ดูเหมือนดวงตาทุกคู่จะจับจ้องไปที่ดาวศุกร์แล้วในตอนนี้
การค้นพบฟอสฟีน-สิ่งที่อาจเป็นตัวระบุทางชีวภาพในชั้นบรรยากาศส่วนบนของดาวเคราะห์เมื่อเดือนกันยายน
ได้ดึงดูดความสนใจมากมายอย่างที่มันควรจะเป็น
แต่ก็ยังคงมีความคลาดเคลื่อนบางส่วนว่าการค้นพบฟอสฟีนนี่หมายความว่าอย่างไรกันแน่
ขณะนี้
ทีมนักวิจัยอ้างว่าพวกเขาได้ค้นพบกรดอะมิโนไกลซีน(glycine) ในชั้นบรรยากาศดาวศุกร์
รายงานที่ประกาศการค้นพบนี้มีหัวข้อว่า Detection of simplest amino acids
glycine in the atmosphere of the Venus ผู้เขียนนำได้แก่
Arijit Manna นักวิจัยปริญญาเอกที่แผนกฟิสิกส์ที่
มิดนาโปร์ ในเวสต์เบงกอล อินเดีย รายงานยังอยู่ในเวบก่อนตีพิมพ์ arXiv.org ซึ่งหมายความว่ามันยังไม่ได้ถูกทบทวนโดยผู้รู้เสมอกัน(peer-reviewed
หรือพิชญพิจารณ์) และยังไม่ได้ตีพิมพ์ในวารสารใดๆ
เท่าที่ทราบมีกรดอะมิโนประมาณ 500 ชนิดที่พบกัน แต่มีเพียง 20 ชนิดที่เกี่ยวข้องกับรหัสพันธุกรรม ไกลซีนเป็นกรดอะมิโนรูปแบบที่ง่ายที่สุด
แม้ว่าไกลซีนและกรดอะมิโนอื่นๆ จะไม่ได้เป็นสัญญาณทางชีวภาพ
แต่พวกมันเป็นวัตถุดิบบางส่วนของชีวิต ในความเป็นจริง
พวกมันเป็นวัตถุดิบในการสร้างโปรตีน พวกมันยังเป็นโมเลกุลอินทรีย์แรกๆ
ที่ปรากฏบนโลกด้วย ไกลซีนมีความสำคัญในการพัฒนาของโปรตีน
และสารประกอบทางชีววิทยาอื่นๆ
นักวิจัยใช้ ALMA(Atacama Large
Millimeter/submillimeter Array) เพื่อตรวจจับไกลซีนในชั้นบรรยากาศดาวศุกร์ด้วยการวิเคราะห์สเปคตรัม
พวกเขาพบมันในละติจูดกลางๆ ใกล้กับศูนย์สูตร ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีสัญญาณแรงที่สุด
โดยไม่พบสัญญาณที่ขั้วทั้งสองเลย
ในรายงาน ผู้เขียนเขียนไว้ว่า
การตรวจจับมัน(ไกลซีน)
ในชั้บรรยากาศของดาวศุกร์อาจจะเป็นหนึ่งในกุญแจสู่ความเข้าใจกลไกการก่อตัวของโมเลกุลตั้งต้นทางชีวภาพ(prebiotic
molecules) ในชั้นบรรยากาศดาวศุกร์
ชั้นบรรยากาศส่วนบนของดาวศุกร์อาจจะกำลังมีหนทางทางชีววิทยาคล้ายๆ
กับที่โลกเคยเป็นเมื่อหลายพันล้านปีก่อน บรรทัดทั้งสองข้างต้นนี้ทำให้เราตาสว่าง
หรือจะมีกระบวนการทางชีววิทยาบางอย่างกำลังเกิดขึ้นในก้อนเมฆของดาวศุกร์
มันอาจจะเป็นกุญแจดอกหนึ่ง และมันก็อาจจะกำลังก้าวผ่านสิ่งเดียวกับที่โลกเคยเป็น นี่หมายความว่าอย่างไร
เริ่มจากฟอสฟีน มาไกลซีน
ในช่วงกลางเดือนกันยายน ทีมนักวิจัยได้รายงานการค้นพบฟอสฟีน(phosphine) ในชั้นบรรยากาศส่วนบนของดาวศุกร์(Greaves
et al., 2020) เช่นเดียวกับไกลซีน
