เนบิวลาที่เกิดจากซุปเปอร์โนวาชนิดหนึ่งเอ
และนี่ก็เป็นเพียงครั้งที่สองเท่านั้นที่นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์ได้เห็นแสงวาบอุลตราไวโอเลตที่เกี่ยวข้องกับการระเบิดของดาวแคระขาวดวงหนึ่ง
ซุปเปอร์โนวาชนิดที่พบได้ยากมากๆ
ได้ให้แง่มุมสู่ปริศนาที่อยู่มายาวนานหลายอย่าง ซึ่งรวมถึง
อะไรเป็นสาเหตุให้ดาวแคระขาวระเบิด,
พลังงานมืดทำให้เอกภพขยายตัวเร็วขึ้นได้อย่างไร และเอกภพสร้างโลหะหนักอย่างเช่น
เหล็ก ได้อย่างไร Adam Miller นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์มหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น
ซึ่งนำทีมวิจัยนี้ กล่าวว่า แสงวาบยูวีกำลังบอกเราถึงบางสิ่งที่พิเศษมากๆ
เกี่ยวกับว่าดาวแคระขาวดวงนี้ระเบิดอย่างไร เมื่อเวลาผ่านไป
วัสดุสารจากการระเบิดเคลื่อนที่ออกไปไกลจากแหล่ง เมื่อวัสดุสารนี้เบาบางลง
เราก็จะเห็นได้ลึกขึ้นเรื่อยๆ หลังจากราวหนึ่งปี
วัสดุสารก็จะเบาบางอย่างมากจนเราจะได้เห็นจนถึงใจกลางของการระเบิด
และที่จุดนั้น Miller บอกว่าทีมของเขาจะได้ทราบว่าดาวแคระขาวดวงนี้
และดาวแคระขาวทั้งหมดซึ่งเป็นซากหนาแน่นสูงของดาวฤกษ์ที่ตายแล้ว
ระเบิดได้อย่างไรได้ดีขึ้น รายงานเผยแพร่ใน Astrophysical Journal วันที่ 23 กรกฎาคม
ภาพรวมประกอบจุดสีฟ้าคือ SN 2019vyq ในกาแลคซีที่ค่อนข้างใกล้เพียง 140 ล้านปีแสงจากโลก
ด้วยการใช้ Zwicky Transient
Facility ในคาลิฟอร์เนีย
นักวิจัยได้พบซุปเปอร์โนวาประหลาดนี้ครั้งแรกในวันที่ 28 ธันวาคม 2019 หลังการระเบิดเกิดขึ้นเพียงวันเดียว
เหตุการณ์ซึ่งเรียกว่า SN 2019yvq เกิดขึ้นในกาแลคซีที่ค่อนข้างใกล้ด้วยระยะทางประมาณ
140 ล้านปีแสงจากโลก
ใกล้กับปลายหางของมังกรจากกลุ่มดาวมังกร(Draco) อย่างมาก ภายในไม่กี่ชั่วโมง
นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์ได้ใช้ดาวเทียมสวิฟท์ของนาซาเพื่อศึกษาปรากฎการณ์ประหลาดนี้ในช่วงอุลตราไวโอเลตและรังสีเอกซ์
พวกเขาก็จำแนกได้ทันทีว่า SN2019vyq เป็นซุปเปอร์โนวาชนิดหนึ่งเอ(Type
Ia supernovae) ซึ่งเป็นเหตุการณ์การระเบิดของดาวแคระขาวดวงหนึ่งที่พบได้ค่อนข้างบ่อย
พวกมันเป็นการระเบิดที่พบได้มากที่สุดในเอกภพ Miller กล่าว แต่สิ่งที่พิเศษก็คือแสงวาบยูวีนี้
