ภาพจากศิลปินแสดงเมฆควันและฝุ่นที่ดาวยักษ์แดงอายุมากดวงหนึ่งสาดออกมา จะเห็นว่าด้านซ้ายของดาวยังคงสว่างแต่ถ้ามองจากทางด้านขวามันแทบจะมองไม่เห็น
มีการค้นพบดาวชนิดใหม่ ทั้ง ดาวสิงห์เฒ่าอมควัน
และดาวฤกษ์ทารกที่ปะทุได้ ในทางช้างเผือก งานวิจัยนี้ใช้กล้องโทรทรรศน์ชั้นสูง
ท้าทายทฤษฎีที่มีเกี่ยวกับวัฎจักรชีวิตของดาวและการกระจายธาตุในอวกาศ
การศึกษาดาวฤกษ์เกือบหนึ่งพันล้านดวงในช่วงอินฟราเรด
ได้เผยให้เห็นหลายดวงที่เรามองไม่เห็นในช่วงความยาวคลื่นอื่น
ซึ่งรวมถึงวัตถุที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วชนิดใหม่ หนึ่งในวัตถุเหล่านี้ เรียกว่า
สิงห์เฒ่าอมควัน(old smokers) ซึ่งเป็นดาวยักษ์แดงอายุมากที่อาจจะปล่อยกลุ่มเมฆวัสดุสารสีมืดออกมาอย่างฉับพลัน
ซึ่งปิดกั้นแสงไว้ได้
ในพื้นที่ใจกลางกาแลคซีของเรามีฝุ่นบดบังสายตาไว้
แต่จะรบกวนน้อยกว่าเมื่อสำรวจในช่วงอินฟราเรด อย่างไรก็ตาม
ชั้นบรรยากาศของโลกกลับส่งผลกระทบในการกันแสงอินฟราเรดไว้
จึงเป็นเหตุผลที่เราต้องพึ่งพากล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์เวบบ์ แต่กระนั้น
การสำรวจจาก VISTA(Visible and Infrared Survey Telescope) ในชิลีซึ่งตั้งอยู่สูงเหนือชั้นบรรยากาศที่ปั่นป่วน
ช่วยให้เราสามารถศึกษาแกนกลางกาแลคซีในช่วงอินฟราเรดใกล้ได้
ทีมนานาชาติทีมหนึ่งได้ขุดข้อมูล VVV(VISTA
Variables in the Via Lactea) เพื่อหาดาวที่มีการเปลี่ยนแปลงความสว่างอย่างสุดโต่ง
โดยเลือกกลุ่มที่เปลี่ยนแปลงรุนแรงที่สุด 222 ดวง
ซึ่งรวมถึงบางส่วนที่เกิดจากเหตุการณ์เลนส์ความโน้มถ่วงแบบจุลภาค(microlensing)
ซึ่งขยายแสงอย่างฉับพลัน Philip
Lucas ศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยเฮิร์ตฟอร์ดเชียร์
เขียนในแถลงการณ์ว่า
มีดาวราวสองในสามที่จำแนกเป็นชนิดที่รู้จักกันดีได้อย่างง่ายดาย
ส่วนที่เหลือก็ยากขึ้น จนเราต้องใช้กล้องโทรทรรศน์ใหญ่มาก(VLT) เพื่อเก็บสเปคตรัมของดาวในกลุ่มที่เหลือนี้ทีละดวง
ทีมกำลังเสาะหาดาวฤกษ์ทารก(protostars)
ในกระบวนการที่กำลังจะเริ่มหลอมนิวเคลียส(nuclear
fusion) ซึ่งทราบกันดีว่า
จะมีการปะทุที่รุนแรงนานหลายเดือนจนถึงหลายสิบปี Zhen Guo ซึ่งเคยอยู่ที่มหาวิทยาลัยเฮิร์ตฟอร์ดเชียร์ และปัจจุบันอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่ง
วัลปาไรโซ ในชิลี ผู้นำการศึกษาสเปคตรัม กล่าวว่า
การปะทุเหล่านี้เกิดขึ้นในดิสก์วัสดุสารที่หมุนอย่างช้าๆ ซึ่งกำลังก่อตัวระบบสุริยะแห่งใหม่
ซึ่งจะช่วยให้ดาวฤกษ์ที่เพิ่งก่อตัวขึ้นใหม่ที่ใจกลางระบบ เร่งการเจริญเติบโต
แต่ก็ทำให้ดาวเคราะห์ก่อตัวได้ยากขึ้นด้วยเช่นกัน เรายังไม่เข้าใจเพราะเหตุใดดิสก์จึงไร้เสถียรภาพได้ขนาดนี้
งานวิจัยก็ให้ผลเก็บเกี่ยวออกมา
โดยพบดาวฤกษ์ทารกที่เกิดการปะทุ(erupting protostars) 32 ดวงที่มีความสว่างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ถึง 40 เท่าหรือมากกว่านั้นในช่วงเก้าปีครึ่งที่ทำการสำรวจ
บางส่วนก็สว่างขึ้นถึง 300 เท่า
โดยการประมวลข้อมูลอย่างรวดเร็ว
