นักวิทยาศาสตร์ได้พบช่องว่างหรือฟองขนาดมหึมา 4
แห่งที่ใจกลางของกระจุกกาแลคซีแห่งหนึ่ง
โดยใช้หอสังเกตการณ์รังสีเอกซ์จันทราของนาซา
ชุดของรายละเอียดที่ไม่ปกตินี้อาจจะเกิดขึ้นจากการปะทุจากหลุมดำมวลมหาศาล 2
แห่งที่โคจรรอบกันและกันอย่างใกล้ชิด
กระจุกกาแลคซี(galaxy cluster) เป็นโครงสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอกภพที่ยึดเกาะเข้าด้วยกันด้วยแรงโน้มถ่วง
โดยประกอบด้วยกาแลคซีที่มาอยู่รวมกันหลายร้อยจนถึงหลายพันแห่ง,
ก๊าซร้อนจำนวนมหาศาล และสสารมืดที่มองไม่เห็น
ก๊าซร้อนที่กระจายทั่วกระจุกมีมวลสูงกว่ามวลกาแลคซีทั้งหมดในกระจุกด้วยซ้ำ
และเรืองสว่างในช่วงรังสีเอกซ์ที่กล้องจันทราตรวจจับได้
มักจะพบกาแลคซีขนาดยักษ์แห่งหนึ่งที่ใจกลางของกระจุกกาแลคซีเสมอ
งานใหม่ของจันทราเป็นการศึกษากระจุกที่มีชื่อว่า RBS 797 ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 3.9 พันล้านปีแสงจากโลก ได้พบช่องว่างคู่ 2 กลุ่มที่แผ่เลยออกจากใจกลางกระจุก ช่องว่าง(cavity)
รังสีเอกซ์ชนิดนี้ถูกพบในกระจุกแห่งอื่นๆ
มาก่อน นักวิทยาศาสตร์คิดว่าพวกมันเป็นผลจากการปะทุจากพื้นที่ใกล้ๆ
หลุมดำมวลมหาศาล(supermassive black hole) ในใจกลางกาแลคซีมวลสูงที่ศูนย์กลางของกระจุก
เมื่อสสารวิ่งออกจากหลุมดำในรูปของไอพ่นที่ยิงออกในทิศทางที่ตรงกันข้าม
มันจะเป่าช่องว่างในก้อนก๊าซร้อน ความพิเศษของ RBS 797 ก็คือ มีไอพ่น 2 ชุดที่ชี้ในทิศทางที่ตั้งฉากซึ่งกันและกัน
อื่นๆ แต่การพบ 4 ช่องในกระจุกแห่งเดียวเป็นสิ่งที่พบได้ยากมาก นักวิจัยคิดว่าช่องว่างทั้งสี่แสดงถึงกิจกรรมการปะทุของหลุมดำยักษ์คู่หนึ่งในใจกลางกระจุกนี้
Francesco Ubertosi จากมหาวิทยาลัยโบโลญญา ในอิตาลี
ซึ่งนำการศึกษาโดยจันทรา กล่าวว่า
เราคิดว่าเราทราบว่าช่องว่างคู่หนึ่งจะแสดงถึงอะไร แต่กำลังเกิดอะไรขึ้นเมื่อกระจุกกาแลคซีมีช่องว่าง
2 คู่ในทิศทางที่แตกต่างกันมาก
นักดาราศาสตร์เคยได้สำรวจช่องว่างคู่ที่อยู่ในทิศทางตะวันออก-ตะวันตกใน RBS 797 แต่คู่ในแนวเหนือ-ใต้ เพิ่งตรวจพบในการสำรวจใหม่จากจันทราที่ใช้เวลานานกว่า
ภาพที่ลึกกว่าใช้เวลาสำรวจจันทราเกือบ 5 วัน
เทียบกับประมาณ 14 ชั่วโมงในการสำรวจเดิม
กล้องโทรทรรศน์ VLA(Very Large Array) ของมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
ได้สำรวจพบหลักฐานไอพ่น 2 คู่เป็นการแผ่รังสีวิทยุแล้ว
ซึ่งก็เรียงตัวตามช่องว่างด้วย
แล้วช่องว่างทั้งสี่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นได้อย่างไร
คำตอบที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือ Ubertosi และเพื่อนร่วมงานบอกว่า
RBS 797 มีหลุมดำมวลมหาศาลคู่หนึ่งที่ได้ยิงไอพ่นออกมาในทิศทางที่ตั้งฉากกันแทบจะในเวลาเดียวกัน
ความคิดที่ดีที่สุดของเราก็คือมีหลุมดำมวลมหาศาลคู่หนึ่งที่นำไปสู่การสร้างช่องว่าง
2 คู่ Myriam
Gitti ผู้เขียนร่วมจากโบโลญญา
เช่นกัน กล่าว ในขณะที่เราคิดว่าหลุมดำมวลมหาศาลสามารถก่อตัวเป็นระบบคู่ได้
แต่ก็พบได้ยากมากๆ ที่จะพบทั้งคู่ในสถานะมีกิจกรรม ในลักษณะนี้การพบหลุมดำกัมมันต์(active
black holes) สองแห่งที่อยู่ใกล้กันได้เป่าช่องว่างใน
RBS 797 จึงเป็นเรื่องที่พิเศษอย่างมาก
RBS 797 ในช่วงรังสีเอกซ์
ในความเป็นจริง
การสำรวจในช่วงวิทยุก่อนหน้านี้ด้วย European VLBI Network(EVN) ได้พบแหล่งวิทยุ 2 แห่งที่แยกห่างจากกันเพียง 250 ปีแสงเท่านั้นใน RBS 797 ถ้าทั้งสองแหล่งเป็นหลุมดำมวลมหาศาล
พวกมันก็จะเป็นคู่ที่อยู่ใกล้กันมากที่สุดเท่าที่เคยพบมา
หลุมดำทั้งสองน่าจะหมุนวนเข้าหากันและกันต่อไป
สร้างคลื่นความโน้มถ่วงจำนวนมหาศาลออกมา และสุดท้ายก็ควบรวมกัน
ยังมีคำอธิบายที่เป็นไปได้อีกอย่างสำหรับช่องว่างทั้งสี่ที่พบใน RBS
797 ลำดับเหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับหลุมดำยักษ์เพียงแห่งเดียว
ที่มีไอพ่นที่บางครั้งก็เปลี่ยนทิศทางได้ค่อนข้างเร็ว
การวิเคราะห์ข้อมูลของจันทราได้แสดงว่าความต่างของอายุช่องว่างตะวันออก-ตะวันตก กับเหนือ-ใต้ นั้นไม่ถึง 10 ล้านปี ถ้ามีหลุมดำเพียงแห่งเดียวที่สร้างช่องว่างทั้งสี่
เราคงต้องตามรอยความเป็นมาของกิจกรรมของมันว่า
การเรียงตัวของไอพ่นเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้อย่างไร
และนี่เกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมในกระจุกกาแลคซีหรือไม่
หรือเกี่ยวข้องกับฟิสิกส์ของหลุมดำเอง หรือกระทั่งรวมทั้งสองอย่าง Fibrizio
Brighenti ผู้เขียนร่วมจากมหาวิทยาลัยโบโลญญา
กล่าว รายงานอธิบายผลสรุปเผยแพร่ใน Astrophysical Journal Letters
แหล่งข่าว nasa.gov
: astronomers spy quartet of cavities from giant black holes
sci-news.com : Chandra
spots four cavities in center of galaxy cluster
No comments:
Post a Comment