ภาพกาแลคซี EGS 23205 ทั้งสองภาพซึ่งพบเห็นเมื่อ 11 พันล้านปีก่อน ในภาพจากฮับเบิล(ซ้าย, ถ่ายผ่านฟิลเตอร์อินฟราเรดใกล้) ภาพจากเวบบ์(ขวา ซึ่งถ่ายในช่วงอินฟราเรดกลาง)
เป็นครั้งแรกที่ภาพใหม่จากกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์เวบบ์ของนาซา
ได้เผยให้เห็นกาแลคซีที่มีคานกลาง ซึ่งเป็นรายละเอียดกลุ่มของดาวรูปเรียวยาวพาดจากใจกลางกาแลคซีออกสู่ดิสก์รอบนอกของมัน
ในช่วงเวลาที่เอกภพมีอายุเพียงหนึ่งในสี่ของอายุปัจจุบันเท่านั้น
ทางช้างเผือกของเราเป็นกาแลคซีกังหันมีคานกลาง(barred spiral
galaxy) แขนกังหันของมันไม่ได้หมุนวนไปรอบๆ
แกนกลางทรงกลมที่เป็นดาวอยู่กันอย่างหนาแน่น
แต่กลับเป็นโครงสร้างเรียวยาวที่เรียกว่า คานกลาง
การค้นพบกาแลคซีซึ่งคล้ายกับทางช้างเผือกในช่วงต้นของเอกภพอย่างนี้ ทำให้นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์ต้องหวนกลับมาคิดเกี่ยวกับทฤษฎีวิวัฒนาการกาแลคซีเสียใหม่ ก่อนที่จะมีกล้องเวบบ์ ภาพจากกล้องฮับเบิลไม่เคยตรวจพบคานกลางในช่วงที่เอกภพอายุน้อยอย่างนี้ ในภาพฮับเบิลภาพหนึ่ง กาแลคซีแห่งหนึ่ง EGS-23205 ดูไม่คล้ายจากก้อนที่ดูคล้ายดิสก์ แต่ในภาพจากเวบบ์ซึ่งถ่ายเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา มันปรากฏเป็นกาแลคซีกังหันสวยงามที่มีคานกลางอย่างชัดเจน
Shardha Jogee ศาสตราจารย์ด้านดาราศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเทกซัส
ออสติน กล่าวว่า ฉันหันไปมองข้อมูลแวบหนึ่ง และก็พูดว่า
พวกเราคงต้องทิ้งทุกอย่างซะแล้ว คานกลางซึ่งเห็นได้ยากในภาพฮับเบิล
กลับโผล่ขึ้นมาในภาพเวบบ์อย่างง่ายดาย แสดงถึงพลังที่เกินต้านทานของกล้องเวบบ์ในการมองเห็นโครงสร้างที่ซ่อนอยู่ในกาแลคซี
เธอกล่าวในระหว่างอธิบายข้อมูลจากการสำรวจ CEERS(Cosmic Evolution Early
Release Science Survey) ที่นำทีมโดย Steven
Finkelstein ศาสตราจารย์ที่เทกซัส
ออสติน
ทีมยังจำแนกกาแลคซีมีคานอีกสองแห่งคือ EGS-24268
ซึ่งก็ปรากฏเมื่อราว 11 พันล้านปีก่อน
ซึ่งทำให้กาแลคซีมีคานทั้งสองแห่งมีอยู่ย้อนเวลากลับไปได้ไกลกว่าที่สำรวจพบและเป็นสถิติมา
ในบทความที่เผยแพร่ใน Astrophysical Journal Letters พวกเขาเน้นกาแลคซีทั้งสอง
และยังแสดงตัวอย่างกาแลคซีมีคานกลางอื่นๆ อีก 4 แห่งจากเมื่อกว่า 8 พันล้านปีก่อน
Yuchen “Kay” Guo