นักดาราศาสตร์ได้สืบหามันมานานหลายปีและไม่เคยพบเลย ตามความรับรู้ของเราแล้ว จริงๆ
แล้วนี่เป็นเพียงครั้งที่สองเท่านั้นที่ได้เห็นแสงวาบยูวีจากซุปเปอร์โนวาหนึ่งเอ
แสงวาบนี้ซึ่งคงอยู่หลายวัน
บ่งชี้ว่ามีบางสิ่งภายในหรือใกล้ๆ ดาวแคระขาวที่ร้อนจัดมาก
เนื่องจากดาวแคระขาวจะเย็นตัวลงเรื่อยๆ เมื่อพวกมันมีอายุมากขึ้น
ความร้อนสูงจึงสร้างปัญหาให้กับนักดาราศาสตร์
หนทางที่ง่ายที่สุดที่จะสร้างแสงวาบยูวีก็คือ มีบางสิ่งที่ร้อนจัดมากๆ อยู่ Miller
กล่าว
เราต้องการบางสิ่งที่ร้อนยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ ประมาณสามหรือสี่เท่า
ซุปเปอร์โนวาเกือบทั้งหมดไม่ได้ร้อนขนาดนั้น ดังนั้นคุณจะไม่เห็นการแผ่รังสียูวีที่รุนแรง
จึงมีสิ่งที่ไม่ปกติเกิดขึ้นกับซุปเปอร์โนวานี้ ซึ่งได้สร้างความร้อนสูงมากๆ
Miller และทีมเชื่อว่านี่เป็นเงื่อนงำสำคัญเพื่อให้เข้าใจว่าเพราะเหตุใดดาวแคระขาวจึงระเบิด
ซึ่งก็เป็นปริศนาที่มีมายาวนานในแขนงวิชานี้ ในตอนนี้ มีสมมุติฐานมากมาย Miller
ให้ความสนใจเป็นพิเศษในการศึกษาสมมุติฐานที่แตกต่างกัน
4 งาน
ซึ่งสอดคล้องกับการวิเคราะห์ข้อมูล SN 2019vyq ของทีม
ลำดับเหตุการณ์ที่อาจเป็นสาเหตุให้ดาวแคระขาวระเบิดโดยสร้างแสงวาบยูวีขึ้นมา
1. 1 ดาวแคระขาวได้กลืนดาวข้างเคียงของมันไปอย่างรวดเร็วจนมีขนาดใหญ่ขึ้นและไม่เสถียรจนมันระเบิด
วัสดุสารของดาวแคระขาวที่ระเบิดและดาวข้างเคียงชนกัน เป็นสาเหตุให้เกิดการเปล่งแสงวาบยูวีออกมา
2. 2 วัสดุสารกัมมันตรังสีที่ร้อนจัดในแกนกลางดาวแคระขาวผสมรวมกับชั้นก๊าซส่วนนอกๆ
ของมัน เป็นสาเหตุให้เปลือกส่วนนอกๆ มีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ
3. 3 เปลือกชั้นนอกที่เป็นฮีเลียมเกิดการระเบิดขึ้นก่อน
ทำให้คาร์บอนที่อยู่ภายในดาวแคระขาวเกิดการเผาไหม้ตาม
เป็นสาเหตุให้เกิดการระเบิดซ้อนสองที่ร้อนจัดมากๆ และแสงวาบยูวี
4. 4 ดาวแคระขาว
2 ดวงควบรวมกัน
เป็นสาเหตุให้เกิดการระเบิดโดยวัสดุสารที่สาดออกมาชนกันเปล่งยูวีขึ้นมา
ภายในหนึ่งปีนี้
เราก็จะสามารถบอกได้ว่าอันใดในสี่นี้ที่เป็นคำอธิบายที่เป็นไปได้มากที่สุด Miller
กล่าว
เมื่อนักวิจัยทราบว่าอะไรทำให้เกิดการระเบิด
พวกเขาก็จะปรับใช้การค้นพบเหล่านั้นเพื่อเรียนรู้ให้มากขึ้นเกี่ยวกับการก่อตัวดาวเคราะห์และพลังงานมืด
