เหตุการณ์คลื่นความโน้มถ่วง GW 190521 เป็นการควบรวมของหลุมดำที่มีมวลสูงสุด
ระลอกในผืนกาลอวกาศที่เกิดจากหลุมดำชนกันได้สอนเราเกี่ยวกับวัตถุที่น่าพิศวงเหล่านี้ได้มากมาย
คลื่นความโน้มถ่วงเก็บงำข้อมูลเกี่ยวกับหลุมดำเช่น มวล, รูปร่างวงโคจรที่พวกมันหมุนวนเข้าหากันและกัน,
การหมุนรอบตัวของพวกมัน และการเรียงตัว
จากสิ่งเหล่านี้
นักวิทยาศาสตร์จึงมั่นใจว่าการชนเกือบทั้งหมดที่เราได้เห็น(จากคลื่นความโน้มถ่วง)
เกิดจากหลุมดำในระบบคู่ หลุมดำสองแห่งเริ่มต้นขึ้นจากดาวมวลสูงคู่หนึ่งซึ่งเปลี่ยนเป็นหลุมดำด้วยกัน
จากนั้นก็หมุนวนเข้าหากันและควบรวมกัน
อย่างไรก็ตาม ในบรรดาการควบรวมที่พบราว 90
เหตุการณ์
มีเหตุการณ์หนึ่งที่ดูแปลกประหลาดอย่างมาก ซึ่งเกิดขึ้นในวันที่ 21 พฤษภาคม 2019 สร้างระลอกในผืนกาลอวกาศอย่างที่ไม่มีใครเหมือน Rossella
Gamba นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์ที่มหาวิทยาลัยเยนา
ในเจอรมนี กล่าวว่า สัณฐานและโครงสร้างที่คล้ายการระเบิดของมันนั้น
แตกต่างอย่างมากกับเหตุการณ์ที่สำรวจพบก่อนหน้านี้
เดิมเคยวิเคราะห์ว่า GW 190521 เป็นการควบรวมของหลุมดำมวลสูงที่หมุนรอบตัวเร็วมาก
2 แห่งเข้าใกล้กันและกันในแนววงโคจรที่เกือบกลมพอดี
แต่รายละเอียดพิเศษทำให้เราต้องเสนอการแปลผลที่เป็นไปได้อื่นๆ ด้วย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สัญญาณคลื่นความโน้มถ่วงที่เกิดขึ้นสั้น ท้าทายการหาคำอธิบาย
คลื่นความโน้มถ่วงที่เกิดจากการควบรวมของหลุมดำสองแห่ง
เหมือนกับระลอกคลื่นเมื่อหย่อนก้อนหินลงในสระน้ำ
แต่ก็ยังถูกสร้างขึ้นเมื่อวัตถุคู่เริ่มหมุนวนเข้าหากัน
และปฏิสัมพันธ์แรงโน้มถ่วงที่รุนแรงจะส่งสัญญาณระลอกที่อ่อนลงเมื่อหลุมดำสองแห่งเข้ามาใกล้กันมากขึ้น
รูปร่างและระยะเวลา(ไม่ถึง 0.1 วินาที) ของสัญญาณที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ทำให้เราตั้งสมมุติฐานว่าเป็นการควบรวมของหลุมดำสองแห่งโดยฉับพลัน
ซึ่งเกิดขึ้นโดยไม่มีช่วงหมุนวนเข้าหากันและกันเลย Alessandro Nagar นักดาราศาสตร์ที่
สถาบันเพื่อฟิสิกส์นิวเคลียร์แห่งชาติ อิตาลี กล่าว
ปฏิสัมพันธ์แรงโน้มถ่วงระหว่างหลุมดำคู่หนึ่งเกิดขึ้นได้มากกว่าแบบเดียว
แบบแรกก็คือ หลุมดำทั้งคู่อยู่ด้วยกันมาเนิ่นนาน
บางทีอาจจะนานตั้งแต่ก่อตัวเป็นดาวฤกษ์ทารกจากเมฆโมเลกุลก้อนเดียวกัน
อีกทางคือเมื่อวัตถุ 2 แห่งเคลื่อนที่ในอวกาศเข้าใกล้กันและกันมากพอที่จะดึงดูดด้วยแรงโน้มถ่วง
ในสิ่งที่เรียกว่า dynamical encounter นี่เป็นสิ่งที่
Gamba และทีมของเธอคิดว่าเกิดขึ้นกับ
GW 190521 ดังนั้นพวกเขาจึงออกแบบแบบจำลองเพื่อทดสอบสมมุติฐาน
พวกเขาสร้างแบบจำลองเสมือนจริงให้หลุมดำคู่ชนกัน โดยปรับเปลี่ยนตัวแปรเช่น
เส้นทาง, การหมุนรอบตัว และมวล เพื่อสร้างสัญญาณคลื่นความโน้มถ่วงประหลาดอย่างที่พบในเดือนพฤษภาคม
2019 ขึ้นอีกครั้ง
ผลที่ได้บอกว่าหลุมดำสองแห่งไม่ได้เริ่มเป็นระบบคู่ ต่างๆ
เคลื่อนที่อย่างเป็นอิสระแต่ถูกดักจับไว้ด้วยตาข่ายแรงโน้มถ่วงของกันและกัน