มันก็ถูกพบสัญญาณที่รุนแรงกว่าในช่วงละติจูดกลาง ฟอสฟีนอาจเป็นสัญญาณทางชีวภาพที่นั้น
และเป็นบนโลก และมันยังสามารถถูกสร้างได้โดยปฏิกิริยาเคมี
แม้ว่าจะต้องพลังงานจำนวนมาก ฟอสฟีนเคยถูกพบที่ดาวพฤหัสฯ และดาวเสาร์
ซึ่งมีพลังงานเหลือเฟือในการสร้างสารประกอบนี้
แต่ดาวศุกร์ไม่ได้มีแหล่งพลังงานที่จะใช้เพื่อสร้างมันได้
ทีมนักวิจัยที่ค้นพบฟอสฟีนเองก็ยังสงสัยว่าการค้นพบฟอสฟีน
ในรายงาน พวกเขาจะยินดีถ้ามีนักวิจัยคนอื่นๆ
บอกว่าการมีอยู่ของฟอสฟีนนั้นไม่เกี่ยวข้องกับชีวิต
ขณะนี้นักดาราศาสตร์จะคิดในทุกทิศทางเพื่อสร้างฟอสฟีนโดยไม่ต้องใช้ชีวิต
และผมก็ยินดีเลย ช่วยทำด้วย เพราะเราอยู่ในปลายสุดของความเป็นไปได้ใดๆ
ที่จะแสดงว่ากระบวนการทางอชีววิทยาสามารถสร้างฟอสฟีนขึ้นมา
ตามคำเรียกร้อง จากนั้นเพียงไม่กี่สัปดาห์
นักวิจัยอีกทีมหนึ่งก็หาทาง ในรายงานที่เรียกว่า มุมมองสมมุติฐาน(hypothesis
perspective) พวกเขาบอกว่าภูเขาไฟอาจจะเป็นตัวสร้างฟอสฟีนขึ้นมา
เราตั้งสมมุติฐานว่าฟอสไฟด์จำนวนน้อยนิดได้ก่อตัวขึ้นในชั้นหินหลอมเหลว(mantle)
น่าจะถูกนำขึ้นสู่พื้นผิวโดยการระเบิดภูเขาไฟ
และจากนั้นต่อมาก็ถูกผลักขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ที่ซึ่งพวกมันจะทำปฏิกิริยากับน้ำ
หรือกรดกำมะถัน เพื่อสร้างฟอสฟีนขึ้นมา
การตรวจพบฟอสฟีนก่อตัวขึ้นจากพื้นหลังจากการค้นพบล่าสุดนี้
การค้นพบทั้งสองก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของคำถามยิ่งใหญ่กว่ากับดาวศุกร์ก็คือ มีชีวิตหรือศักยภาพสำหรับชีวิตบนดาวศุกร์หรือไม่
หรือสารเคมีเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับชีวิตเลย
นักวิจัยได้จำแนกพื้นที่ในชั้นบรรยากาศดาวศุกร์ที่อาจจะเอื้อต่อชีวิต
มันน่าจะเป็นการเรียงตัวที่แปลกประหลาดและไม่ปกติจากมุมมองของเรา
ดาวศุกร์นั้นไม่น่าอยู่อาศัยอย่างสุดขั้วในเกือบทุกส่วน ชั้นบรรยากาศก็เป็นกรด
อุณหภูมิก็ร้อนพอที่จะหลอมยานอวกาศได้ และความดันชั้นบรรยากาศก็กดทับเหลือเกิน
แต่สูงขึ้นไปในเมฆ ระหว่างประมาณ 48 ถึง 60
กิโลเมตรเหนือพื้นผิว
อุณหภูมิไม่ได้ถึงตายขนาดนั้น ที่ระดับความสูงดังกล่าว อุณหภูมิอยู่ในช่วงตั้งแต่ -1
จนถึง 93 องศาเซลเซียส ซึ่งดูย้อนแย้ง
แต่นักวิทยาศษสตร์บางคนคิดว่าน่าจะมีชีวิตรูปแบบง่ายๆ อาศัยอยู่ได้
มีการขยายเผ่าพันธุ์โดยไม่ต้องสัมผัสกับพื้นผิวดาวเคราะห์ ฟอสฟีนก็ถูกทำลายได้ง่าย
ดังนั้นมันจะต้องมีการสร้างฟอสฟีนขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ตรวจจับได้
ชีวิตบนระดับความสูงเช่นนนั้นอาจจะเป็ฯแหล่งของฟอสฟีน
