ภาพจากศิลปินแสดง WASP-39b ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ก๊าซร้อน ขนาดใกล้เคียงกับดาวเสาร์(0.94 เท่ามวลดาวเสาร์) และมีขนาดกายภาพที่บวมพองมาก 1.3 เท่าเส้นผ่าศูนย์กลาง
กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์เวบบ์ได้สร้างประวัติศาสตร์ครั้งแรกของมันขึ้นอีกรายการ
เป็นการตรวจสอบองค์ประกอบโมเลกุลและเคมีที่มีในชั้นบรรยากาศพิภพที่ห่างไกลดวงหนึ่ง
ในขณะที่กล้องเวบบ์และกล้องโทรทรรศน์อวกาศอื่นๆ
ซึ่งรวมถึงกล้องฮับเบิลและสปิตเซอร์ เคยเผยให้เห็นองค์ประกอบในชั้นบรรยากาศดาวเคราะห์ที่เดือดพล่านดวงนี้มาก่อน
แต่การสำรวจครั้งใหม่จากเวบบ์ได้ให้บัญชีอะตอม,
โมเลกุลและแม้แต่ร่องรอยของปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นอย่างครบถ้วน
รวมทั้งร่องรอยของเมฆด้วย ข้อมูลล่าสุดยังให้เงื่อนงำว่าเมฆเหล่านี้เมื่อมองใกล้ๆ
จะมีสภาพอย่างไร กล่าวคือ แตกออกแทนที่จะเป็นผืนเดียวปกคลุมไปทั่วดาวเคราะห์
เครื่องมือที่มีความไวสูงบนเวบบ์จัดจ้องไปที่ชั้นบรรยากาศของ WASP-39b
ดาวเคราะห์ชนิดเสาร์ร้อน(hot
Saturn; ดาวเคราะห์ที่มีขนาดพอๆ
กับดาวเสาร์แต่อยู่ในวงโคจรประชิดมากกว่าดาวพุธ) ซึ่งโคจรรอบดาวฤกษ์ดวงหนึ่งที่มีขนาดเล็กกว่าดวงอาทิตย์เล็กน้อย
อยู่ห่างออกไปราว 700 ปีแสง ที่ระยะทาง
7 ล้านกิโลเมตร(หนึ่งในแปดส่วนวงโคจรดาวพุธ)
ด้วยคาบเพียง 4 วัน
การค้นพบนี้ตอกย้ำความสามารถของเครื่องมือบนเวบบ์ในการทำการสำรวจดาวเคราะห์นอกระบบได้ทุกชนิดได้ในช่วงกว้าง
เป็นความหวังของประชาคมวิทยาศาสตร์
ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์หินอย่างที่พบในระบบ TRAPPIST-1
ด้วย
เราสำรวจดาวเคราะห์นอกระบบดวงนี้ด้วยอุปกรณ์หลายชนิดซึ่งเมื่อทำงานร่วมกัน
จะให้สเปคตรัมอินฟราเรดที่กินความยาวคลื่นกว้างมาก และเผยให้เห็นร่องรอยทางเคมีที่เข้าไม่ถึงก่อนหน้านี้
Natalie Batalha นักดาราศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยคาลิฟอร์เนีย
ซานตาครูซ ซึ่งมีส่วนในการวิจัยใหม่และช่วยประสานงาน กล่าว
ข้อมูลแบบนี้เป็นตัวเปลี่ยนเกมส์เลย
การค้นพบเผยแพร่รายละเอียดเป็นรายงานวิทยาศาสตร์ชุด 5 ฉบับ สามในห้าได้แถลงออกมาแล้ว
และอีกสองที่เหลือก็อยู่ในการทบทวนโดยผู้รู้เสมอกัน ในบรรดาการค้นพบใหม่ๆ
ที่มีก็คือ การตรวจพบกำมะถันไดออกไซด์(SO2) ในชั้นบรรยากาศดาวเคราะห์นอกระบบได้เป็นครั้งแรก
ซึ่งเป็นโมเลกุลที่ถูกสร้างจากปฏิกริยาเคมีที่เหนี่ยวนำโดยแสงพลังงานสูงจากดาวฤกษ์แม่
บนโลก ชั้นโอโซนในชั้นบรรยากาศส่วนบนของโลกก็ถูกสร้างในแบบคล้ายๆ กันนี้
นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นหลักฐานแสดงการสังเคราะห์สารเคมีด้วยแสง(photochemistry)
อย่างชัดเจน
เป็นปฏิกิริยาเคมีที่เริ่มจากแสงดาวที่มีต่อดาวเคราะห์นอกระบบ Shang-Min