นักศึกษาปริญญาโทซึ่งนำทีมวิเคราะห์
กล่าวว่า สำหรับการศึกษานี้ เราได้มองหาหนทางใหม่ๆ
ที่ไม่มีใครเคยใช้ข้อมูลในแบบนี้ หรือทำการวิเคราะห์ในเชิงปริมาณแบบนี้มาก่อน
ดังนั้นทุกๆ อย่างจึงเป็นเรื่องใหม่ ก็เหมือนกับการเดินป่าที่ไม่มีใครเคยเข้าไปมาก่อน
Eden Wise และ Zilei
Chen นักศึกษาปริญญาตรีสองคนก็มีบทบาทสำคัญในงานวิจัยโดยการแยกแยะกาแลคซีหลายร้อยแห่งด้วยสายตา
เพื่อหากาแลคซีที่ดูเหมือนจะมีคานกลาง ช่วยสร้างบัญชีรายชื่อให้นักวิจัยคนอื่นๆ
ได้วิเคราะห์ทางคณิตศาสตร์
คานกลางในกาแลคซีแสดงบทบาทสำคัญในวิวัฒนาการกาแลคซี
โดยการหมุนฟั่นก๊าซเข้าสุ่พื้นที่ใจกลาง เพิ่มการก่อตัวดาวให้สูงขึ้น
คานกลางช่วยแก้ปัญหาวัตถุดิบขาดแคลนในกาแลคซี Jogee กล่าว ก็เหมือนกับที่เราต้องการวัตถุดิบใหม่ๆ
จากท่าเรือเข้าสู่โรงงานบนแผ่นดินเพื่อสร้างผลิตผลใหม่ คานกลางเองก็นำส่งก๊าซเข้าสู่พื้นที่ใจกลางอย่างมีประสิทธิภาพ
ที่นั่นก๊าซจะถูกเปลี่ยนเป็นดาวฤกษ์ใหม่ๆ อย่างรวดเร็วในอัตรา 10 ถึง 100 เท่าของส่วนที่เหลือในกาแลคซี
คานกลางยังช่วยในการเลี้ยงดูหลุมดำมวลมหาศาล(supermassive black holes) ในใจกลางกาแลคซี โดยการหมุนฟั่นก๊าซบางส่วนไปที่หลุมดำ
การค้นพบคานกลางในช่วงยุคต้นๆ จึงสั่นสะเทือนลำดับเหตุการณ์วิวัฒนาการกาแลคซีในหลายทาง การค้นพบคานกลางจากยุคต้นของเอกภพหมายความว่า ตอนนี้แบบจำลองวิวัฒนาการกาแลคซีมีเส้นทางใหม่ผ่านคานกลางเพื่อเร่งการสร้างดาวใหม่ๆ ในยุคต้นของเอกภพ Jogee กล่าว และการมีอยู่ของคานกลางในยุคต้นๆ เหล่านั้นก็ท้าทายแบบจำลองทฤษฎีเมื่อต้องระบุรูปร่างของกาแลคซีให้ถูกต้อง เพื่อที่จะทำนายปริมาณของคานกลางให้ถูกต้องด้วย
กล้องเวบบ์สามารถเผยให้เห็นโครงสร้างในกาแลคซีที่ห่างไกลได้ดีกว่ากล้องฮับเบิล
ด้วยเหตุผล 2 ประการ
อย่างแรกคือ กระจกของเวบบ์ที่ใหญ่กว่าจึงมีความสามารถในการรวมแสงได้มากกว่า
ช่วยให้เห็นได้ไกลขึ้นและมีความละเอียดสูงขึ้น อย่างที่สองคือ
มันมองผ่านฝุ่นได้ดีกว่า
เมื่อสำรวจในช่วงความยาวคลื่นอินฟราเรดที่มากกว่าที่ฮับเบิลทำ
แหล่งข่าว scitechdaily.com
: James Webb Space Telescope looks back into the early universe, sees galaxies
like our Milky Way
iflscience.com : JWST
spots ancient galaxies that look just like the Milky Way
No comments:
Post a Comment