ภาพจากศิลปินแสดงหลุมดำมวลดวงดาว(stellar mass black holes) คู่หนึ่งที่ฝังตัวอยู่ในดิสก์ก๊าซรอบหลุมดำมวลมหาศาล(supermassive black hole) แห่งหนึ่ง รายละเอียดที่คล้ายเงาสีเทารอบๆ หลุมดำเล็กแสดงภาพกาแลคซีที่ถูกบิดเบนผ่านเลนส์ความโน้มถ่วงบนดิสก์ ถ้าคุณพิจารณาที่หลุมดำโดยตรง จะเห็นแสงที่มาจากแสงดาวที่อยู่เหนือมัน
นักดาราศาสตร์ได้พบหลุมดำมวลมหาศาลที่วิ่งหนีออกมาแห่งหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนจะถูกผลักออกจากกาแลคซีบ้านเกิดของมัน และกำลังวิ่งผ่านห้วงอวกาศโดยมีสายโซ่ดาวห้อยท้ายตามมาด้วย
จากงานวิจัยของทีมซึ่งเผยแพร่ในเวบก่อนตีพิมพ์ arXiv.org และเผยแพร่ใน Astrophysical Journal
Letters การค้นพบนี้เป็นครั้งแรกที่ให้หลักฐานจากการสำรวจว่าหลุมดำมวลมหาศาล(supermassive
black holes) อาจถูกผลักออกจากกาแลคซีบ้านเกิดของพวกมัน
ออกมาเพ่นพล่านในห้วงอวกาศได้
นักวิจัยที่ค้นพบหลุมดำที่กำลังวิ่งหนีเป็นสายของแสงที่สว่าง
ในขณะที่ใช้กล้องฮับเบิลเพื่อสำรวจกาแลคซีแคระ RCP 28 ซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 7.5 พันล้านปีแสงจากโลก
การสำรวจติดตามผลได้แสดงว่าสายแสงซึ่งมีความยาวมากกว่า 2 แสนปีแสง(ราวสองเท่าความกว้างของทางช้างเผือก)
ซึ่งเคยคิดว่าเป็นก๊าซที่ถูกบีบอัดกำลังก่อตัวดาวอย่างคึกคัก ก๊าซที่ห้อยตามหลังหลุมดำซึ่งมีมวล
20 ล้านเท่าดวงอาทิตย์แห่งนี้และกำลังหนีออกจากกาแลคซีบ้านเกิดของมันด้วยความเร็ว
5.6 ล้านกิโลเมตรต่อชั่วโมง
หรือราว 4500 เท่าความเร็วเสียง
กาแลคซีขนาดใหญ่เกือบทุกแห่งจะมีหลุมดำมวลมหาศาลในใจกลาง
หลุมดำที่มีกิจกรรมสูงมักจะยิงไอพ่นวัสดุสารออกมาด้วยความเร็วสูง
ซึ่งอาจเห็นเป็นเส้นแสงที่บางครั้งก็ดูคล้ายกับสิ่งที่นักวิจัยได้เห็นนี้
แต่นั่นจะเรียกว่า ไอพ่นทางดาราศาสตร์ฟิสิกส์(astrophysical jets) เพื่อตรวจสอบว่าเส้นแสงที่เห็นไม่ใช่ไอพ่นทางดาราศาสตร์ฟิสิกส์
van Dokkum และทีมสำรวจเส้นแสงและพบว่ามันไม่ได้แสดงร่องรอยใดๆ
ของไอพ่นทางดาราศาสตร์ฟิสิกส์เลย
ในขณะที่ไอพ่นทางดาราศาสตร์ฟิสิกส์จะมีพลังอ่อนลงเมื่อเคลื่อนที่ออกห่างจากแหล่งที่เปล่งไอพ่นออกมา
แต่เส้นแสงจากสิ่งที่อาจเป็นหลุมดำนี้
กลับมีพลังงานสูงขึ้นเมื่อมันเคลื่อนออกห่างจากสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นกาแลคซีต้นกำเนิดของมัน
นอกจากนี้ ไอพ่นทางดาราศาสตร์ฟิสิกส์ที่หลุมดำยิงออกมาจะขยายบานออก
ในขณะนี้เส้นแสงนี้กลับยังเป็นเส้นเรียวตรง
ทีมจึงสรุปว่าคำอธิบายที่สอดคล้องกับเส้นแสงนี้มากที่สุดก็คือ
หลุมดำมวลมหาศาลแห่งหนึ่งที่ถูกยิงทะลุผ่านก๊าซที่ล้อมรอบกาแลคซี
ในขณะที่ก็กระแทกก๊าซบีบอัดตัวสูงพอที่จะเหนี่ยวนำให้เกิดการก่อตัวดาวห้อยตามหลังมา van Dokkum กล่าวว่า
