เช่นเดียวกับดาวฤกษ์ทุกดวง ดวงอาทิตย์ของเราเองก็ได้รับพลังงานจากการหลอมไฮโดรเจนเป็นธาตุที่หนักขึ้น นิวเคลียร์ฟิวชั่น(nuclear fusion) ไม่เพียงแต่เป็นสิ่งที่ทำให้ดาวฤกษ์ส่องสว่าง แต่มันยังเป็นแหล่งสารเคมีหลักๆ ที่สร้างสรรพสิ่งรอบๆ เราขึ้นมา
ความเข้าใจการหลอมธาตุในดาว
ส่วนใหญ่มาจากแบบจำลองทฤษฎีเรื่องนิวเคลียสอะตอม
แต่สำหรับดาวฤกษ์ที่อยู่ใกล้เรามากที่สุด เราก็ยังมีข้อมูลอื่นด้วย จากนิวตริโน(neutrino)
ที่ถูกสร้างขึ้นในแกนกลางของดวงอาทิตย์
เมื่อใดก็ตาม ที่นิวเคลียสอะตอมเกิดการหลอมธาตุขึ้น
พวกมันไม่ได้สร้างแค่รังสีแกมมาพลังงานสูงเท่านั้น แต่ยังสร้างนิวตริโนด้วย
ในขณะที่รังสีแกมมาทำให้ภายในของดวงอาทิตย์ร้อนขึ้นตลอดช่วงหลายพันปี แต่นิวตริโนจะวิ่งออกจากดวงอาทิตย์ด้วยความเร็วเกือบเท่าแสง
นิวตริโนของดวงอาทิตย์ถูกพบเป็นครั้งแรกในช่วงทศวรรษ 1960 แต่ก็ยากที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมนอกเหนือจากความจริงที่ว่าพวกมันมาจากดวงอาทิตย์
นี่พิสูจน์ว่าการหลอมนิวเคลียสเกิดขึ้นในดวงอาทิตย์แต่ไม่ใช่การหลอมชนิดใดชนิดหนึ่ง
จากทฤษฎี
รูปแบบการหลอมในดวงอาทิตย์ควรจะเป็นการหลอมโปรตอนเพื่อสร้างฮีเลียมขึ้นจากไฮโดรเจน
ซึ่งเรียกว่า โซ่โปรตอน-โปรตอน(proton-proton
chain; pp-chain) ซึ่งเป็นปฏิกิริยาที่ง่ายที่สุดที่ดาวจะสร้างได้
สำหรับดาวที่มีขนาดใหญ่กว่านี้จะมีแกนกลางที่ร้อนกว่าและหนาแน่นสูงกว่า
ก็จะมีปฏิกิริยาการหลอมที่ทรงพลังที่เรียกว่า CNO-cycle เป็นแหล่งสร้างพลังงานหลัก
ปฏิกิริยานี้จะใช้ไฮโดรเจนในวัฏจักรของปฏิกิริยาที่มีคาร์บอน, ไนโตรเจน
และออกซิเจนมาเกี่ยวข้องเพื่อสร้างฮีเลียมขึ้นมา CNO cycle เป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลว่าเพราะเหตุใดธาตุทั้งสามเหล่านี้จึงพบได้มากที่สุดในเอกภพ(นอกเหนือจากไฮโดรเจนและฮีเลียม)
ในทศวรรษที่ผ่านมา
เครื่องตรวจจับนิวตริโนได้พัฒนามีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น เครื่องตรวจจับรุ่นใหม่ๆ
ยังสามารถตรวจจับไม่เพียงแต่พลังงานของนิวตริโน แต่ยังตรวจสอบเฟลเวอร์(flavor)
ของมันได้ด้วย
ขณะนี้เราทราบว่านิวตริโนจากดวงอาทิตย์ที่พบจากการทดลองก่อนหน้านี้ไม่ได้เป็นนิวตริโนจากโซ่โปรตอน-โปรตอน แต่จากปฏิกิริยาทุติยภูมิเช่น
การสลายตัวโบรอน(boron decay) ซึ่งสร้างนิวตริโนพลังงานสูงกว่า
ซึ่งตรวจสอบได้ง่ายกว่า จากนั้นในปี 2014 ทีมวิจัยทีมหนึ่งได้ตรวจพบนิวตริโนพลังงานต่ำที่สร้างจากโซ่โปรตอนได้โดยตรง
การสำรวจได้ยืนยันว่า 99% ของพลังงานจากดวงอาทิตย์ถูกสร้างโดยการหลอมโปรตอน-โปรตอน
ในขณะที่โซ่โปรตอน-โปรตอนเป็นการหลอมหลักของดวงอาทิตย์
ดาวฤกษ์ของเราก็มีขนาดใหญ่มากพอที่วัฏจักร CNO จะเกิดได้ในอัตราที่ต่ำ มันควรจะเกิดในสัดส่วนราว