Tsai นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด
ในสหราชอาณาจักร
และผู้เขียนนำรายงานอธิบายกำเนิดของกำมะถันไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ WASP-39b
กล่าว
ผมมองว่านี่เป็นสิ่งที่ควรจะได้จากปฏิบัติการ
เพื่อขยับขยายความเข้าใจเกี่ยวกับชั้นบรรยากาศดาวเคราะห์นอกระบบ
การค้นพบนี้ยังนำไปสู่การค้นพบครั้งแรกอื่นอีก
เมื่อนักวิทยาศาสตร์ปรับใช้แบบจำลองคอมพิวเตอร์การสังเคราะห์เคมีด้วยแสง
กับข้อมูลที่ได้มา
การพัฒนาการทำแบบจำลองจะช่วยสร้างองค์ความรู้ทางเทคโนโลจีในการแปลสัญญาณความสามารถในการเอื้ออาศัยในอนาคต
ดาวเคราะห์ถูกสลักเสลาและแปรสภาพเมื่อโคจรภายในอ่างรังสีของดาวฤกษ์แม่ Batalha
กล่าว บนโลก
การแปรสภาพเหล่านั้นช่วยให้ชีวิตดำรงอยู่ได้
ดาวเคราะห์ซึ่งโคจรใกล้ดาวฤกษ์แม่อย่างมาก(ใกล้กว่าดาวพุธรอบดวงอาทิตย์แปดเท่า)
ยังทำให้มันกลายเป็นห้องทดลองเพื่อการศึกษาผลจากการแผ่รังสีจากดาวฤกษ์แม่ที่มีต่อดาวเคราะห์
ความรู้เกี่ยวกับความเชื่อมโยงดาวฤกษ์-ดาวเคราะห์ที่ดีขึ้นน่าจะนำไปสู่ความเข้าใจว่ากระบวนการเหล่านี้ส่งผลต่อความหลากหลายของดาวเคราะห์ที่พบในกาแลคซีอย่างไร
ให้ลึกขึ้น
เพื่อที่จะดูแสงจาก WASP-39b กล้องเวบบ์ต้องตามรอยดาวเคราะห์เมื่อมันผ่านหน้าดาวฤกษ์แม่
ทำให้แสงดาวฤกษ์บางส่วนถูกกรองและดูดกลืนในชั้นบรรยากาศดาวเคราะห์
สารเคมีในชั้นบรรยากาศที่ต่างชนิดกันจะดูดกลืนสเปคตรัมแสงดาวที่แตกต่างกัน
ดังนั้นสีที่หายไปจะบอกนักดาราศาสตร์ว่ามีโมเลกุลชนิดใดอยู่
ด้วยการมองเอกภพในแสงอินฟราเรด กล้องเวบบ์สามารถเก็บร่องรอยทางเคมีที่ไม่สามารถตรวจพบในช่วงตาเห็นได้
องค์ประกอบอื่นๆ ในชั้นบรรยากาศที่เวบบ์พบ
ยังรวมถึง โซเดียม, โพทัสเซียม และไอน้ำ
ยืนยันการสำรวจจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศและภาคพื้นดินก่อนหน้านี้
เช่นเดียวกับการพบร่องรอยของน้ำเพิ่มเติม ในช่วงความยาวคลื่นที่ยาวกว่า
ซึ่งไม่เคยพบเห็นมาก่อน เวบบ์ยังพบคาร์บอนไดออกไซด์ในความละเอียดที่สูงขึ้น
ให้ข้อมูลมากเป็นสองเท่าของที่เคยสำรวจไว้ก่อนหน้านี้
ในขณะเดียวกัน แม้จะพบคาร์บอนมอนอกไซด์ด้วย
แต่สัญญาณของทั้งมีเธนและไฮโดรเจนซัลไฟด์ที่พบก่อนหน้านี้ ก็ไม่พบในข้อมูลเวบบ์
ซึ่งถ้ามีโมเลกุลเหล่านั้นอยู่จริง ก็คงมีปริมาณที่ต่ำมากๆ
เพื่อที่จะเก็บสเปคตรัมชั้นบรรยากาศ WASP-39b
ครอบคลุมให้กว้าง ทีมนานาชาตินับหลายร้อยคนต่างก็แยกย้ายกันวิเคราะห์ข้อมูลจากรูปแบบการทำงานที่เทียบมาตรฐาน(calibrate)
แบบละเอียดเรียบร้อยแล้ว 4 โหมดจากเครื่องมือสามในสี่ชิ้นบนเวบบ์ กล้องหลัก NIRCam
และสเปคโตรสโคปอีกสองตัวคือ NIRISS
และ NIRSpec
Hannah
Wakeford นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์ที่มหาวิทยาลัยบริสตอล
ในสหราชอาณาจักร กล่าวว่า เราได้ทำนายสิ่งที่กล้องน่าจะโชว์ให้เราเห็น