การค้นพบไกลซีนครั้งใหม่ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มปริศนาและความไม่แน่นอน ในรายงานนี้
นักวิจัยเสนอว่าแฮดลีย์เซลส์
(Hadley cells; การไหลเวียนชั้นบรรยากาศซึ่งอากาศลอยขึ้นใกล้กับศูนย์สูตร
ไหลไปสู่พื้นที่ขั้วดาวเคราะห์) น่าจะถูกใช้เป็นที่อยู่ของชีวิต
การไหลเวียนแฮดลีย์ในช่วงละติจูดกลางอาจจะช่วยให้มีสภาวะที่ค้ำจุนชีวิตได้เสถียรที่สุด
โดยมีเวลาการไหลเวียน 70 ถึง 90
วันก็เพียงพอสำหรับจุลชีพ(ที่คล้ายกับที่พบบนโลก)
จะเกิดการขยายพันธุ์ได้
นอกจากนี้ การตรวจจับไกลซีนก็ยังสอดคล้องกับการตรวจจับฟอสฟีนด้วย
การกระจายของไกลซีนที่ขึ้นอยู่กับละติจูด ค่อนข้างสอดคล้องกับขีดจำกัดการตรวจจับฟอสฟีนทีเพิ่งตรวจพบ
และกับรอยต่อแฮดลีย์(Hadley-cell boundary) ส่วนบนที่เพิ่งเสนอขึ้นมา
ซึ่งมีการไหลเวียนจากก๊าซระหว่างระดับความสูงที่ต่ำกว่าและที่สูงขึ้นไปอีก
แต่ไกลซีนพบในระดับความสูงที่มากกว่าฟอสฟีน
ในขณะที่เป็นการค้นพบที่น่าสนใจและควรค่าที่จะศึกษาเพิ่มขึ้น
การมีอยู่ของไกลซีนก็ไม่ได้ใกล้เคียงกับหมัดน๊อคเอาท์ในภารกิจค้นหาชีวิตในแห่งหนอื่น
ผู้เขียนทราบสิ่งนี้ดีและระมัดระวังที่จะบอกไปถึงกรณีนี้
น่าจะต้องคำนึงว่าการตรวจพบไกลซีนในชั้นบรรยากาศดาวศุกร์เป็นร่องรอยของการมีอยู่ของชีวิต
แต่ก็ยังไม่ใช่หลักฐานที่สุด มันเป็นแค่องค์ประกอบที่ชีวิตต้องใช้
แต่ไม่ใช่ตัวบ่งชี้ถึงชีวิต
รายงานเหล่านี้ยังชี้ไปถึงการทดลองในอดีตบางงานที่ออกแบบมาให้ทดสอบกำเนิดทางเคมีของชีวิตบนโลก
ในปี 1953 การทดลองของมิลเลอร์-อูเรย์(Miller-Urey experiment) ที่โด่งดัง ได้สร้างสภาวะของโลกยุคต้นขึ้นมา
นักวิจัยได้ทำของผสมทางเคมีระหว่างน้ำ, มีเธน, อัมโมเนีย และไฮโดรเจน
และจากนั้นก็ใส่พลังงานเข้าไปเพื่อเลียนแบบฟ้าผ่า
ผลที่ได้ก็คือซุปของสารประกอบอินทรีย์ที่ซับซ้อนมากขึ้น
การทดลองนี้สร้างกรดไกลโคลิค(glycolic acid) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของไกลซีนขึ้นมา
และผลสรุปก็สนับสนุนทฤษฎีกำเนิดแบบไร้ชีวิต(abiogenesis) ไกลซีนที่พบในชั้นบรรยากาศดาวศุกร์ก็อาจจะถูกสร้างขึ้นผ่านเส้นทางเดียวกับในการทดลองมิลเลอร์-อูเรย์ และยังมีเส้นทางทางเคมีอื่นๆ
สู่ไกลซีนเป็นไปได้ในชั้นบรรยากาศดาวศุกร์ด้วย
ในทางดาราศาสตร์ฟิสิกส์, เคมีฟิสิกส์
และชีวฟิสิกส์ เส้นทางปฏิกิริยาการสังเคราะห์กรดอะมิโนที่พื้นฐานที่สุดอย่างไกลซีน
ตั้งแต่จากโมเลกุลพื้นๆ
มีความสำคัญอย่างยิ่งใหญ่ต่อวิวัฒนาการทางเคมีและกำเนิดของชีวิต ผู้เขียนเขียนไว้