มันก็อาจจะนำไปสู่การก่อตัวของหลุมดำคู่ได้แต่ในที่นี้หลุมดำทั้งสองไม่ได้โคจรรอบกันและกันเป็นวงกลม
แต่จะทำให้ทั้งสองวิ่งผ่านกันและกันในเส้นทางที่เรียวยาว ก่อนที่จะชนกันก่อตัวเป็นหลุมดำขนาดใหญ่ขึ้นที่ราว
150 เท่าดวงอาทิตย์
และหลุมดำทั้งสองไม่มีแห่งใดเลยที่หมุนรอบตัว
ด้วยการพัฒนาแบบจำลองที่แม่นยำโดยใช้วิธีการวิเคราะห์ชั้นสูงกับแบบจำลองเสมือนจริงจำนวนมาก
เราได้พบว่าการควบรวมแบบความรีสูงในกรณีนี้สามารถอธิบายสัญญาณที่พบได้ดีกว่าสมมุติฐานอื่นๆ
Matteo Breschi นักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเยนา
กล่าว ความน่าจะเป็นอยู่ที่ 1: 4300
จากลำดับเหตุการณ์นี้
ทีมบอกว่าเป็นไปได้มากที่จะเกิดในพื้นที่ที่มีประชากรอยู่อย่างหนาแน่นเช่น
ในกระจุกดาว ซึ่งมีปฏิสัมพันธ์แรงโน้มถ่วงลักษณะนี้เกิดขึ้นได้บ่อยกว่า ซึ่งก็สอดคล้องกับการค้นพบก่อนหน้านี้จาก
GW 190521 เมื่อหลุมดำหนึ่งในสองแห่งในการควบรวมนี้
มีมวลราว 85 เท่ามวลดวงอาทิตย์
จากแบบจำลองการก่อตัวหลุมดำ
หลุมดำที่มีมวลสูงกว่า 65 เท่าดวงอาทิตย์ไม่สามารถก่อตัวขึ้นจากดาวฤกษ์เดี่ยวๆ
ได้ หนทางเดียวที่เรารู้ที่จะก่อตัวหลุมดำมวลระดับนี้ได้ก็คือ
ผ่านการควบรวมระหว่างวัตถุที่มีมวลต่ำกว่า 2 แห่ง งานของ Gamba และทีมได้พบว่ามวลของหลุมดำทั้งสองในการควบรวมนี้อยู่ที่ราว
81 และ 52 เท่าดวงอาทิตย์
ซึ่งต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้เล็กน้อย
แต่หนึ่งในหลุมดำก็ยังอยู่นอกเส้นทางการก่อตัวจากดาวฤกษ์เดี่ยวยุบตัวลงอยู่ดี
ยังคงไม่แน่ใจว่าแบบจำลองนี้จะผิดหรือไม่
แต่การควบรวมแบบลำดับขั้น(hierarchical merger) ซึ่งโครงสร้างขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้นผ่านการควบรวมของวัตถุขนาดเล็กอย่างต่อเนื่อง
ก็น่าจะเกิดขึ้นได้บ่อยกว่าในสภาพแวดล้อมในกระจุกซึ่งมีประชากรวัตถุเหล่านี้จำนวนมาก
Dynamical encounter ระหว่างหลุมดำจัดว่าเกิดขึ้นได้ยาก
และข้อมูลคลื่นความโน้มถ่วงที่รวบรวมโดย LIGO และ Virgo จนถึงตอนนี้ก็ดูจะสนับสนุนแบบนั้น อย่างไรก็ตาม
เกิดขึ้นได้ยากไม่ได้แปลว่าไม่มีทางเกิดขึ้นได้ และงานใหม่ก็บอกว่า GW
190521 อาจจะเป็นการตรวจจับครั้งแรกของเรา
และครั้งแรกก็หมายความว่า อาจจะพบเพิ่มเติมอีกในอนาคต
หอสังเกตการณ์คลื่นความโน้มถ่วงต่างๆ
ซึ่งขณะนี้กำลังอัพเกรดและบำรุงรักษา จะพร้อมออนไลน์อีกครั้งในเดือนมีนาคม 2023
เพื่อรอบการสำรวจครั้งใหม่ ครั้งนี้
เครื่องตรวจจับสองตัวของ LIGO(ที่แฮนฟอร์ดและลิฟวิงสตัน
สหรัฐฯ ) และเครื่องตรวจสอบ Virgo ในอิตาลี
จะทำงานร่วมกับ KAGRA ในญี่ปุ่น
ให้พลังการสำรวจที่เพิ่มขึ้นไปอีก งานวิจัยเผยแพร่ใน Nature Astronomy
แหล่งข่าว sciencealert.com
: two black holes met by chance, and it created something never seen before
phys.org : black holes in eccentric orbit
iflscience.com : crowded
star cluster explain the strangest gravitational wave yet found
No comments:
Post a Comment