แต่มันกลับแม่นยำกว่า, หลากหลายกว่า และสวยงามกว่าที่ฉันจะเชื่อว่าจะเป็น
เมื่อมีรายชื่อสารเคมีทั้งหมดที่พบในชั้นบรรยากาศดาวเคราะห์แล้ว
ยังช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ได้เห็นปริมาณของธาตุแต่ละชนิดในเชิงเปรียบเทียบ เช่น
อัตราส่วนคาร์บอน-ออกซิเจน,
กำมะถัน-ไฮโดรเจน หรืออัตราส่วน
โพทัสเซียม-ออกซิเจน
เป็นต้น ซึ่งก็จะให้แง่มุมว่าดาวเคราะห์ดวงนี้(หรืออาจจะดวงอื่นๆ ด้วย)
ก่อตัวขึ้นจากดิสก์ก๊าซและฝุ่นรอบดาวฤกษ์แม่ในช่วงวัยเยาว์อย่างไร ซึ่งคลังทางเคมีของ
WASP-39b ได้บอกถึงประวัติการชนและควบรวมของวัตถุขนาดเล็กที่เรียกว่า
วัตถุก่อกำเนิดดาวเคราะห์(planetesimals) เพื่อเติบโตใหญ่โตจนกลายเป็นดาวเคราะห์
ปริมาณของกำมะถัน(เทียบกับ)
ไฮโดรเจนบ่งชี้ว่าดาวเคราะห์อาจจะพบกับการสะสมมวลสารจากวัตถุก่อกำเนิดดาวเคราะห์พอสมควร
ซึ่งส่ง(องค์ประกอบเหล่านั้น) ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ Kazumasa Ohno นักวิจัยดาวเคราะห์นอกระบบที่ยูซี ซานตาครูซ
กล่าว ข้อมูลยังบ่งชี้ว่ามีปริมาณออกซิเจนมากกว่าคาร์บอนในชั้นบรรยากาศอย่างมาก
นี่อาจจะบ่งชี้ว่า WASP-39b มีกำเนิดไกลจากดาวฤกษ์แม่ออกไปจากนั้นก็อพยพเข้ามา
ทีมยังบอกได้ว่าในชั้นบรรยากาศมีเมฆที่ประกอบด้วยซัลไฟด์และซิลิเกต
แต่แทนที่จะปกคลุมเป็นผืนทั่วดาวเคราะห์ เมฆกลับกระจัดกระจายแตกเป็นปื้นเป็นริ้ว
ด้วยการเผยให้เห็นรายละเอียดในชั้นบรรยากาศดาวเคราะห์นอกระบบอย่างแม่นยำ
เครื่องมือบนเวบบ์ทำงานได้ดีเกินกว่าที่นักวิทยาศาสตร์คาดหมายไว้
และยังนำการสำรวจดาวเคราะห์นอกระบบก้าวไปอีกขั้น Laura Flagg นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยคอร์เนล
และสมาชิกทีมนานาชาติ กล่าวว่า
เรากำลังได้เห็นชั้นบรรยากาศดาวเคราะห์นอกระบบในภาพรวมขนาดใหญ่ นี่น่าตื่นเต้นอย่างไม่น่าเชื่อที่ได้รู้ว่าจะต้องคิดใหม่ทั้งหมดโดยสิ้นเชิง
นี่เป็นหนึ่งในส่วนที่ดีที่สุดในการเป็นนักวิทยาศาสตร์
การสำรวจนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “Transiting
Exoplanet Community Early Release Science Program” การสำรวจในช่วงต้นเหล่านี้เป็นการชิมลางการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ที่จะยิ่งน่าทึ่งมากขึ้นจากกล้องเวบบ์
Laura Kreidberg ผู้อำนวยการสถาบันมักซ์พลังค์เพื่อดาราศาสตร์
ซึ่งเป็นสมาชิกทีมโครงการสำรวจนี้ กล่าวในแถลงการณ์
เราใช้กล้องเวบบ์ทดสอบการทำงานของมัน และก็แทบหาข้อผิดพลาดไม่ได้เลย
ดีกว่าที่เราเคยหวังด้วยซ้ำ
แหล่งข่าว esawebb.org
: Webb reveals an exoplanet atmosphere as never seen before
iflscience.com : JWST
delivered the most detailed analysis yet of an exoplanet’s atmosphere
space.com : James Webb
Space Telescope reveals alien planet’s atmosphere like never before
No comments:
Post a Comment