ชั้นบรรยากาศโลก และอวกาศ
ถ้าเราอยากจะมองหาสิ่งมีชีวิตบนพิภพอื่น ทำไมถึงไม่เริ่มจากดาวเคราะห์ดวงเดียวที่เรารู้ว่ามีชีวิตก่อนล่ะ
กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์เวบบ์สามารถตรวจจับก๊าซที่น่าสนใจจำนวนมากในชั้นบรรยากาศดาวเคราะห์นอกระบบ
เมื่อพิภพที่ห่างไกลเหล่านี้ผ่านหน้า(transit) ดาวฤกษ์แม่ของพวกมัน ชั้นบรรยากาศจะกรองแสงไว้
ทิ้งร่องรอยองค์ประกอบของชั้นบรรยากาศให้กล้องได้ตรวจจับ
ชั้นบรรยากาศของโลกนั้นอุดมไปด้วยไนโตรเจนและมีออกซิเจนอยู่ไม่น้อย
และยังมีโมเลกุลเช่น มีเธน ซึ่งบอกถึงการมีสิ่งมีชีวิตอย่างโจ่งแจ้ง
และยังมีโมเลกุลจำนวนน้อย เช่น ไนโตรเจนไดออกไซด์(NO2) และ คลอโรฟลูโอโรคาร์บอน(CFCs ; สารทำความเย็นฟรีออน) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนถึงอารยธรรมที่ประกอบการอุตสาหกรรม
ตามที่การศึกษาล่าสุดได้แสดงไว้
ถ้าโลกเป็นดาวเคราะห์นอกระบบ กล้องเวบบ์ก็น่าจะจำแนกโมเลกุลเหล่านั้นในชั้นบรรยากาศดาวเคราะห์ของเราได้
การศึกษานี้เผยแพร่ออนไลน์ arXiv และจะเผยแพร่ใน
The Planetary Science Journal
การศึกษาเริ่มต้นจากการสำรวจชั้นบรรยากาศโลกของจริง
ดาวเทียม SCISAT ของคานาดาได้เก็บสเปคตรัมแสงอาทิตย์ที่ผ่านทะลุพื้นที่ที่ปลอดเมฆในชั้นบรรยากาศโลกด้วยความละเอียดสูง
และจากสิ่งนี้ก็จำแนกโมเลกุลธรรมชาติและสังเคราะห์ได้จำนวนหนึ่ง
ด้วยการเฉลี่ยข้อมูลตลอดความลึกที่แตกต่างกันในชั้นบรรยากาศ
การศึกษาก่อนหน้านี้ได้จำลองสเปคตรัมที่เป็นไปได้ที่น่าจะปรากฏเมื่อโลกผ่านหน้าดวงอาทิตย์
เมื่อมองจากระบบสุริยะส่วนนอก ซึ่งได้ให้รากฐานว่าข้อมูลดาวเคราะห์นอกระบบน่าจะมีสภาพอย่างไร
จากนั้น ผู้เขียนก็ขยับไปอีกขั้นด้วยการทำให้ข้อมูลหยาบขึ้น โดยเพิ่มสัญญาณรบกวน(noise)
ให้กับสัญญาณดาวเคราะห์ และจากนั้น
ก็ใช้ความละเอียดที่ต่ำลง
นี่คล้ายกับการสำรวจที่กล้องเวบบ์น่าจะได้จากดาวเคราะห์ที่ห่างออกไปหลายปีแสง
เป้าหมายก็เพื่อตรวจสอบว่ายังคงมีข้อมูลเพียงพอที่จะจำแนกแบบจำลองชั้นบรรยากาศหรือไม่
แม้กระทั่งเมื่อการสำรวจเหล่านั้นสลัวและเต็มไปด้วยคลื่นรบกวน แน่นอนว่าถ้าอัตราส่วนสัญญาณต่อสัญญาณรบกวน(signal-to-noise
ratio) ยังสูงพอก็จะจำแนกโมเลกุลจำนวนมาก
ซึ่งรวมถึง คาร์บอนไดออกไซด์(CO2), มีเธน(CH4), โอโซน(O3), ไอน้ำ และ CFCs(ซึ่งถูกระงับการใช้มากว่า 33 ปีแต่ยังปรากฏอยู่ในชั้นบรรยากาศโลก) บนดาวเคราะห์นอกระบบดวงหนึ่งที่คล้ายโลก
ที่อยู่ห่างออกไป 50 ปีแสง
จากนั้น ทีมก็ขยับเพิ่มอีกก้าว
และตรวจสอบระบบดาวเคราะห์ที่เรียกว่า TRAPPIST-1 ซึ่งอยู่ห่างออกไป 40 ปีแสงและประกอบด้วยดาวเคราะห์ 7 ดวง โดยอาจมี 2 หรือ 3 ดวงที่มีศักยภาพเอื้ออาศัยได้
ด้วยการลองเพิ่มสเปคตรัมโมเลกุลให้กับสเปคตรัมจำลองจากพิภพใน TRAPPIST ทีมก็แสดงว่ากล้องเวบบ์ยังสามารถจำแนกสัญญาณชีวภาพและสัญญาณเทคโนโลจี
ถ้ามีอยู่บนดาวเคราะห์ในระบบ TRAPPIST
เรายังคงไม่สามารถจำแนกโครงสร้างต่างดาวบนพิภพเหล่านี้ได้
แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องบินไปไกลขนาดนั้นเพื่อพิสูจน์การมีอยู่ของเอเลี่ยน
ถ้ากล้องเวบบ์จำแนกออกซิเจน, โมเลกุลอินทรีย์ และโมเลกุลสังเคราะห์อย่าง CFCs
ในชั้นบรรยากาศดาวเคราะห์นอกระบบที่อยู่ใกล้ๆ
ได้ เราก็จะทราบว่ามีอารยธรรมทรงปัญญาอยู่/เคยอยู่ที่นั่น
ก็น่าจะเป็นก้าวที่สำคัญในการเข้าใจสิ่งมีชีวิตในเอกภพ
ประเมินว่ามีดาวเคราะห์นอกระบบราว 4 พันดวงภายในระยะทาง 50 ปีแสงจากโลก
อาจจะมีสักอารยธรรมหนึ่งแล้วก็ได้ที่พบว่ามีพวกเราอยู่ตรงนี้
แม้ว่าเราอาจจะสงสัยว่าเพราะเหตุใดพวกนั้นจึงไม่ติดต่อสื่อสารกับเราสักที
สเปคตรัมแบบส่องผ่าน(transmission
spectrum) ของชั้นบรรยากาศโลก
iflscience.com : if aliens have a JWST, this is how they’d see Earth has intelligent life
No comments:
Post a Comment