ภาพจากศิลปินแสดงสภาพ HFLS3 อย่างที่น่าจะเป็น
เมื่อมองย้อนไปในอดีต
สายตาอันคมกริบของกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์เวบบ์กำลังเผยให้เห็นรายละเอียดของโครงสร้างที่เก่าแก่ที่สุดบางส่วนในเอกภพ
ภาพที่เคยขยุกขยุย ก็กลับคมชัดด้วยความละเอียดสูงสุดของกล้อง
ภาพหนึ่งที่ถูกตรวจสอบซ้ำอีกซึ่งเป็นกาแลคซีโบราณแห่งหนึ่งที่ทำให้นักดาราศาสตร์หลายคนต้องปวดหัว
เวบบ์ได้เผยให้เห็นว่ากาแลคซีโดดๆ นี้แท้จริงแล้วเป็นกาแลคซี 6 แห่งที่ชนกันกลายเป็นก้อนที่มีดาวที่เพิ่งเกิดใหม่อย่างท่วมท้น
ในปี 2013 นักดาราศาสตร์ที่ใช้ข้อมูลจากหอสังเกตการณ์อวกาศเฮอร์เชลได้ตรวจสอบกาแลคซีที่กำลังก่อตัวขึ้นย้อนเวลาไปไกลที่สุดเท่าที่เคยพบ
มันเต็มไปด้วยดาวใหม่ๆ ระยิบระยับเมื่อเอกภพมีอายุเพียง 850 ล้านปีเท่านั้น การมีอยู่ของวัตถุที่เรียกว่า HFLS3
ได้ท้าทายทฤษฎีว่ากาแลคซีจะเจริญเติบโตได้เร็วแค่ไหน
โรงงานดาวขนาดมหึมาแห่งนี้สร้างดาวใหม่ๆ ด้วยอัตราสูงกว่าในทางช้างเผือกถึง 2000
เท่า แม้ว่ากาแลคซีทั้งสองจะมีมวลที่ใกล้เคียงกัน
เอกภพในช่วงเยาว์วัย
นักดาราศาสตร์เชื่อว่ากาแลคซีไม่น่าจะขนาดใหญ่ได้อย่างนี้ และมีอัตราการสร้างดาวสูงขนาดนี้
มีหลายทีมที่พยายามถ่ายภาพกาแลคซีซ้ำอีกโดยใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลและกล้องโทรทรรศน์ภาคพื้นดินอีกหลายแห่ง
แต่ภาพที่ได้ก็บอกใบ้ถึงสัญญาณแหล่งที่อยู่ใกล้อย่างหยาบๆ
ซึ่งอาจได้รับอิทธิพลจากเลนส์ความโน้มถ่วง เมื่อวัตถุมวลสูงที่อยู่ใกล้เรามากกว่า
ได้บิดและขยายแสงจากวัตถุที่อยู่ห่างไกลเบื้องหลังมัน
ขณะนี้ ด้วยข้อมูลใหม่
นักวิทยาศาสตร์ได้เสนอว่า HFLS3 ไม่ได้เป็นกาแลคซีที่ก่อตัวดาวอย่างคึกคักมาก(starburst
galaxy) ขนาดยักษ์เพียงแห่งเดียวแต่อย่างใด
กาแลคซีแห่งนี้แท้จริงแล้วเป็นระบบกาแลคซีที่กำลังมีปฏิสัมพันธ์กันในเอกภพยุคต้น Gareth
Jones ผู้นำทีมจากมหาวิทยาลัยออกฟอร์ด
กล่าว ซึ่งยังคงสว่างเจิดจ้ามากและก่อตัวดาวคึกคักมา กเป็นทั้งระบบแทนที่จะเป็นแหล่งเพียงแห่งเดียว
การสำรวจครั้งใหม่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ JWST
งานหนึ่งที่เรียกว่า Galaxy
Assembly with NIRSpec Integral Field Spectroscopy ทีมความร่วมมือนี้เล็งไปที่กาแลคซีมวลสูงและอยู่ห่างไกลที่สุด
40 แห่ง
เพื่อดูให้เห็นวัตถุที่เล็กที่สุดในห้วงอวกาศรอบๆ พวกมันในรายละเอียดสูงสุด
หน่วยวัดแสง- Integral
Field Unit ของสเปคโตรกราฟนี้ตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบ
HFLS3 ในเดือนกันยายน
2022
ทีมซึ่งนำโดย Jones ได้ถ่ายภาพชุดซึ่งแสดงความสว่างในหลายช่วงความยาวคลื่นและหลายพื้นที่การมอง
จากนั้นก็วิเคราะห์การเคลื่อนที่และความร้อนของก๊าซในกาแลคซี
และทำแบบจำลองว่าเลนส์ความโน้มถ่วงน่าจะส่งผลต่อแสงมากอย่างไร เมื่อทำเช่นนี้
ก็สามารถสร้างภาพของ HFLS3 คืนกลับมาได้อย่างเที่ยงตรงมากขึ้น
