ทีมนักวิทยาศาสตร์อวกาศได้พบดาวแคระขาวดวงหนึ่งที่ดูเหมือนจะอยู่ในช่วงเริ่มต้นที่จะตกผลึกกลายเป็นเพชรเม็ดเขื่องในอวกาศ
ทีมที่ประกอบด้วย Alexander Venner,
Simon Blouin, Antoine Bedard และ Andrew
Vanderberg จากมหาวิทยาลัยเซาเธิร์นควีนสแลนด์,
มหาวิทยาลัยวิคตอเรีย, มหาวิทยาลัยวอร์วิค
และสถาบันคัฟลีเพื่อดาราศาสตร์ฟิสิกส์และการวิจัยอวกาศ
รายงานการค้นพบในบทความที่เผยแพร่ใน Monthly Notices of the Royal
Astronomical Society
งานวิจัยก่อนหน้านี้ได้แสดงว่าเมื่อดาวฤกษ์ดวงหนึ่งเริ่มขาดแคลนเชื้อเพลิง
มันจะยุบตัวลง บ่อยครั้งที่ยุบตัวจนกลายเป็นดาวแคระขาว ซึ่งเมื่อเป็นกรณีนี้
มันจะมีความหนาแน่นสูงขึ้น โดยมีแรงต้านทานการยุบตัวจากสิ่งที่เรียกว่า
แรงดันอิเลคตรอนเสื่อมถอย(electron degeneracy pressure)
และถ้าดาวฤกษ์ดังกล่าวเป็นออกซิเจนและคาร์บอนเกือบล้วนๆ แกนกลางของมันก็น่าจะกลายเป็นเพชรเม็ดมหึมา
แน่นอนว่าดาวดังกล่าวจะต้องค่อนข้างมืด และยังคงสว่างได้จากความร้อนที่เหลืออยู่
เมื่อเวลาผ่านไป ดาวแคระขาวจะเย็นตัวลงและคาดว่าจะพัฒนากลายเป็นบางสิ่งที่เรียกว่า
ดาวแคระดำ(black dwarf stars) เมื่อสูญเสียความร้อนทั้งหมดไปและกลายเป็นก้อนผลึกคาร์บอนที่เย็นเยือก(เพชร)
ภาพกราฟฟิคแสดงเส้นทางวิวัฒนาการของดาว โดยแบ่งเป็นดาวฤกษ์มวลต่ำและมวลใกล้เคียงกับดวงอาทิตย์ และดาวฤกษ์มวลสูง
อย่างไรก็ตาม
นักวิทยาศาสตร์ไม่เชื่อว่าจะมีดาวใดๆ ที่ตกผลึกเต็มที่จนกลายเป็นเพชรทั้งหมด
เนื่องจากการคำนวณทางคณิตศาสตร์บอกว่าดาวน่าจะใช้เวลาในระดับถึง 1 พันล้านล้านปี(quadrillion) ในขณะที่เอกภพเพิ่งมีอายุเพียง 13.8 พันล้านปีเท่านั้น
ดาวเหล่านั้นจึงน่าจะยังอยู่แค่ช่วงที่แกนกลางเริ่มต้นการแปรสภาพ ในความพยายามใหม่
นักวิจัยเชื่อว่าพวกเขาอาจจะได้พบดาวที่อยู่ในช่วงเริ่มเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว
ดาวแคระขาวดวงนี้ซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 104
ปีแสง ประกอบด้วยออกซิเจนโลหะเกือบทั้งหมด
และเป็นส่วนหนึ่งในระบบจตุดารา HD 190412 นักวิจัยบอกว่าดาวแคระขาวดวงนี้ซึ่งมีชื่อว่า
HD 190412C ดูคล้ายกับซิริอุส(Sirius)
อยู่ไม่น้อย เมื่อมันอยู่ร่วมกับดาวข้างเคียงที่ยังเป็นวิถีหลัก(main-sequence
stars) อีกสามดวง
จึงสามารถระบุอายุดาวแคระขาวได้อย่างชัดเจน
งานของทีมมุ่งเป้าไปที่การตรวจสอบความล่าช้าในการเย็นตัวลงในดาวแคระขาวอันเนื่องจากกระบวนการตกผลึก
ในระหว่างการตกผลึก(เย็นตัวลง)
อะตอมคาร์บอนและออกซิเจนภายในดาวแคระขาวจะหยุดเคลื่อนที่ไปรอบๆ อย่างเป็นอิสระ
และเริ่มก่อพันธะ เรียงตัวเป็นโครงผลึก จะมีการปล่อยพลังงานออกมาในกระบวนการนี้ซึ่งกระจายออกมาในรูปของความร้อน
ความร้อนนี้จะทำให้การเย็นตัวของดาวแคระขาวช้าลง
ด้วยอัตราที่ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของมัน
ซึ่งก็จะส่งผลต่อความสว่างของดาวและสีของมันด้วย
โดยมันจะปรากฏเหมือนอายุน้อยกว่าที่ควรจะเป็น
ซึ่งเป็นสิ่งที่นักวิจัยใช้ศึกษา
ด้วยการระบุคุณสมบัติเหล่านั้นและคำนวณระยะทางอย่างแม่นยำโดยปฏิบัติการไกอา
จากการใช้คุณสมบัติของระบบพหุดารา HD 190412 ทีมก็สามารถคำนวณว่าดาวมีอายุเท่าใด กำลังสูญเสียความร้อนไปมากแค่ไหนแล้ว
ซึ่งก็แสดงว่ามันอยู่ในเส้นทางที่ใกล้จะกลายเป็นเพชรแค่ไหนแล้ว อายุของระบบนี้อยู่ที่ราว
7.3 พันล้านปี อุณหภูมิของดาวแคระขาวอยู่ที่
6300 องศาเซลเซียส
และจากองค์ประกอบของดาวอื่นๆ
ในระบบพหุดาราก็ตรวจสอบได้ว่าแกนกลางของดาวแคระขาวมีโลหะอยู่มากแค่ไหน
ซึ่งจะช่วยให้คำนวณอายุที่ราว 4.2 พันล้านปี
ช่วงห่าง 3.1 พันล้านปี
ได้บอกว่าการตกผลึกชะลออัตราการเย็นตัวลงของดาวแคระขาวไปราว 1 พันล้านปี
แต่ก็ยังไม่แน่ว่าดาวแคระขาวตกผลึกกลายเป็นเพชรจริงหรือไม่
แต่ความหนาแน่นของดาวแคระขาวก็สูงกว่า 1 ล้านกิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ในขณะที่ความหนาแน่นของเพชรอยุ่ที่ราว 3500 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ทีมวิจัยบอกว่าการค้นพบระบบ HD 190412 ได้เปิดเส้นทางใหม่สู่ความเข้าใจดาวแคระขาวที่กำลังตกผลึก
แหล่งข่าว phys.org
: a white dwarf’s journey to crystallizing into a celestial diamond
sciencealert.com : white
dwarf star enters its crystallization era, turning into a “cosmic diamond”
space.com : this
collapsed star is turning into an gigantic diamond before our eyes
No comments:
Post a Comment