1% ของพลังงานที่ดวงอาทิตย์สร้างขึ้น
แต่เนื่องจากนิวตริโนของ CNO นั้นพบได้ยาก
จึงยากที่จะตรวจจับด้วย แต่ล่าสุด ทีมวิจัยทีมหนึ่งก็ประสบความสำเร็จในการตรวจจับ
หนึ่งในความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดกับการตรวจจับนิวตริโน
CNO ก็คือสัญญาณของพวกมันมักจะฝังตัวอยู่ในสัญญาณกวนของนิวตริโนบนโลก
การหลอมนิวเคลียสไม่ได้เกิดขึ้นในธรรมชาติบนโลก
แต่ก็มีการสลายตัวกัมมันตรังสีระดับต่ำจากหินบนโลกที่สามารถรบกวนเครื่องตรวจจับนิวตริโนที่ดูคล้ายกับการตรวจจับนิวตริโนจาก
CNO ได้ ดังนั้น
ทีมจึงสร้างกระบวนการวิเคราะห์ที่ละเอียดอ่อนเพื่อกรองสัญญาณนิวตริโนลวงออกไป
การศึกษาได้ยืนยันว่า CNO เกิดขึ้นภายในดวงอาทิตย์ตามระดับที่ทำนายไว้จริง
นอกเหนือจากนี้ นิวตริโนจาก CNO ยังช่วยตอบคำถามสำคัญอีกข้อนั้นก็คือ
ในใจกลางดวงอาทิตย์มีระดับความเป็นโลหะมากแค่ไหน
ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากอัตรานิวตริโน CNO เท่านั้นซึ่งมีความสัมพันธ์กับความเป็นโลหะในที่อื่นๆ
ทั่วดาว แบบจำลองทั่วไปต้องพบกับความยุ่งยาก
เมื่อความเป็นโลหะที่พื้นผิวที่ตรวจสอบได้โดยการตรวจสอบสเปคตรัม
ไม่สอดคล้องกับการตรวจสอบความเป็นโลหะใต้พื้นผิวลงไป
ซึ่งบอกได้จากวิธีการที่แตกต่างออกไปคือ การสำรวจคลื่นไหวสะเทือนดวงอาทิตย์(helioseismology)
วัฏจักร CNO มีบทบาทย่อยในดวงอาทิตย์
แต่ก็มีความสำคัญมากขึ้นกับชีวิตและวิวัฒนาการของดาวฤกษ์มวลสูงกว่า
งานวิจัยนี้น่าจะช่วยเราให้เข้าใจวัฏจักรของดาวขนาดใหญ่ และอาจจะช่วยเราให้เข้าใจกำเนิดของธาตุหนักที่เป็นองค์ประกอบของชีวิตได้ดีขึ้น
ทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติประมาณร้อยคนที่กลุ่มความร่วมมือโบเรกซิโน(Borexino
Collaboration) ใช้เครื่องตรวจจับที่อยู่ลึกภายใต้ภูเขาแอปเพนไนน์
ในอิตาลีตอนกลาง เพื่อตรวจจับนิวตริโนเป็นแสงวาบซึ่งเกิดขึ้นเมื่อนิวตริโนชนกับอิเลคตรอนในแทงค์ของเหลวบริสุทธิ์มากซึ่งมีขนาด
300 ตัน ความลึก,
ขนาดและความบริสุทธิ์ทำให้โบเรกซิโนเป็นเครื่องตรวจจับที่เป็นอัตลักษณ์ในบรรดาเครื่องตรวจจับนิวตริโน
โดยที่มีการแผ่รังสีพื้นหลังที่ต่ำ โครงการนี้เริ่มต้นในช่วงต้นทศวรรษ 1990
โดยทีมนักฟิสิกส์ที่นำโดย Gianpaolo
Bellini จากมหาวิทยาลัยมิลาน,
Frank Calaprice จากมหาวิทยาลัยพรินซตัน
และ Raju Raghavan จากเบลล์แล็ป
ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว
แหล่งข่าว sciencealert.com : neutrino prove our Sun is undergoing a
second type of fusion in its core
sciencedaily.com :
neutrinos yield first experimental evidence of catalyzed fusion dominant in
many stars
No comments:
Post a Comment