เนื่องจากเหล็กเกือบทั้งหมดในเอกภพถูกสร้างขึ้นในซุปเปอร์โนวาหนึ่งเอ
การเข้าใจปรากฏการณ์ประหลาดนี้ให้ดีขึ้นก็น่าจะบอกเราได้มากขึ้นเกี่ยวกับดาวเคราะห์ของเราเอง
ยกตัวอย่างเช่น เหล็กจากดาวที่ระเบิดก่อตัวเป็นแกนกลางของดาวเคราะห์หินทุกดวง
รวมทั้งโลกด้วย ถ้าคุณอยากจะเข้าใจว่าโลกก่อตัวได้อย่างไร
คุณต้องเข้าใจว่าเหล็กมาจากไหนและต้องใช้เหล็กเท่าไหร่ Miller กล่าว
การเข้าใจวิธีที่ดาวแคระขาวระเบิดช่วยให้เรามีความเข้าใจที่แม่นยำมากขึ้นว่าเหล็กถูกสร้างและกระจายออกทั่วเอกภพได้อย่างไร
ดาวแคระขาวยังแสดงบทบาทสำคัญในความเข้าใจพลังงานมืดของนักฟิสิกส์ด้วย
นักฟิสิกส์ทำนายว่าดาวแคระขาวทั้งหมดมีความสว่างใกล้เคียงกันเมื่อพวกมันระเบิด
ดังนั้น ซุปเปอร์โนวาหนึ่งเอจึงถูกใช้เป็นเทียนมาตรฐาน ช่วยให้นักดาราศาสตร์คำนวณว่าการระเบิดเกิดขึ้นไกลจากโลกแค่ไหน
การใช้ซุปเปอร์โนวาเพื่อตรวจสอบระยะทางนำไปสู่การค้นพบพลังงานมืด
เป็นการค้นพบที่ได้รับรางวัลโนเบล สาขาฟิสิกส์ในปี 2011
เราไม่มีวิธีตรงไปตรงมาเพื่อตรวจสอบระยะทางสู่กาแลคซีแห่งอื่นๆ
Miller อธิบาย
กาแลคซีเกือบทุกแห่งนั้นกำลังเคลื่อนที่ออกห่างจากเรา ถ้ามีซุปเปอร์โนวาหนึ่งเอเกิดขึ้นในกาแลคซีที่ห่างไกลสักแห่ง
เราก็สามารถใช้มันเพื่อตรวจสอบทั้งระยะทางและความเร็ว
ที่ช่วยให้เราได้ตรวจสอบอัตราเร่งของเอกภพ พลังงานมืดยังคงเป็นปริศนา
แต่ซุปเปอร์โนวาเหล่านี้เป็นหนทางที่ดีที่สุดเพื่อตรวจสอบพลังงานมืดและเข้าใจว่ามันคืออะไร
และด้วยความเข้าใจดาวแคระขาวที่ดีขึ้น Miller
เชื่อว่าเราน่าจะเข้าใจพลังงานมืดและบอกได้ว่ามันทำให้เอกภพขยายตัวด้วยความเร่งได้เร็วแค่ไหน
ในตอนนี้ เมื่อตรวจสอบระยะทาง เราจะทำเหมือนการระเบิดเหล่านี้เป็นเหมือนกันหมด
เพราะเรายังไม่มีเหตุผลที่ดีพอที่จะเชื่อว่ามีกลไกการระเบิดหลายแบบ เขากล่าว
ถ้าเราสามารถตรวจสอบกลไกการระเบิดที่แน่ชัดได้
เราคิดว่าเราจะแยกแยะซุปเปอร์โนวาได้ดีขึ้น
และทำการตรวจสอบระยะทางได้แม่นยำมากขึ้น
แหล่งข่าว spaceref.com
: spectacular ultraviolet flash may finally explain how white dwarfs explode
sciencealert.com :
for only the second time, astronomers detect a strange flash of light during
supernova
No comments:
Post a Comment