กาแลคซีแคระเมฆมาเจลลันใหญ่และเล็ก(Large and Small Magellanic Clouds) image credit: eso.org
เมื่อเวลาหลายพันล้านปี
ที่บริวารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดสองแห่งของทางช้างเผือก คือ เมฆมาเจลลันใหญ่และเล็ก
ได้เดินทางอย่างรวดเร็วผ่านห้วงอวกาศ
โคจรรอบกันและกันในขณะที่ก็ถูกฉีกทึ้งด้วยแรงโน้มถ่วงของทางช้างเผือกด้วย พวกมันได้เริ่มทิ้งเศษซากไว้ตามเส้นทาง
แต่นักดาราศาสตร์ก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่ากาแลคซีแคระทั้งสองยังคงเกาะตัวในสภาพดี
โดยมีการก่อตัวดาวอย่างบ้าคลั่ง
Dhanesh Krishnarao ผู้ช่วยศาสตราจารย์ที่วิทยาลัยโคโลราโด กล่าวว่า
ผู้คนมากมายต้องอับจนในการอธิบายว่ากระแสธารวัตถุดิบ(สำหรับการก่อตัวดาว) ไปอยู่ที่นั้นได้อย่างไร
ถ้าก๊าซนี้ถูกดึงออกจากกาแลคซีทั้งสอง ตามทฤษฎีแล้ว
การสูญเสียก๊าซก็ควรจะทำให้การก่อตัวดาวหยุดลง แล้วทำไมพวกมันจึงยังก่อตัวดาวอยู่ด้วยอัตราสูงได้
ด้วยความช่วยเหลือจากข้อมูลของกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลและดาวเทียมที่ปลดเกษียณแล้ว
FUSE(Far Ultraviolet Spectroscopic Explorer) ทีมนักดาราศาสตร์ที่นำโดย Krishnarao ก็หาคำตอบได้ในที่สุด ว่า
ระบบมาเจลลันนั้นล้อมรอบด้วยโคโรนา(corona) ซึ่งเป็นโล่ก๊าซมีประจุยิ่งยวดที่ร้อนอุณหภูมิเกิน
1 แสนเคลวิน
ป้องกันไว้ ก้อนก๊าซนี้ปกป้องกาแลคซีทั้งสอง ป้องกันไม่ให้แหล่งก๊าซของพวกมันถูกทางช้างเผือกดึงออกไป
และจึงช่วยให้พวกมันยังก่อตัวดาวใหม่ๆ ต่อไปได้
การค้นพบซึ่งเผยแพร่ใน Nature ฉบับวันที่ 28 กันยายน ส่งผลต่อวิวัฒนาการกาแลคซี Andrew
Fox ผู้นำทีมร่วมจากสถาบันวิทยาศาสตร์กล้องโทรทรรศน์อวกาศ
ในบัลติมอร์ มารีแลนด์ กล่าวว่า กาแลคซีห่อหุ้มตัวพวกมันเองไว้ในรังก๊าซ
ซึ่งทำหน้าที่เป็นโล่ป้องกันกาแลคซีแห่งอื่นๆ
นักดาราศาสตร์ทำนายการมีอยู่ของโล่นี้ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน Elena
D’Onghia ผู้นำทีมร่วมจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-เมดิสัน อธิบายว่า เราได้พบว่าถ้าเรารวมโคโรนานี้ไว้ในแบบจำลองเสมือนจริงเมฆมาเจลลันทั้งสอง
ที่มุ่งหน้าเข้ามาหาทางช้างเผือก
เราก็จะสามารถอธิบายมวลของก๊าซที่ถูกดึงออกมาได้เป็นครั้งแรก
เราทราบว่าเมฆมาเจลลันใหญ่น่าจะมีขนาดใหญ่มากพอที่จะมีโคโรนา
แต่แม้ว่าโคโรนาจะแผ่ออกไปกว้างกว่า 1
แสนปีแสงจากเมฆทั้งสอง
และครอบคลุมพื้นที่ขนาดมหึมาบนซีกฟ้าใต้ แต่กลับมองไม่เห็น
การทำแผนที่ก๊าซต้องใช้เวลาขุดคุ้ยข้อมูลในคลัง 30 ปี เพื่อค้นหาการตรวจสอบที่เหมาะสม
นักวิจัยคิดว่าโคโรนาของกาแลคซี
เป็นซากของเมฆก๊าซดึกดำบรรพ์ที่ยุบตัวและก่อตัวเป็นกาแลคซีเมื่อหลายพันล้านปีก่อน
แม้ว่าจะเคยพบเห็นโคโรนารอบกาแลคซีแคระที่อยู่ห่างไกลกว่า
