ภาพใจกลางกาแลคซีทางช้างเผือกในช่วงอินฟราเรด
ทีมนักวิจัยนานาชาติภายใต้การนำทีมโดย Florian
Peißer จากสถาบันดาราศาสตร์ฟิสิกส์
มหาวิทยาลัยโคโลญน์ ได้พบดาวฤกษ์อายุน้อยมากๆ
ดวงหนึ่งที่อยู่ในขั้นตอนการก่อตัวขึ้น ใกล้กับหลุมดำ คนยิงธนู เอ สตาร์(Sagittarius
A*) ในใจกลางทางช้างเผือก
ดาวฤกษ์นี้มีอายุเพียงไม่กี่หมื่นปีเท่านั้น ทำให้มันมีอายุน้อยกว่าเผ่าพันธุ์มนุษยชาติซะอีก
สิ่งที่พิเศษเกี่ยวกับดาวฤกษ์ทารก X3a ก็คือ
ในทางทฤษฎีแล้ว มันไม่น่าจะสามารถอยู่ใกล้กับหลุมดำมวลมหาศาลแห่งนี้ได้
อย่างไรก็ตาม ทีมเชื่อว่ามันก่ตอัวในเมฆฝุ่นก้อนหนึ่งที่โคจรรอบหลุมดำยักษ์
และขยับสู่วงโคจรปัจจุบันของมันเมื่อก่อตัวขึ้นแล้ว การศึกษางานนี้เผยแพร่ใน Astrophysical
Journal
ละแวกใกล้เคียงหลุมดำที่ในกลางกาแลคซีของเรา
จัดได้ว่าโดยทั่วไปเป็นพื้นที่ที่มีพลวัตสูง
และมีการแผ่รังสีเอกซ์พลังงานสูงและอุลตราไวโอเลตที่รุนแรง
สภาวะเหล่านี้ทำหน้าที่ต่อต้านการก่อตัวของดาวอย่างดวงอาทิตย์ ดังนั้น
นักวิทยาศาสตร์จึงสันนิษฐานมานานแล้วว่า
ตลอดหลายพันล้านปีที่ผ่านมามีแต่เพียงดาวอายุมากที่พัฒนาตัวแล้วเท่านั้นที่จะสามารถมาอยู่ในละแวกทุ่งสังหารใกล้หลุมดำได้
ผ่านปฏิสัมพันธ์แรงเสียดทานพลวัต
อย่างไรก็ตาม
ค่อนข้างน่าประหลาดใจเมื่อเพียง 20 ปีก่อนนี้เอง
ที่ได้พบดาวอายุน้อยมากๆ ในละแวกประชิดกับ Sgr A* ซึ่งก็ยังคงไม่แน่ชัดว่าดาวเหล่านี้ไปอยู่ที่นั่นได้อย่างไรหรือพวกมันก่อตัวขึ้นที่ใด
การปรากฏของดาวอายุน้อยมากๆ อยู่ใกล้กับหลุมดำมวลมหาศาลอย่างมาก จึงถูกเรียกว่า
ปริทรรศน์แห่งความเยาว์วัย(paradox of youth)
ดาวทารก X3a ซึ่งมีขนาด 10 เท่าและมวล 15 เท่าดวงอาทิตย์
น่าจะปิดช่องว่างระหว่างการก่อตัวดาว กับดาวอายุน้อยที่พบในระยะประชิดเพียง 2
ปีแสงจา Sgr A* เท่านั้น X3a ต้องการสภาวะพิเศษเพื่อก่อตัวขึ้นประชิดกับหลุมดำนี้
ดร Florian Peißer ผู้เขียนคนแรก
อธิบายว่า กลับเป็นว่ามีพื้นที่แห่งหนึ่งในระยะทางไม่กี่ปีแสงจากหลุมดำ
ซึ่งจะมีสภาวะพร้อมต่อการก่อตัวของดาว
พื้นที่นี้ซึ่งเป็นวงแหวนก๊าซและฝุ่นมีอุณหภูมิต่ำพอและได้รับการปกป้องจากรังสีรุนแรง
อุณหภูมิที่ต่ำและความหนาแน่น(ก๊าซฝุ่น) ที่สูงได้สร้างสภาพแวดล้อมที่เมฆก๊าซระดับหลายร้อยเท่ามวลดวงอาทิตย์จะก่อตัวขึ้นได้
เมฆเหล่านี้จะต้องพัฒนาเร็วมากๆ ก่อนที่จะวิ่งเข้าหาหลุมดำ เนื่องจากการชนของเมฆ-เมฆจะทำให้สูญเสียโมเมนตัมเชิงมุมและจมเข้าหาหลุมดำในเวลาไม่กี่หมื่นปี
นอกจากนี้
มีก้อนวัสดุสารร้อนจัดก่อตัวขึ้นในระยะใกล้กับดาวทารก ซึ่งหลังจากนั้นจะถูก X3a ดึงสะสมเข้าไป
ก้อนเหล่านี้ยังน่าจะช่วยให้ X3a มีมวลสูงเช่นนี้ได้ตั้งแต่ต้นๆ อย่างไรก็ตาม
ก้อนวัสดุสารเหล่านี้เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งในประวัติการก่อตัวของ X3a
ซึ่งยังคงอธิบายที่มาของก้อนเหล่านี้ไม่ได้
