นักดาราศาสตร์วิเคราะห์ข้อมูลจาก VLASS(VLA
Sky Survey) ได้พบหนึ่งในดาวนิวตรอนที่มีอายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยพบมา
ดาวนิวตรอนเป็นซากที่มีความหนาแน่นสูงมาก
เกิดจากดาวมวลสูงดวงหนึ่งระเบิดกลายเป็นซุปเปอร์โนวา ภาพจาก VLA(Very Large
Array) ได้บ่งชี้ว่า
การเปล่งคลื่นวิทยุที่สว่างซึ่งได้รับพลังจากสนามแม่เหล็กของดาวนิวตรอนที่หมุนรอบตัวเร็วมาก(หรือพัลซาร์)
นี้เพิ่งโผล่ขึ้นมาจากเปลือกเศษซากก๊าซจากการระเบิดซุปเปอร์โนวา เมื่อเร็วๆ นี้
วัตถุซึ่งเรียกว่า VT 1137-0337 อยู่ในกาแลคซีแคระแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างออกไป 395
ล้านปีแสง
มันปรากฏให้เห็นเป็นครั้งแรกในภาพของ VLASS ภาพหนึ่งซึ่งถ่ายเมื่อเดือนมกราคม 2018 แต่ไม่พบในภาพพื้นที่เดียวกันที่ทำโดยการสำรวจ FIRST
ของ VLA ในปี 1998 และมันยังคงปรากฏให้เห็นในการสำรวจ VLASS ในปี 2018, 2019, 2020 และ 2022
Dillon Dong นักศึกษาปริญญาเอกที่คาลเทค
ซึ่งจะเป็นนักวิจัยหลังปริญญาเอกที่หอสังเกตการณ์ดาราศาสตร์วิทยุแห่งชาติ(NRAO)
ต่อไปในปีนี้ กล่าวว่า
เป็นไปได้มากที่สุดว่าเรากำลังได้เห็นเนบิวลาลมพัลซาร์(pulsar wind nebula)
ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อสนามแม่เหล็กที่ทรงพลังของดาวนิวตรอนที่หมุนรอบตัวเร็วมากดวงหนึ่ง
ได้เร่งความเร็วอนุภาคมีประจุที่อยู่รอบๆ จนมีความเร็วเกือบเท่าแสง
จากคุณลักษณะของมัน
นี่เป็นพัลซาร์ที่มีอายุน้อยมากๆ บางทีอาจจะมีอายุเพียง 14 ปีเท่านั้น แต่ไม่มากไปกว่า 60 ถึง 80 ปี Gregg Hallinan อาจารย์ที่ปรึกษาปริญญาเอกของ Done ที่คาลเทค กล่าว
นักวิทยาศาสตร์รายงานการค้นพบนี้ในการประชุมสมาคมดาราศาสตร์อเมริกันในพาซาดีนา
คาลิฟอร์เนีย
Dong และ Hallinan ได้พบวัตถุนี้ในข้อมูลจาก VLASS ซึ่งเป็นโครงการที่เริ่มต้นในปี 2017 เพื่อสำรวจทั้งท้องฟ้าที่ VLA มองเห็นได้(ราว 80% ของท้องฟ้า) ตลอดช่วงเวลา 7 ปี VLASS ได้ทำการสแกนท้องฟ้าเสร็จสิ้นแล้ว
3 รอบ
โดยวัตถุประสงค์จุดหนึ่งก็คือเพื่อค้นหาวัตถุที่ปรากฏชั่วคราว(transient
objects) นักดาราศาสตร์ได้พบ
VT 1137-0337 ในการสำรวจของ VLASS
ครั้งแรกในปี 2018
เมื่อเปรียบเทียบการสแกนของ VLASS กับข้อมูลจากการสำรวจท้องฟ้าของ VLA ก่อนหน้านั้นซึ่งมีชื่อว่า FIRST ได้เผยให้เห็นวัตถุที่ปรากฏชั่วคราวสว่างมากเป็นพิเศษ
20 แห่ง
ซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับกาแลคซีที่รู้จักได้
มีวัตถุหนึ่งซึ่งโดดเด่นเนื่องจากกาแลคซีของมันกำลังมีการก่อตัวดาวอย่างคึกคัก
และยังเพราะคุณลักษณะการเปล่งคลื่นวิทยุของมัน Dong กล่าว กาแลคซีซึ่งมีชื่อว่า J113706.18-033737.1
เป็นกาแลคซีแคระที่มีมวลประมาณ 1
ร้อยล้านเท่ามวลดวงอาทิตย์
ในการศึกษาคุณลักษณะของ VT 1137-0337
นักดาราศาสตร์ได้หาคำอธิบายที่เป็นไปได้หลายอย่าง
ซึ่งรวมถึงซุปเปอร์โนวา, การปะทุรังสีแกมมา หรือเหตุการณ์การรบกวนโดยแรงโน้มถ่วง(tidal
disruption event) เมื่อดาวฤกษ์ดวงหนึ่งถูกหลุมดำมวลมหาศาลฉีกออกเป็นชิ้นๆ
พวกเขาสรุปว่าคำอธิบายที่ดีที่สุดก็คือ เนบิวลาลมพัลซาร์