การตรวจพบไกลซีนในชั้นบรรยากาศดาวศุกร์อาจจะบ่งชี้ถึงการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตรูปแบบต้นๆ
ในชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ เนื่องจากกรดอะมิโนเป็นวัตถุดิบของโปรตีน
ดาวศุกร์อาจจะกำลังผ่านวิวัฒนาการทางเคมีในขั้นตอนปฐมภูมิ
หรืออาจจะไม่เป็นอย่างนั้น แม้บนโลกเอง
ไกลซีนจะถูกสร้างโดยกระบวนการทางชีววิทยา
แต่ก็เป็นไปได้ที่ไกลซีนของดาวศุกร์จะถูกสร้างโดยกระบวนการสังเคราะห์สารเคมีด้วยแสง(photochemical)
หรือธรณีเคมี ซึ่งไม่พบบนโลก
ดาวศุกร์นั้นแตกต่างอย่างมากกับโลก และก็มีกระบวนการที่เกิดขึ้นที่นั้นซึ่งไม่ปรากฏบนโลก
นั้นจึงเป็นที่มาของคำเตือน
รายงานฉบับนี้ก็ยังมีข้อด้อยในผลสรุป ยกตัวอย่างเช่น สัญญาณสเปคตรัมของไกลซีนนั้นใกล้เคียงกับซัลเฟอร์ออกไซด์ ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่เกิดข้อผิดพลาดกับการตรวจพบไกลซีน และก็เป็นการตรวจจับเดี่ยวๆ ซึ่งไม่ได้ทดสอบซ้ำหรือตรวจทาน นอกจากนี้ ไกลซีนยังเป็นกรดอะมิโนรูปแบบที่พื้นๆ ที่สุดและพบได้ทุกแห่งหน แม้กระทั่งในดาวหางและอุกกาบาต ซึ่งจริงๆ แล้วไม่มีโอกาสสำหรับชีวิตบนวัตถุเหล่านั้นเลย
นอกจากนี้ หลังจากการตรวจพบฟอสฟีนในชั้นบรรยากาศดาวศุกร์เมื่อเดือนกันยายนแล้ว
ก็มีรายงานหลายฉบับที่ตั้งคำถามถึงวิธีการสำรวจและข้อสรุป
โดยทีมหนึ่งไปไกลถึงขนาดสรุปว่า “ไม่มีฟอสฟีน” ในชั้นบรรยากาศดาวศุกร์อยู่เลย
ในการศึกษาซึ่งนำโดยนักวิจัยจากกอดดาร์ดและเผยแพร่ใน Nature
Astronomy วันที่ 26
ตุลาคม ได้วิเคราะห์ชุดข้อมูลจาก ALMA
และกล้องเจมส์เคิร์กแมกซ์เวลส์ใหม่
ทีมได้บอกว่าข้อมูลสเปคตรัมที่แปลผลว่าเป็นฟอสฟีนนั้น
แท้จริงแล้วใกล้เคียงอย่างมากกับกำมะถันไดออกไซด์(SO2) ซึ่งพบได้ทั่วไปในชั้นบรรยากาศดาวศุกร์
ในขณะที่การศึกษาอีกงานซึ่งนำโดยมหาวิทยาลัยไลเดน ข้อมูลสเปคตรัมที่ได้จาก ALMA
ก็น่าจะอธิบายได้ด้วยการมีอยู่ของสารประกอบอื่นที่ไม่ใช่ฟอสฟีน
จากจุดนี้ พวกเขาสรุปว่า
ไม่พบการตรวจจับฟอสฟีนอย่างสำคัญในเชิงสถิติในชั้นบรรยากาศดาวศุกร์
และผลสรุปก่อนหน้านี้ก็ไม่เป็นจริง
เป็นที่น่ายินดีว่า หลังจากทำการวิเคราะห์ข้อมูล ALMA
ซ้ำอีกรอบ
ทีมที่ทำการค้นพบเริ่มต้นก็สรุปได้ว่า มีฟอสฟีนอยู่จริงๆ ในชั้นเมฆของดาวศุกร์
แต่แค่ไม่มากอย่างที่พวกเขาเคยคิดไว้ ทีมเดิมที่ค้นพบฟอสฟีน
ได้กลับไปวิเคราะห์การค้นพบเดิม โดยทีมสรุปว่า ข้อมูล ALMA ได้แสดงสัญญาณสเปคตรัมที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยสิ่งใดๆ