Jones คาดว่าจะได้เห็นการเคลื่อนที่ของก๊าซปกติอย่างที่พบเห็นในกาแลคซียุคต้นที่คล้ายๆ
กัน แต่แทนที่จะเป็นการหมุนเวียนระบบเดียว
เราเพิ่งจะได้เห็นกาแลคซีขนาดเล็กจำนวนหนึ่ง
จากการวิเคราะห์ HFLS3 นั้น ในอวกาศที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางเพียง 36000
ปีแสง ประกอบด้วยกาแลคซีขนาดเล็กที่กำลังมีปฏิสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกัน
3 คู่
โดยมีเพียงหนึ่งในสามคู่เท่านั้นที่ถูกขยายแสงโดยกาแลคซีที่พื้นหน้าสองแหล่ง
จากพื้นที่ที่มีความหนาแน่นสูงมากเหล่านี้นักวิทยาศาสตร์บอกว่าระบบหกวัตถุนี้กำลังชนกัน
ทำให้เกิดคลื่นการก่อตัวดาวใหม่ๆ ขึ้นมา การชนน่าจะเกิดขึ้นภายในหนึ่งพันล้านปีจากการสำรวจนี้
การสำรวจติดตามผลงานหนึ่งเมื่อเกือบหนึ่งทศวรรษก่อนได้แสดงให้เห็นการเปล่งคลื่นที่สว่างจ้ารอบๆ
HFLS3 นี่ทำให้ Dominik
Riechers จากมหาวิทยาลัยโคโลญน์
เจอรมนี ซึ่งนำทีมค้นพบในปี 2013 ด้วยเฮอร์เชลที่มีความละเอียดต่ำกว่า
เอ่ยถึงความเป็นไปที่จะมีการควบรวมกับเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ตาม
เขาตระหนักว่ากล้องโทรทรรศน์ที่มีในเวลานั้นไม่ได้มีความสามารถมากพอที่จะเปิดเผยธรรมชาติที่แท้จริงของปฏิสัมพันธ์เหล่านั้นได้
เราสงสัยว่านี่อาจเป็นกาแลคซีที่เกี่ยวข้องกับการก่อตัวดาวอย่างคึกคัก
แต่กล้องเวบบ์ได้แสดงอย่างชัดเจนโดยการตรวจสอบระยะทางและขนาดของระบบคู่หูมะรุมมะตุ้มเหล่านี้อย่างแม่นยำ
Riechers ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการศึกษาใหม่นี้
กล่าว
เขายังให้ความเห็นว่า Jones และทีมน่าจะตรวจสอบว่าเรากำลังได้เห็นเพียงผลจากเลนส์ความโน้มถ่วงแบบอ่อนจากกระจุกนี้เท่านั้น
นี่พิสูจน์ว่า HFLS3 แท้จริงแล้วมีขนาดใหญ่และเต็มไปด้วยดาวใหม่ๆ
ที่สว่างร้อน ไม่ใช่ระบบขนาดเล็กที่ถูกขยายแสงรุนแรง
นักวิทยาศาสตร์อาจมองว่า HFLS3 เป็นกลุ่มของกาแลคซีที่พัวพันกันในเส้นใยซึ่งมีการก่อตัวดาว
นี่จะช่วยให้มั่นใจได้ว่ายังสอดคล้องกับทฤษฎีการก่อตัวกาแลคซีปัจจุบัน Kenneth
Duncan จากมหาวิทยาลัยเอดินเบอระ
ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการศึกษานี้บอกว่า ถ้า HFLS3 เป็นกาแลคซีมหึมา
นักดาราศาสตร์ก็ต้องปรับแต่งทฤษฎี
จากการสำรวจใหม่นี้ซึ่งยืนยันว่าแท้จริงแล้วมันเป็นกลุ่มของกาแลคซีที่กำลังมีการควบรวมอย่างต่อเนื่อง
ช่วยสนับสนุนภาพว่าการควบรวมมีบทบาทยิ่งยวดในการสั่งสมตัวของกาแลคซี
แต่กระนั้น Duncan ก็ยังให้ความเห็นว่า สิ่งที่น่าประหลาดใจจริงๆ
ก็คือมันเป็นระบบที่ยุ่งเหยิงและซับซ้อนอย่างนั้นได้อย่างไร
แหล่งข่าว skyandtelescope.com
: JWST reveals distant “galaxy” is six-way galactic crash
sciencealert.com :
oversized ancient galaxy isn’t what astronomers first thought
No comments:
Post a Comment