นักวิทยาศาสตร์รายงานว่า
นักสำรวจดวงจันทร์ในอนาคตจะถูกระดมชนด้วยรังสีมากกว่านักบินอวกาศที่อยู่บนสถานีอวกาศนานาชาติ
2 ถึง 3 เท่า
เป็นระดับที่อันตรายต่อสุขภาพซึ่งต้องใช้ที่อยู่อาศัยที่มีกำแพงหนาเพื่อป้องกัน
แม้ว่าปฏิบัติการอะพอลโลในช่วงทศวรรษ 1960
และ 1970 จะพิสูจน์ว่านักบินอวกาศสามารถใช้เวลาไม่กี่วันบนพื้นผิวดวงจันทร์ได้อย่างปลอดภัย
แต่นาซาก็ไม่เคยทำการตรวจสอบปริมาณรังสีในแต่ละวันที่น่าจะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ได้ทราบว่าลูกเรือจะอยู่อาศัยได้นานแค่ไหนโดยไม่เป็นอันตราย
ขณะนี้แลนเดอร์ของจีนที่อยู่ที่ด้านไกลของดวงจันทร์ได้ให้การตรวจสอบการอาบรังสีจากพื้นผิวดวงจันทร์เป็นครั้งแรก
ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญยิ่งสำหรับนาซาและองค์กรอวกาศอื่นๆ
ที่ตั้งเป้าจะส่งนักบินอวกาศไปยังดวงจันทร์ ทีมนักวิทยาศาสตร์จีน-เจอรมนี
รายงานข้อมูลการแผ่รังสีที่รวบรวมได้จากแลนเดอร์จีนซึ่งมีชื่อว่า ฉางเอ๋อ 4(Chang’e
4) ตามชื่อเทพธิดาแห่งดวงจันทร์ของจีน
ในวารสาร Science Advances
แลนเดอร์ดวงจันทร์ ฉางเอ๋อ 4 พร้อมกับโรเวอร์ อวี้ทู่ว์ 2 อุปกรณ์ตรวจสอบรังสีจากคีลอยู่ทางซ้ายด้านหลังเสาอากาศ
เครื่องมือ Lunas Lander Neutron and
Dosimetry(LND) ได้พัฒนาและสร้างโดยมหาวิทยาลัยคีล
ในฐานะตัวแทนของศูนย์การบินอวกาศเจอรมัน(DLR) การตรวจสอบของ LND ช่วยให้คำนวณสิ่งที่เรียกว่าปริมาณรังสีสมมูล(equivalent
dose; ผลรวมของปริมาณรังสีที่ดูดกลืนในเนื้อเยื่อหรืออวัยวะใดๆ
โดยเทียบกับการก่ออันตรายของรังสีแกมมา-ผู้แปล)
ซึ่งมีความสำคัญในการประเมินผลทางชีววิทยาจากการแผ่รังสีในอวกาศที่มีต่อมนุษย์
นี่เป็นความสำเร็จที่น่าปลื้มใจในแบบที่ขณะนี้เรามีชุดข้อมูลที่เราสามารถใช้เพื่อระบุขีดจำกัดรังสี
และเพื่อให้เข้าใจความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับผู้คนบนดวงจันทร์ Thomas
Berger นักฟิสิกส์ที่สถาบันการแพทย์
องค์กรอวกาศเจอรมัน กล่าว
มีแหล่งรังสีมากมาย ทั้ง
รังสีคอสมิคในกาแลคซี, อนุภาคทรงพลังจากดวงอาทิตย์ที่ปล่อยออกมาเป็นครั้งคราว
ยกตัวอย่างเช่น การลุกจ้าของดวงอาทิตย์(solar flares) และรังสีทุติยภูมิ เช่น นิวตอนและรังสีแกมมา
จากปฏิสัมพันธ์ระหว่างการแผ่รังสีในอวกาศกับดินดวงจันทร์
การแผ่รังสีเหล่านั้นวัดโดยใช้หน่วย ซีเวิร์ต(sievert) ซึ่งบอกถึงปริมาณที่เนื้อเยื่อมนุษย์ดูดซับไว้
ทีมพบว่า ปริมาณรังสีบนดวงจันทร์เทียบเท่ากับ 1369 ไมโครซีเวิร์ตต่อวัน
หรือสูงกว่าปริมาณรังสีที่นักบินอวกาศบนสถานีอวกาศนานาชาติได้รับ 2.6 เท่า
เหตุผลก็เพราะสถานีอวกาศนานาชาตินั้นส่วนหนึ่งได้รับการปกป้องจากฟองแม่เหล็กของโลกที่เรียกว่า
มักนีโตสเฟียร์
(magnetosphere) ซึ่งสะท้อนรังสีเกือบทั้งหมดที่มาจากอวกาศออกไป
ชั้นบรรยากาศโลกยังให้การปกป้องเพิ่มเติมแก่มนุษย์บนพื้นโลกด้วย
แต่เราจะได้รับรังสีมากขึ้นเมื่อขึ้นไปสูงขึ้น
บนดวงจันทร์
นักบินอวกาศน่าจะได้รับรังสีมากกว่าที่เราพบบนโลกตั้งแต่ 200 ถึง 1000 เท่า
หรือประมาณ 5 ถึง 10 เท่าของผู้โดยสารไปกับเที่ยวบินโดยสารพาณิชย์ที่ข้ามแอตแลนติก
Robert Wimmer-Scheweingruber จากมหาวิทยาลัยคีล
เจอรมนี กล่าว อย่างไรก็ตาม
ความแตกต่างก็คือเราไม่ได้เดินทางในเที่ยวบินนานเหมือนกับนักบินอวกาศเมื่อพวกเขาสำรวจดวงจันทร์
Wimmer-Schweingruber กล่าว สิ่งนี้จึงจำกัดการอาศัยบนพื้นผิวดวงจันทร์อยู่ที่ราว
2 เดือน