นอกเหนือจากสารประกอบฟอสฟีน
ซึ่งสเปคตรัมจากเจมส์เคิร์กก็บ่งชี้ถึงร่องรอยของฟอสฟีน จากข้อมูล ALMA ใหม่
ทีมประเมินว่าระดับฟอสฟีนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1 ppb หรือประมาณหนึ่งในเจ็ดของการประเมินก่อนหน้านี้
ด้วยระดับนี้
พวกเขาบอกว่าน่าจะมีระดับสูงสุดที่ 5 ppb และมีการเปลี่ยนแปลงตามเวลาขึ้นอยู่กับตำแหน่ง
ถ้าเป็นจริง สถานการณ์นี้ก็คล้ายกับสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์สำรวจพบบนดาวอังคาร
ซึ่งระดับมีเธนขึ้นและลงตลอดช่วงปีดาวอังคาร และแปรผันในแต่ละพื้นที่
และจากความเป็นไปได้นี้ นักชีวเคมี Rakesh
Mogul จากมหาวิทยาลัยโพลิเทคนิคคาลิฟอร์เนียสเตท
ในโพโมนา และเพื่อนร่วมงานได้กลับไปตรวจสอบข้อมูลจากปฏิบัติการไพโอเนียร์(Pioneer)
ของนาซาซ้ำอีก ในปี 1978 ปฏิบัติการนี้ศึกษาชั้นเมฆของดาวศุกร์โดยหย่อนยานผ่านชั้นบรรยากาศ
จากการวิเคราะห์ข้อมูลใหม่ Mogul และทีมได้พบหลักฐานของฟอสฟอรัส
ซึ่งก็อาจเป็นหลักฐานของฟอสฟีนหรือสารประกอบฟอสฟอรัสอื่นๆ แม้ว่าทีม Mogul บอกว่าฟอสฟีนน่าจะเป็นตัวเลือกที่เป็นไปได้มากที่สุด
เพื่อที่จะหาคำตอบ
เราต้องการยานอวกาศไปเยี่ยมเยือนดาวศุกร์ ปฏิบัติการดาวศุกร์ที่มีการเก็บตัวอย่างจากพื้นผิวและเมฆของดาวศุกร์โดยตรง
อาจจะช่วยยืนยันแหล่งของไกลซีนและฟอสฟีนบนดาวเคราะห์ได้
การตรวจจับไกลซีนหรือฟอสฟีน ถ้ายืนยัน
ก็จะเป็นการพัฒนาที่น่าตื้นตันอีกก้าวในความพยายามเพื่อเข้าใจการอุบัติของชีวิต
หรือมันอาจจะกำลังแสดงให้เห็นว่าเคมีที่ดูเหมือนจะเป็นสารตั้งต้นชีวิต
ก็เป็นเพียงสารตั้งต้นในกรณีที่พบได้ยากเท่านั้น
และส่วนที่เหลือก็หมายถึงไม่มีอะไรเพิ่มเติมอีก
ยังมีเรื่องราวอีกมากที่เรายังไม่รู้
และปฏิบัติการสู่ดาวศุกร์ก็เป็นหนทางเดียวที่จะค้นหาและตอบคำถามของเราได้
แต่สำหรับตอนนี้ เราสามารถวางใจได้ว่ายังไม่มีการพบสิ่งมีชิวิตบนดาวศุกร์
แต่เราอาจจะแค่ได้พบชิ้นส่วนปริศนาอีกชิ้นว่าชั้นบรรยากาศของดาวศุกร์นั้นมีความซับซ้อน
แหล่งข่าว sciencealert.com
: astronomers report that Venus’ atmosphere contains an amino acid found in DNA
iflscience.com : amino
acid detected in the atmosphere of Venus, new report suggests
sciencealert.com : scientists have
re-analyzed their data and still see a signal of phosphine at Venus- just less
of it
astronomy.com : prospects
for life on Venus dim in reanalysis of phosphine data
No comments:
Post a Comment