่าที่เคยทำมา(แต่พวกมันก็ยังมีขนาดเล็กกว่า ฟองเฟอร์มี
ซึ่งแผ่ออกไปประมาณ 25000 ปีแสงเหนือและใต้ระนาบกาแลคซี)
พวยก๊าซเหล่านี้อาจจะแสดงถึงวัสดุสารทีไหลออก(outflow) ในระดับกาแลคซี
คล้ายกับอนุภาคที่ถูกดันขับออกจากดวงอาทิตย์
ก๊าซน่าจะร้อนขึ้นโดยการระเบิดซุปเปอร์โนวา
และการเชื่อมต่อใหม่ทางแม่เหล็กเมื่อเร็วๆ
นี้มากมายซึ่งเกิดขึ้นใกล้กับใจกลางกาแลคซี
เหตุการณ์เชื่อมต่อใหม่เช่นนั้นเป็นเรื่องปกติแต่ก็ไม่ได้มีพลังงานสูงพอที่จะตรวจจับในช่วงรังสีเอกซ์ได้
ยกเว้นแต่เหตุการณ์ที่ทรงพลังที่สุดในใจกลางกาแลคซีที่ซึ่งสนามแม่เหล็กในห้วงอวกาศในพื้นที่นั้นมีความแรงสูงกว่าอย่างมาก
เนื่องจากเหตุการณ์การเชื่อมต่อใหม่เกือบทั้งหมดน่าจะสลัวเกินไปจึงเป็นไปได้ว่า G0.17-0.41
จึงเป็นเพียงยอดของภูเขาน้ำแข็งการเชื่อมต่อใหม่ในใจกลางกาแลคซีเท่านั้น
Wang เขียนไว้ในรายงาน
การเชื่อมต่อติดใหม่ทางแม่เหล็กอาจจะมีบทบาทใหญ่ในการทำให้ก๊าซที่มีอยู่ระหว่างดาว(interstellar
medium) ร้อนขึ้น
กระบวนการนี้ยังอาจเป็นตัวการที่เร่งความเร็วให้กับอนุภาคจนสร้างรังสีคอสมิคขึ้นมาอย่างที่สำรวจพบบนโลก
และผลักดันความปั่นป่วนในก๊าซระหว่างดวงดาวจนเหนี่ยวนำให้มีการก่อตัวดาวฤกษ์รุ่นใหม่ๆ
ขึ้นมา ภาพนี้ยังแสดงว่าเส้นด้ายแม่เหล็กดูจะเกิดขึ้นได้ที่ขอบส่วนนอกของพวยก๊าซร้อนขนาดใหญ่ด้วย
นี่บอกว่าก๊าซในพวยก๊าซกำลังขับเคลื่อนสนามแม่เหล็กที่ชนเข้าด้วยกันเพื่อสร้างเส้นด้ายแม่เหล็กขึ้นมา
รายงานโดย Wang และทีมเผยแพร่ใน Monthly Notices of the
Royal Astronomical Society เดือนมิถุนายน
แหล่งข่าว nasa.gov
: magnetized threads weave spectacular galactic tapestry
sciencealert.com : this
startling image of our galaxy’s center hints at a new cosmic phenomenon
No comments:
Post a Comment