ถ้ายืนยันจริง
ก็น่าจะเป็นครั้งแรกที่เรามีหลักฐานอย่างชัดเจนว่าหลุมดำมวลมหาศาลก็หนีออกจากกาแลคซีได้
และเมื่อยืนยันหลุมดำมวลมหาศาลที่วิ่งหนีออกมาได้
คำถามต่อไปที่นักดาราศาสตร์อยากจะตอบก็คือ
แล้ววัตถุยักษ์อย่างนี้ถูกผลักออกจากกาแลคซีต้นสังกัดได้อย่างไร
ลำดับเหตุการณ์ที่เป็นไปได้มากที่สุดที่อธิบายทุกๆ
สิ่งที่เราเห็นในการดีดผลักแบบนี้ เกิดจากปฏิสัมพันธ์แบบวัตถุสามชิ้น(three-body
interaction) van Dokkum กล่าว
เมื่อวัตถุสามชิ้นที่มีมวลใกล้เคียงกัน มีปฏิสัมพันธ์ทางแรงโน้มถ่วง
ปฏิสัมพันธ์จะไม่ทำให้เกิดความเสถียรแต่มักจะนำไปสู่การก่อตัวระบบคู่
และผลักวัตถุที่สามออกมา
นี่อาจจะหมายความว่าหลุมดำที่วิ่งหนีนั้นครั้งหนึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของระบบคู่หลุมดำมวลสูง
และในระหว่างที่กาแลคซีกำลังควบรวมกัน ก็มีหลุมดำมวลสูงแห่งที่สามเข้ามาป้วนเปี้ยน
จนเหวี่ยงหนึ่งในสอง(ซึ่งมักจะเป็นวัตถุที่มวลต่ำที่สุด) ออกไป
นักดาราศาสตร์ยังไม่แน่ใจว่าหลุมดำยักษ์ที่วิ่งหนีนี้พบได้ทั่วไปแค่ไหน
มีการทำนายหลุมดำมวลมหาศาลที่ถูกผลักออกมาตั้งแต่เมื่อ 50 ปีก่อนแต่ไม่มีใครที่เคยได้เห็นจริงๆ van
Dokkum กล่าว
แต่นักทฤษฎีเกือบทุกคนก็คิดว่าน่าจะมีมากอยู่
ที่น่าสนใจมากคือเมื่อตรวจสอบพื้นที่แห่งหนึ่งอย่างระมัดระวัง
จะเผยให้เห็นเส้นแสงที่สลัวกว่าเส้นที่สอง โผล่ออกในทิศตรงกันข้ามของกาแลคซี
อีกครั้งที่ต้องนึกถึงไอพ่นสองขั้ว(bipolar jets) แต่หลักฐานก็ไม่ได้บอกอย่างนั้น Grant
Tremblay จาก CfA
กล่าวว่า เราถกเรื่องนี้กันไม่น้อย
แต่ผมว่ามันไม่สมเหตุสมผล
ทีมสงสัยว่ากาแลคซ๊ซึ่งมีรูปร่างไม่ปกติและมีการก่อตัวดาวอย่างคึกคักซึ่งบอกถึงการชนเมื่อเร็วๆ
นี้ เมื่อหลุมดำที่เบาที่สุดถูกผลักออกและสร้างเส้นสายเส้นแรกแล้ว
อีกสองแห่งที่เหลือก็กระดอนกลับในทิศทางตรงกันข้ามด้วยความเร็วที่ต่ำกว่า
ยังคงต้องมีการสำรวจต่อไปด้วยกล้องโทรทรรศน์ตัวอื่นๆ เพื่อหาหลักฐานโดยตรงของหลุมดำที่ปลายเส้นแสงแห่งแรกนี้ van Dokkum กล่าวเพิ่ม การตรวจจับแหล่งรังสีเอกซ์ที่ปลายเส้นแสงนี้น่าจะเป็นตัวบ่งชี้สุดท้ายว่าหลุมดำกำลังสะสมมวลสาร Tremblay กล่าว ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แน่นอนเลยว่าประชาคมดาราศาสตร์จะต้องสำรวจรายละเอียดนี้ด้วยหอสังเกตการณ์ต่างๆ นานาจากทั้งภาคพื้นและในอวกาศ
แหล่งข่าว space.com
: “runaway” black hole the size of 20 million suns
found speeding through space with a trail of newborn stars behind it
skyandtelescope.com
: have scientists found a rogue supermassive black hole?
No comments:
Post a Comment