ดาวเคราะห์ทั้งหกในระบบ HD 110067 สร้างรูปร่างทางเรขาคณิตที่สวยงามนี้อันเนื่องมาจากโซ่กำทอนของพวกมัน
นักดาราศาสตร์ได้พบระบบสุริยะที่มีความพร้อมเพรียงที่หาได้ยาก
โดยมีดาวเคราะห์หกดวงเคลื่อนที่ราวกับเป็นวงออร์เครสตราอวกาศ
ปราศจากการรบกวนโดยแรงภายนอกนับตั้งแต่ที่ระบบก่อตัวขึ้นเมื่อหลายพันล้านปีก่อน
การค้นพบนี้อาจช่วยอธิบายว่าระบบสุริยะที่พบทั่วทางช้างเผือกมีความเป็นมาอย่างไร
ระบบแห่งนี้อยู่ห่างออกไปราว 100 ปีแสงในกลุ่มดาวผมของเบเรนิซ(Coma
Berenices) ในปี 2020
ดาวเทียมนักล่าดาวเคราะห์นอกระบบ TESS(Transiting
Exoplanet Survey Satellite) ของนาซา
ได้ตรวจจับแสงดาวฤกษ์ที่หรี่ลง
ซึ่งบ่งชี้ว่ามีดาวเคราะห์กำลังเคลื่อนที่ผ่านหน้าพื้นผิวดาวฤกษ์
เมื่อรวมข้อมูลจาก TESS และ คีออปส์(CHEOPs;
Characterizing Exoplanet Satellite) ของอีซา
ทีมนักวิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลและพบการเรียงตัวอันละเอียดอ่อนนี้
ในขณะที่ระบบพหุดาวเคราะห์(multi-planet
system) พบได้ทั่วไปในกาแลคซีของเรา
แต่พวกที่อยู่ในการเรียงตัวอันละเอียดอ่อนที่เรียกว่า กำทอน(resonance) กลับพบได้น้อย
ดาวฤกษ์แม่ซึ่งเรียกกันว่า HD 110067 มีระบบที่มีอัตลักษณ์เนื่องจากดาวเคราะห์ทั้งหกเคลื่อนที่ไปโดยพร้อมเพรียงซึ่งในทางเทคนิคเรียกว่า
กำทอน ที่แม่นยำและเป็นระเบียบอย่างมาก Enric Palle ผู้เขียนร่วมจากสถาบันดาราศาสตร์ฟิสิกส์
แห่งหมู่เกาะคานารี่ กล่าว
ดาวเคราะห์ดวงในสุดในระบบแห่งนี้ โคจรไปครบ 3
รอบในทุกๆ 2 รอบที่เพื่อนบ้านลำดับถัดไปโคจร(กำทอน 3/2) กำทอนรูปแบบนี้เกิดขึ้นซ้ำกับดาวที่ใกล้ที่สุดเป็นลำดับสองและสาม
และสามกับสี่ ส่วนอีกสองดวงนอกสุด มีคาบโคจร 41 และ 54.7 วัน
ตามลำดับ(เป็นกำทอน 4/3)
ในขณะที่ดาวเคราะห์ดวงในสุด จะโคจรไป
6 รอบในเวลาพอดิบพอดีกับที่ดาวเคราะห์วงนอกสุดโคจรครบหนึ่งรอบ
คิดกันว่า
ระบบสุริยะทั้งหมดรวมถึงระบบของเราเริ่มต้นจากสภาพนี้
แต่ประเมินว่าจะมีเพียงหนึ่งในร้อยที่จะสามารถรักษากำทอนนี้ได้
และสำหรับโซ่กำทอนก็ยิ่งพบได้น้อยลงไปอีก เมื่อกำทอนถูกรบกวนได้ง่าย ยกตัวอย่างเช่น
มีดาวเคราะห์ยักษ์ที่สาดสรรพสิ่งที่ผ่านเข้ามาใกล้ กลายเป็นการระดมชนด้วยอุกกาบาต,
การผ่านเข้าใกล้กับดาวฤกษ์เพื่อนบ้าน, การชนครั้งใหญ่ที่รบกวนสมดุลทั้งปวง และการรบกวนอื่นๆ
ยังอาจจะมีดาวเคราะห์บริวารเพิ่มขึ้นอีกในระบบนี้
ทั้งหกดวงที่พบโดยรวมแล้วมีขนาดราวสองถึงสามเท่าโลก
แต่มีความหนาแน่นใกล้เคียงกับดาวเคราะห์ก๊าซยักษ์ในระบบของเรา
วงโคจรของพวกมันเรียงรายตั้งแต่ 9 ถึง 54
วัน
ทำให้พวกมันทั้งหมดอยู่ใกล้ดาวฤกษ์แม่มากกว่าวงโคจรดาวศุกร์รอบดวงอาทิตย์
และทำให้พวกมันร้อนจัด
นักวิทยาศาสตร์บอกว่ายังคงต้องทำการสำรวจเพิ่มเติมเพื่อตรวจสอบว่าในชั้นบรรยากาศของพวกมันมีอะไรบ้าง
นอกจากนี้ยังต้องตรวจสอบมวลและวงโคจรของดาวเคราะห์เหล่านี้ให้แม่นยำมากขึ้น
ในขณะที่นักดาราศาสตร์พบระบบสุริยะที่เคลื่อนที่พ้องแบบนี้ 40 ถึง 50 แห่ง
แต่ไม่มีแห่งใดเลยที่มีดาวเคราะห์ในจังหวะที่พอดีอย่างนี้
หรือสว่างอย่างดาวฤกษ์แม่สีส้มดวงนี้ Palle กล่าว ส่วนสมาชิกทีมอีกคน Hugh Osborn จากมหาวิทยาลัยเบิร์น กล่าวว่า
เป็นที่ช๊อคและน่ายินดีเมื่อพบว่าคาบการโคจรของดาวเคราะห์ในระบบแห่งนี้ใกล้เคียงกับที่นักวิทยาศาสตร์ได้ทำนายไว้
ผมอ้าปากค้างไปเลย นี่เป็นช่วงเวลาที่ดีจริงๆ
https://www.youtube.com/watch?v=U8jQEnpQfBM
ไม่มีดาวเคราะห์ใดเลยในการโคจรพ้องสมบูรณ์แบบนี้ ที่อยู่ในส่วนที่เรียกว่า
แถบเอื้ออาศัยได้(habitable zone) ของดาวฤกษ์แม่
ซึ่งหมายความว่ามีโอกาสเพียงน้อยนิดที่จะมีสิ่งมีชีวิตอยู่
อย่างน้อยก็ในรูปแบบที่เรารู้จัก Adrien Leleu จากมหาวิทยาลัยเจนีวา
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในทีมนานาชาติที่เผยแพร่ผลสรุปในวารสาร Nature กล่าวว่า
ตอนนี้เรามีเป้าหมายมาตรฐานให้เปรียบเทียบแล้ว
แหล่งข่าว phys.org
: a six-planet solar system in perfect synchrony has been found in the Milky
Way
phys.org :
scientists discover rare six-planet system that moves in strange synchrony
skyandtelescope.com : six
sub-Neptunes discovered 100 light-years away
No comments:
Post a Comment