เมื่อรวมถึงปริมาณรังสีที่ได้รับจากการเดินทางไปและกลับ
ขาละประมาณหนึ่งสัปดาห์เข้าไปด้วยแล้ว
LND ในห้องทดลองที่คีลก่อนส่งไปกับฉางเอ๋อ 4
มะเร็งจะเป็นความเสี่ยงหลัก
มนุษย์นั้นไม่ได้เกิดขึ้นมาเพื่อให้ทนระดับรังสีขนาดนี้ และควรจะต้องป้องกันตัวเองให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เมื่ออยู่บนดวงจันทร์เป็นเวลานาน
เขากล่าวเสริม ระดับรังสีน่าจะค่อนข้างใกล้เคียงกันทั่วดวงจันทร์
ยกเว้นแต่ที่กำแพงของหลุมอุกกาบาตที่ลึก เขากล่าว โดยปกติก็คือ
ยิ่งคุณเห็นท้องฟ้าได้น้อยแค่ไหน ก็ยิ่งดี นั้นเป็นแหล่งหลักของรังสี เขากล่าว
Wimmer-Schweingruber บอกว่าระดับรังสีนั้นใกล้เคียงกับที่แบบจำลองได้ทำนายไว้
ระดับที่ฉางเอ๋อ 4 ตรวจสอบได้ในความเป็นจริงแล้ว
สอดคล้องอย่างดีเยี่ยมกับที่ตรวจสอบได้จากเครื่องตรวจจับบนยานโคจรของนาซาลำหนึ่ง
ที่ไปโคจรรอบดวงจันทร์เมื่อสิบกว่าปีก่อน Kerry Lee ผู้เชี่ยวชาญรังสีในอวกาศ ที่ศูนย์อวกาศจอห์นสัน
ในฮุสตัน กล่าว มันก็ดีที่ได้เห็นการยืนยันสิ่งที่เราคิดและความเข้าใจของเราว่ารังสีมีปฏิสัมพันธ์กับดวงจันทร์ไปตามที่คาดไว้
Lee กล่าว
ซึ่งเธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับการศึกษานี้
ในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ออกมา
นาซาบอกว่านักบินอวกาศคู่แรกที่จะลงบนดวงจันทร์ภายใต้โครงการอาร์ทีมิส
น่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์บนพื้นผิวดวงจันทร์
ยาวเป็นสองเท่าของนักบินอะพอลโลเมื่อครึ่งศตวรรษก่อน
การสำรวจน่าจะยาวนานหนึ่งหรือสองเดือนเมื่อเบสแคมป์สร้างเสร็จ
นาซาจะบินนักบินอวกาศไปดวงจันทร์ในช่วงสิ้นปี 2024 ซึ่งเป็นกำหนดที่เร็วขึ้นโดยการสั่งการจากทำเนียบขาว
และไปดาวอังคารในทศวรรษ 2030
องค์กรอวกาศบอกว่าจะมีเครื่องตรวจจับรังสีและที่อาศัยที่ปลอดภัยไปกับแคปซูลลูกเรือโอไรออนทุกลำที่บินไปดวงจันทร์
และสำหรับแลนเดอร์แล้ว มีทีม 3 ทีมที่กำลังพัฒนาแต่ละส่วนของแลนเดอร์ภายใต้การกำกับของนาซา
สำหรับการร่อนลงจอดบนดวงจันทร์ของอาร์ทีมิสเที่ยวแรก อย่างน้อย
นักบินอวกาศก็จะอยู่ในส่วนที่บินขึ้นของแลนเดอร์
นักวิจัยเจอรมันบอกว่าที่อาศัยบนดวงจันทร์ควรจะสร้างจากดินเหนียว
ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่มีอยู่แล้ว เพื่อให้อาศัยได้หลายวัน กำแพงควรจะหนา 80 เซนติเมตร
ถ้าหนากว่านี้ดินก็จะเปล่งรังสีทุติยภูมิ
ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อรังสีคอสมิคในกาแลคซีมีปฏิสัมพันธ์กับดินดวงจันทร์
ก็ถ้าคิดดูแล้ว ผมคิดว่ากำแพงของปราสาทในยุโรปน่าจะหนาเกินไป Berger เขียน
การตรวจสอบทำบนแลนเดอร์ฉางเอ๋อ 4 ซึ่งร่อนลงจอดบนด้านไกลของดวงจันทร์เมื่อวันที่ 3
มกราคม 2019 อุปกรณ์จากมหาวิทยาลัยคีล
ทำการตรวจสอบในช่วงกลางวันบนดวงจันทร์ และเช่นเดียวกับอุปกรณ์วิทยาศาสตร์อื่นๆ
ซึ่งจะปิดสวิตซ์ทำงานในช่วงกลางคืนบนดวงจันทร์ที่ยาวนานเกือบสองสัปดาห์และหนาวเย็นมากเพื่อสงวนพลังงานในแบตเตอรี่
อุปกรณ์และแลนเดอร์มีกำหนดทำการตรวจสอบต่างๆ อย่างน้อยหนึ่งปี
แต่ขณะนี้ก็มีอายุเกินเป้าหมายแล้ว ข้อมูลจากอุปกรณ์และแลนเดอร์ส่งกลับโลกผ่านดาวเทียมถ่ายทอดสัญญาณฉวี้เฉียว
ซึ่งอยู่หลังดวงจันทร์
แหล่งข่าว phys.org
: new measurements show moon has hazardous radiation levels
sciencealert.com :
we finally know how much radiation there is on the moon, and it’s not great
news
No comments:
Post a Comment