ซ้ายบน: ดาวยักษ์สีฟ้าดวงหนึ่งได้เผาไหม้เชื้อเพลิงนิวเคลียร์ในแกนกลางจากไฮโดรเจน, ฮีเลียมและธาตุหนักอื่นๆ จนกระทั่งได้เหล็ก ขณะนี้มันมีแกนเหล็กขนาดเล้ก(จุดสีแดง) ในใจกลาง การหลอมธาตุซึ่งจะต้านทานแรงโน้มถ่วงในตัวดาวก็หายป ดาวจึงยุบตัวลงอย่างรวดเร็วทำให้เกิดการระเบิดซุปเปอร์โนวา ขวาบน: การยุบตัวเริ่มต้นขึ้นสร้างเป็นดาวนิวตรอนที่หนาแน่นสูงมาก โดยมีสนามแม่เหล็กรุนแรงในใจกลาง(ภาพเล็ก) ดาวนิวตรอนแม้จะมีมวลราว 1.5 เท่ามวลดวงอาทิตย์ แต่ก็มีขนาดกว้างเพียงสิบกว่ากิโลเมตรเท่านั้น
ล่างซ้าย: ซุปเปอร์โนวาได้ผลักเปลือกเศษซากก๊าซเคลื่อนที่เร็วออกสู่อวกาศ ในเวลานี้ เปลือกก๊าซยังมีความหนาทึบสูงพอที่จะปิดบังคลื่นวิทยุใดๆ ที่มาจากพื้นที่ของดาวนิวตรอน ล่างขวา: เมื่อเปลือกเศษซากขยายตัวออกตลอดสิบกว่าปีนี้ มันก็จะหนาแน่นน้อยลงและสุดท้ายก็บางพอที่คลื่นวิทยุจากภายในจะทะลุผ่านได้ ทำให้การสำรวจ VLASS ได้ตรวจจับการเปล่งคลื่นวิทยุสว่างเมื่อสนามแม่เหล็กทรงพลังของดาวนิวตรอนที่หมุนรอบตัวเร็วมากนี้ กวาดผ่านห้วงอวกาศรอบข้าง ทำให้อนุภาคมีประจุมีความเร็วสูงขึ้น
ในลำดับเหตุการณ์นี้
ดาวที่มีมวลสูงกว่าดวงอาทิตย์ได้ระเบิดกลายเป็นซุปเปอร์โนวา
เหลือดาวนิวตรอนทิ้งไว้ มวลเกือบทั้งหมดของดาวต้นกำเนิดถูกเป่าออกมาเป็นเปลือกเศษซากก๊าซ
ดาวนิวตรอนซึ่งหมุนรอบตัวเร็วมาก
และเมื่อสนามแม่เหล็กทรงพลังของมันได้กวาดผ่านห้วงอวกาศรอบข้าง
มันจะเร่งความเร็วของอนุภาคมีประจุเป็นสาเหตุให้เกิดการเปล่งคลื่นวิทยุที่รุนแรง
ในตอนแรก
การเปล่งคลื่นวิทยุถูกกั้นไว้โดยเปลือกเศษซากก๊าซ แต่เมื่อเปลือกขยายตัวออก
มันก็จะหนาแน่นน้อยลงจนกระทั่งสุดท้าย คลื่นวิทยุจากเนบิวลาลมพัลซาร์
ก็สามารถผ่านทะลุออกมาได้ นี่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างการสำรวจ FIRST ในปี 1998 และการสำรวจ VLASS ในปี 2018 Hallinan กล่าว
ตัวอย่างเนบิวลาลมพัลซาร์ที่โดดเด่นที่สุด
ก็คือ เนบิวลาปู(Crab Nebula) ในกลุ่มดาววัว(Taurus)
ซึ่งเป็นผลจากซุปเปอร์โนวาที่ปรากฏสว่างในปี
1054 เนบิวลาปูนั้นก็ยังเห็นได้จนทุกวันนี้แม้ด้วยกล้องดูดาวขนาดเล็ก
ด้วยอายุไม่ถึง 1 พันปี
มันมีอายุน้อยมากๆ ตามมาตรฐานดาราศาสตร์แต่ก็เก่าแก่เมื่อเทียบกับ VT
1137-0337 วัตถุที่เราได้พบนั้นดูจะทรงพลังกว่า(เนบิวลา)
ปูราว 1 หมื่นเท่า
และมีสนามแม่เหล็กที่รุนแรงกว่า Dong กล่าว
มันน่าจะเหมือนซุปเปอร์ปูที่เพิ่งคลอดออกมา
ภาพรวมประกอบเนบิวลาปู(Crab Nebula) เป็นซากซุปเปอร์โนวา ที่ใจกลางมีพัลซาร์แห่งหนึ่ง
ในขณะที่ Dong และ Hallinan คิดว่า VT 1137-0337 น่าจะเป็นเนบิวลาลมพัลซาร์มากที่สุด แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ว่า
สนามแม่เหล็กของมันอาจจะรุนแรงมากพอที่จะจำแนกดาวนิวตรอนเป็นดาวแม่เหล็ก(magnetar)
ซึ่งเป็นวัตถุที่เป็นแม่เหล็กยิ่งยวดมาก
ในกรณีนี้ มันก็อาจจะเป็นมักนีตาร์ดวงแรกที่ถูกพบเมื่อกำลังปรากฎตัว
และนั่นก็น่าตื่นเต้นอย่างมากด้วยเช่นกัน Dong กล่าว
ดาวแม่เหล็กอาจจะเป็นแหล่งของการลุกจ้าในช่วงวิทยุที่เรียกว่า
การปะทุวิทยุเร็ว(fast radio bursts) ซึ่งนักวิจัยจะศึกษา
VT 1137-0337 ต่อไป
โดยจับตาดูมันผ่านการสำรวจ VLASS โครงการต่อไป
แหล่งข่าว phys.org
: astronomers find evidence for most powerful pulsar in distant galaxy
space.com : “emerging super Crab” might be the most powerful pulsar ever
discovered
No comments:
Post a Comment