แต่นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่าน่าจะเกิดลำดับเหตุการณ์ต่อไปนี้ เมื่อได้รับการปกป้องจากอิทธิพลและการแผ่รังสีรุนแรงจาก Sgr A* ก็จะมีเมฆที่มีความหนาแน่นสูงพอก้อนหนึ่ง ก่อตัวขึ้นในวงแหวนก๊าซฝุ่นส่วนนอกรอบๆ ใจกลางกาแลคซี เมฆนี้มีมวลราว 100 เท่าดวงอาทิตย์ และยุบตัวลงโดยตรงภายใต้แรงโน้มถ่วงเพื่อสร้างดาวฤกษ์ทารกขึ้น ในขณะเดียวกับที่ขยับเข้าหาหลุมดำด้วย
Peißer กล่าวเสริมว่า สิ่งที่เรียกว่า เวลาที่ใช้ตก(fall
time) ใกล้เคียงกับอายุของ X3a ลำดับเหตุการณ์นี้ยังน่าจะสอดคล้องกับสถานะการพัฒนาวิวัฒนาการของ X3a ด้วย
ซึ่งขณะนี้กำลังพัฒนาเพื่อเป็นดาวฤกษ์เต็มวัย
การค้นพบเริ่มต้นจากก้อนวัสดุสารที่เรียกว่า X3 ซึ่งดึงความสนใจของนักดาราศาสตร์ ก่อนที่จะพบ X3a อยู่ภายใน
การสำรวจจากเครื่องมืออินฟราเรดได้พบแสงของดาวทารกในอินฟราเรดใกล้ที่ทะลุผ่านเมฆก๊าซฝุ่นหนาที่ล้อมรอบมันอยู่
การวิเคราะห์สเปคตรัมนี้เองที่เผยให้เห็นองค์ประกอบเคมีที่สอดคล้องกับดาวฤกษ์ทารก
Michal Zajacek จากมหาวิทยาลัยมาซาริก ในเบรอโน สาธารณรัฐเชค
ผู้เขียนร่วมการศึกษานี้ กล่าวสรุป ด้วยมวลที่สูงราวสิบกว่าเท่าดวงอาทิตย์ X3a จัดเป็นดาวยักษ์ และยักษ์เหล่านี้ก็พัฒนาตัวเพื่อเป็นตัวเต็มวัยได้เร็วกว่ามาก
เราโชคดีที่ได้พบดาวมวลสูงฝังตัวอยู่ในเปลือกก๊าซฝุ่นรูปร่างคล้ายดาวหาง ซึ่งช่วยให้จำแนกรายละเอียดที่บอกอายุที่น้อยได้
เช่น เปลือกก๊าซฝุ่นล้อมรอบดาวที่กำลังหมุนไปรอบๆ มัน
อาจมีดาวขนาดเล็กกว่าในพื้นที่เดียวกันนี้
ซึ่งสลัวเกินกว่าจะสำรวจได้ เนื่องจากดาวที่มีมวลต่ำจะพัฒนาตัวช้ากว่ามาก
พวกมันก็อาจจะไปไม่ถึงช่วงเต็มวัยก่อนที่จะถูกหลุมดำกลืนไป
การค้นหาระบบ X3 ช่องสีเขียวอ่อนทางซ้ายแสดงภาพ K- และ L-band ซ้อนกันโดยสีฟ้าแสดงฝุ่นของคลื่นกระแทกรูปโบว์ และสีแดงเกี่ยวข้องกับการแผ่ความร้อน X3a ระบุโดย YSO ส่วน X3b, X3c เป็นก้อนความร้อน ยังระบุตำแหน่งดาวที่ใกล้ที่สุดและสว่างที่สุดสามดวง S3-373, S3-374 และ S3-375 กล่องทางขวาแสดงการเปล่งคลื่นจาก CO ที่ 343 Hz ภาพพื้นหลังสำรวจโดย NACO ในช่วงอินฟราเรดกลาง(L band, 3.8 ไมครอน) พร้อมระบุกระจุกดาวที่โดดเด่น IRS 16 IRS 13 และดาวอื่นๆ
ในกาแลคซีแห่งอื่น
ก็พบวงแหวนฝุ่นและก๊าซลักษณะคล้ายๆ
กันนี้ซึ่งก็ใช้กลไกเดียวกันเพื่ออธิบายได้เช่นกัน กาแลคซีหลายๆ
แห่งมีดาวอายุน้อยมากๆ ในพื้นที่ใจกลาง
มีการวางแผนการสำรวจด้วยกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์เวบบ์(JWST) หรือ กล้องโทรทรรศน์ใหญ่สุดขั้ว(ELT) ในชิลีซึ่งจะเผยว่า X3a เป็นพวกตัวประหลาด
หรือเป็นตัวแทนของดาวอายุน้อยมากที่เผอิญก่อตัวขึ้นในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายมากรอบหลุมดำ
และเพื่อทดสอบแบบจำลองการก่อตัวดาวนี้ในทางช้างเผือก และในกาแลคซีอื่นๆ
แหล่งข่าว spaceref.com
- baby star near the black hole in the middle of our Milky Way: it exists after
all
iflscience.com – a
giant baby star is forming in the galaxy’s most dangerous location
sciencealert.com –
somehow, a star is being born in the extremes around our galaxy’s black hole
No comments:
Post a Comment