ทีมจึงให้ความสนใจเพิ่มเติมไปสู่ดาวที่ปะทุในจุดที่พีคสุดและที่ความสว่างกำลังลดลง
โดยเฉลี่ย ความสว่างจะเพิ่มขึ้นใช้เวลาราว 2 ปี
นานกว่าตัวอย่างสองสามดวงที่เคยพบก่อนหน้าการศึกษานี้
ในขณะเดียวกัน
การสำรวจก็ให้ผลที่ไม่คาดฝันแต่ก็มีความสำคัญ โดยพบดาวยักษ์แดง 21 ดวงที่มีการเปลี่ยนแปลงความสว่างในแบบที่น่าพิศวงในช่วงสิบปีของการสำรวจ
เมื่อสำรวจเจ็ดดวงในกลุ่มนี้ในรายละเอียด
ทีมก็พบว่าพวกมันเป็นยักษ์แดงอายุมากในกลุ่มที่ไม่เคยพบมาก่อน
Dante Minniti จากมหาวิทยาลัยอันเดรส เบลโล ผู้ก่อตั้งการสำรวจ VVV
กล่าวว่า ดาวอายุมากเหล่านี้อยู่อย่างสงบมาหลายปีหรือหลายสิบปี
และจากนั้นพวกมันก็ผลักกลุ่มควันออกมาในแบบที่คาดไม่ถึง แล้วพวกมันจะดูมืดมากๆ
และมีสีแดงไปหลายปี จนถึงจุดที่บางครั้งเราก็มองไม่เห็นพวกมันเลย
สิงห์เฒ่าอมควันเหล่านี้กระจุกอยู่ในส่วนในสุดของทางช้างเผอกที่เรียกว่า
ดิสก์ในนิวเคลียส(Nuclear disc)
ซึ่งอธิบายได้ว่าเพราะเหตุใด เราจึงไม่เคยพบพวกมันมาก่อน
ยิ่งพวกมันอยู่ใกล้ใจกลางกาแลคซีมากขึ้น
ก็จะมีโลหะ(metal; ธาตุที่หนักกว่าฮีเลียม)
สูงขึ้นด้วย
จึงดูว่าพฤติกรรมสิงห์อมควันเหล่านี้เกิดขึ้นเฉพาะกับดาวที่มีโลหะสูงกว่า
พวกที่เราสำรวจมา
โลหะในสัดส่วนที่สูงทำให้อนุภาคฝุ่นควบแน่นออกจากก๊าซรอบดาวหรือแม้แต่ในชั้นบรรยากาศส่วนนอกๆ
ที่เย็น ได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม ทีมยังไม่สามารถอธิบายว่าอะไรเป็นสาเหตุให้ปล่อยเมฆควันออกมาซึ่งปกคลุมดาวไว้ชั่วคราว
สสารที่ดาวอายุมากผลักออกมา
มีบทบาทสำคัญในวัฎจักรชีวิตของธาตุ
ซึ่งจะช่วยในการก่อตัวดาวฤกษ์และดาวเคราะห์รุ่นต่อๆ ไปได้ Lucas กล่าว เคยคิดกันว่าสิ่งนี้จะเกิดในดาวอายุมากชนิดที่รู้จักกันดีว่า
ดาวแปรแสงแบบมิรา(Mira variables) เป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม การพบดาวชนิดใหม่ซึ่งสาดวัสดุสารออกมาได้นี้
น่าจะมีความสำคัญในการกระจายธาตุหนักในดิสก์นิวเคลียส
และในพื้นที่ที่อุดมด้วยโลหะในกาแลคซีอื่น ให้กว้างใหญ่ขึ้น
เมื่อกาแลคซีมีอายุมากขึ้น
ซุปเปอร์โนวาและกิโลโนวาก็จะเริ่มทำงานเพื่อเปลี่ยแปลงปริมณฑลกาแลคซี
ทำให้พื้นที่ที่อุดมด้วยโลหะขยายออกไป และสุดท้าย บางที
สิงห์เฒ่าอมควันก็อาจจะกลายเป็นเพื่อนบ้านของเราได้
การศึกษานี้เผยแพร่เป็นรายงาน 4 ฉบับใน Monthly Notices of the Royal
Astronomical Society ซึ่งมีรายงานบทสรุปในภาพรวม,
การศึกษาสเปคตรัมดาวฤกษ์ทารกและยักษ์อายุมากในรายละเอียด,
การศึกษาการสะสมมวลสารเป็นคาบเวลาเพื่ออธิบายการปะทุของดาวฤกษ์ทารก
และส่งผลต่อการก่อตัวดาวเคราะห์
และรายงานการปะทุในรายละเอียดจากดาวฤกษ์ทารกดวงหนึ่งที่นำไปสู่ความสว่าง 16
เท่าของดวงอาทิตย์
แม้จะมีมวลเพียงหนึ่งในห้าเท่านั้น
แหล่งข่าว iflscience.com
: galactic search for young stars discovers new category called “old smokers”
sciencealert.com :
astronomers see a new type of hidden star for the first time
scitechdaily.com : new types of stars – “old smokers” and erupting protostars – discovered
in the Milky Way
No comments:
Post a Comment