แต่นักดาราศาสตร์ก็ไม่เคยจะตรวจสอบโคโรนาได้ด้วยรายละเอียดเช่นนี้
มีการทำนายมากมายจากแบบจำลองเสมือนจริงคอมพิวเตอร์ว่าพวกมันน่าจะมีหน้าตาอย่างไร,
มันจะมีปฏิสัมพันธ์ตลอดเวลาหลายพันล้านปีอย่างไร แต่จากการสำรวจ
เราไม่สามารถทดสอบการทำนายเกือบทั้งหมดได้เลยเนื่องจากโดยปกติแล้ว
กาแลคซีแคระก็ตรวจจับได้ยากมากอยู่แล้ว Krishnarao กล่าว แต่เนื่องจากเมฆมาเจลลันทั้งสอง
อยู่ใกล้แค่เอื้อม
จึงเป็นโอกาสอันล้ำค่าที่จะศึกษาว่ากาแลคซีแคระมีปฏิสัมพันธ์และพัฒนาไปอย่างไร
ในการสำรวจหาหลักฐานของโคโรนารอบเมฆมาเจลลันโดยตรง
ทีมได้กลั่นกรองคลังการสำรวจเควซาร์ที่อยู่ห่างไปหลายพันล้านปีแสงในช่วงอุลตราไวโอเลตจากกล้องฮับเบิลและ
FUSE เควซาร์(quasar)
เป็นแกนกลางที่สว่างอย่างรุนแรงของกาแลคซี
ที่มีหลุมดำขนาดใหญ่ที่เปี่ยมด้วยกิจกรรมอยู่
ทีมให้เหตุผลว่าแม้ว่าโคโรนาจะมืดเกินกว่าจะมองเห็นได้โดยตรง
แต่ก็น่าจะเห็นได้เหมือนเป็นกลุ่มหมอกที่ปิดกั้นและดูดกลืนแสงสว่างจากเควซาร์ที่พื้นหลังในรูปแบบที่จำเพาะ
ในอดีต
ใช้การสำรวจเควซาร์ของฮับเบิลเพื่อทำแผนที่โคโรนาที่ล้อมรอบกาแลคซีอันโดรเมดา(Andromeda
galaxy) ด้วยการวิเคราะห์รูปแบบในแสงยูวีจากเควซาร์
28 แห่ง
ทีมก็สามารถตรวจจับและแยกแยะคุณลักษณะของวัสดุสารที่ล้อมรอบเมฆมาเจลลันใหญ่
และยืนยันได้ว่าโคโรนามีอยู่จริง และตามที่ทำนายไว้
สเปคตรัมของเควซาร์ก็มีร่องรอยเอกลักษณ์ของคาร์บอน, ออกซิเจน และซิลิกอน ซึ่งเป็นองค์ประกอบในกลดพลาสมาร้อนที่ล้อมรอบเมฆมาเจลลันใหญ่
ความสามารถในการตรวจจับโคโรนาต้องการสเปคตรัมอุลตราไวโอเลตที่มีรายละเอียดสูงมาก
ความละเอียดของฮับเบิลและ FUSE จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อการศึกษานี้
Krishnarao อธิบาย
ก๊าซในโคโรนานั้นเบาบางมากๆ นอกจากนี้ ยังผสมรวมกับก๊าซอื่นๆ
ซึ่งรวมถึงกระแสก๊าซที่ถูกดึงออกจากเมฆมาเจลลันทั้งสอง
และวัสดุสารที่มีกำเนิดจากทางช้างเผือกเอง
จากการทำแผนที่
ทีมยังพบว่าปริมาณก๊าซลดลงตามระยะทางจากใจกลางเมฆมาเจลลันใหญ่ นี่เป็นสัญญาณร่องรอยที่ดีเยี่ยมว่า
โคโรนานี้มีอยู่ที่นั้นจริง Krishnarao กล่าว
มันกำลังห่อหุ้มรอบกาแลคซี ปกป้องมันไว้
แล้วเมฆก๊าซที่เบาบางอย่างนั้นปกป้องกาแลคซีจากการทำลายได้อย่างไร? สิ่งใดๆ ที่พยายามจะผ่านเข้าไปที่กาแลคซี
จำต้องผ่านวัสดุสารนี้ก่อน ดังนั้นมันจึงดูดซับผลกระทบบางส่วนไว้ก่อน Krishnarao
อธิบาย นอกจากนี้
โคโรนาเป็นวัสดุสารที่จะถูกกัดกร่อนก่อน ในขณะที่อาจจะดึงโคโรนาออกไปได้
แต่คุณก็ยังปกป้องก๊าซที่มีภายในกาแลคซีและสร้างดาวใหม่ๆ ได้
แหล่งข่าว hubblesite.org
: Hubble detects protective shield defending a pair of dwarf galaxies
space.com : Hubble space
telescope spots protective shield against greedy Milky Way
No comments:
Post a Comment